97 คือ จำนวนเขตที่ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ สามารถคว้าที่นั่งมาได้ในการเลือกตั้ง 2562 เป็นอันดับสองรองจากพรรคเพื่อไทยที่ได้ 136 ที่นั่ง* พลังประชารัฐเป็นพรรคก่อตั้งใหม่ในปี 2561 เพื่อมาสืบทอดอำนาจของ คสช. ทั้งในแง่นโยบาย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน และแง่บุคคลที่พรรคพลังประชารัฐชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรีขึ้นเป็นบุคคลในบัญชีนายกรัฐมนตรีอันดับหนึ่งและหนึ่งเดียวของพรรค
แกนนำและผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองนี้ประกอบด้วยบุคคลที่เคยร่วมงานกับคสช.ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาและนักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งบรรดา ส.ส. “พลังดูด” ระดับคุณภาพจากพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพลิกดูรายชื่อ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐที่ชนะจากระบบแบ่งเขตทั้ง 97 เขต พอจะจัดแบ่งประเภทได้ ดังนี้
1. ส.ส.พลังดูด 37 คน
พรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขต 97 เขต เป็นผลงานของ ส.ส. แชมป์เก่าที่ถูกพลังดูดให้ย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐจำนวน 37 คน กวาดคะแนนให้พรรคพลังประชารัฐไปทั้งสิ้น 1,412,522คะแนน โดยแบ่งเป็นอดีต ส.ส. หรืออดีตผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย, พรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทยจำนวน 22 คน คะแนนรวม 866,267 คะแนน, พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน คะแนนรวม 170,153 คะแนน, พรรคชาติไทยพัฒนา 4 คน คะแนนรวม 159,497 คะแนน, พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 1 คน คะแนนรวม 41,918 คะแนน, พรรคพลังชล 2 คน คะแนนรวม 92,912 คะแนน และพรรคภูมิใจไทย 2 คน คะแนนรวม 81,775 คะแนน
ตัวอย่างที่ดีที่สุดของ ส.ส. “พลังดูด” เจ้าของพื้นที่ คือ ฐานิสร์ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดสระแก้ว ซึ่งทำคะแนนได้ดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มส.ส.พลังดูด เขาได้คะแนน 63,099 คะแนนจากบัตรดี 100,804 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 62.596 ของจำนวนบัตรดีในเขตนั้น ฐานิสร์เป็นผู้แทนที่เกาะติดพื้นที่มาอย่างยาวนาน โดยได้รับเลือกเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตครั้งแรกปี 2539 จนถึงปัจจุบัน ในปี 2539 สังกัดพรรคความหวังใหม่ ต่อมาในปี 2544 และ 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย ก่อนที่ในปี 2550 จะย้ายออกไปสังกัดพรรคประชาราช การเลือกตั้งครั้งนั้นเขาได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ในจังหวัดสระแก้ว (การเลือกตั้ง 2550 สระแก้วมี 1 เขตเลือกตั้ง ผู้แทน 3 คน) และในปี 2554 กลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทย จะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา ฐานิสร์ย้ายพรรคทั้งสิ้น 4 ครั้ง แต่ไม่เคยหลุดออกจากตำแหน่ง ส.ส.เลยสักครั้งเดียว
อ่านเพิ่มเติม สำรวจชัยชนะ ส.ส. พลังดูดพลังประชารัฐ
ลำดับ | จังหวัด | ชื่อ-สกุล | พรรคสังกัดเดิม | คะแนนที่ได้ | คะแนนรวม | % |
1 | สระแก้ว | ฐานิสร์ เทียนทอง | เพื่อไทย | 63099 | 100804 | 62.6 |
2 | สระแก้ว | ตรีนุช เทียนทอง | เพื่อไทย | 52787 | 98292 | 53.7 |
3 | พะเยา | ธรรมนัส พรหมเผ่า | เพื่อไทย | 52417 | 98921 | 52.99 |
4 | ชัยนาท | มณเฑียร สงฆ์ประชา | ชาติไทยพัฒนา** | 48505 | 92292 | 52.56 |
5 | ชลบุรี | รณเทพ อนุวัฒน์ | พลังชล | 54644 | 106056 | 51.52 |
6 | เพชรบูรณ์ | จักรัตน์ พั้วช่วย | พลังประชาชน | 49741 | 105067 | 47.34 |
7 | นครราชสีมา | อธิรัฐ รัตนเศรษฐ | เพื่อไทย | 40454 | 86124 | 46.97 |
8 | ชัยนาท | อนุชา นาคาศัย | เพื่อไทย | 44104 | 94774 | 46.54 |
9 | ราชบุรี | ปารีณา ไกรคุปต์ | เพื่อไทย | 46409 | 101947 | 45.52 |
10 | เพชรบูรณ์ | วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ | เพื่อไทย | 43242 | 97855 | 44.19 |
11 | สงขลา | วันชัย ปริญญาศิริ | เพื่อไทย | 37134 | 90817 | 40.89 |
12 | ตาก | ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ | เพื่อไทย | 43787 | 107487 | 40.74 |
13 | กาญจนบุรี | พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ | เพื่อไทย | 40308 | 100348 | 40.168 |
14 | ราชบุรี | บุญยิ่ง นิติกาญจนา | ภูมิใจไทย | 40030 | 100038 | 40.01 |
15 | นครราชสีมา | สมศักดิ์ พันธ์เกษม | ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน | 41918 | 105651 | 39.68 |
16 | กาญจนบุรี | อัฏฐพล โพธิพิพิธ | ประชาธิปัตย์ | 21363 | 54369 | 39.29 |
17 | สิงห์บุรี | โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ |
ชาติไทยพัฒนา |
48970 | 125186 | 39.12 |
18 | เพชรบูรณ์ | เอี่ยม ทองใจสด | เพื่อไทย | 36034 | 94485 | 38.14 |
19 | กำแพงเพชร | พันตำรวจโทไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ | เพื่อไทย | 34271 | 91596 | 37.42 |
20 | นครราชสีมา | ทัศนียา รัตนเศรษฐ | เพื่อไทย | 35983 | 98363 | 36.58 |
21 | เพชรบูรณ์ | สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ | เพื่อไทย | 35225 | 97159 | 36.26 |
22 | กำแพงเพชร | อนันต์ ผลอำนวย | พลังประชาชน | 31127 | 86951 | 35.8 |
23 | ฉะเชิงเทรา | สุชาติ ตันเจริญ | เพื่อไทย | 31265 | 87761 | 35.63 |
24 | ชลบุรี | สุชาติ ชมกลิ่น | พลังชล | 38268 | 111517 | 34.32 |
25 | สมุทรปราการ | กรุงศรีวิไล สุทินเผือก | ภูมิใจไทย | 41745 | 122662 | 34.03 |
26 | กำแพงเพชร | ปริญญา ฤกษ์หร่าย | เพื่อไทย | 30112 | 89152 | 33.78 |
27 | กำแพงเพชร | ไผ่ ลิกค์ | เพื่อไทย | 32642 | 97365 | 33.53 |
28 | ชลบุรี | สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ | ประชาธิปัตย์ | 31261 | 94469 | 33.09 |
29 | นราธิวาส | วัชระ ยาวอหะซัน | ชาติไทยพัฒนา | 32268 | 98960 | 32.61 |
30 | กาญจนบุรี | ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ | ประชาธิปัตย์ | 30287 | 95814 | 31.61 |
31 | กทม. | ชาญวิทย์ วิภูศิริ | ประชาธิปัตย์ | 31551 | 100447 | 31.41 |
32 | นครสวรรค์ | นิโรธ สุนทรเลขา | เพื่อไทย | 25998 | 84898 | 30.62 |
33 | นครสวรรค์ | วีระกร คำประกอบ | เพื่อไทย | 31051 | 102330 | 30.34 |
34 | ระยอง | สมพงษ์ โสภณ | เพื่อไทย | 29077 | 97025 | 29.97 |
35 | สระบุรี | กัลยา รุ่งวิจิตรชัย | ประชาธิปัตย์ | 31035 | 120669 | 25.72 |
36 | นครสวรรค์ | ภิญโญ นิโรจน์ | ประชาธิปัตย์ | 24656 | 98290 | 25.08 |
37 | แม่ฮ่องสอน | ปัญญา จีนาคำ | ชาติไทยพัฒนา | 29754 | 133617 | 22.27 |
2. นักการเมืองท้องถิ่น 35 คน
ช่วงก่อนการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐไม่เพียงถูกกล่าวหาว่า ดูด ส.ส. จากพรรคการเมืองคู่แข่ง แต่ยังดึงตัวนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาสนับสนุนพรรคอีกด้วย จากจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตที่ชนะการเลือกตั้ง 97 คน เป็นที่นั่งที่ได้จากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น 35 เขต โดยกวาดคะแนนไปทั้งสิ้น 1,177,485 คะแนน
แบ่งประเภทตามตำแหน่งในการเมืองท้องถิ่น ดังนี้ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 3 คน คะแนนรวม 110,735 คะแนน, อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 4 คน คะแนนรวม 146,591 คะแนน, อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 2 คน คะแนนรวม 59,901 คะแนน, อดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 คน คะแนนรวม 37,011 คน, อดีตนายกเทศมนตรี 5 คน คะแนนรวม 179,169 คน, อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 คน คะแนนรวม 473,188 คะแนน, อดีตสมาชิกสภาเทศบาล 1 คน คะแนนรวม 34,211 คะแนน, อดีตสมาชิกสภากทม. 4 คน คะแนนรวม 111,350 คะแนน และสมาชิกสภาเขตกทม. 1 คน คะแนนรวม 25,329 คะแนน
หากแบ่งตามจังหวัดพบว่า กรุงเทพมหานครมีนักการเมืองท้องถิ่นที่มาสังกัดพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งได้มากที่สุด 5 ที่นั่ง คือ กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา, กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ, จักรพันธ์ พรนิมิตร และกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ทั้งหมดเคยเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และศิริพงษ์ รัศมี อดีตประธานสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เท่าที่มีข้อมูลพบว่า พรรคพลังประชารัฐได้ดึงตัวอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์ไม่น้อยกว่า 5 คน และพรรคเพื่อไทย ไม่น้อยกว่า 2 คน
ลำดับที่ | จังหวัด | ชื่อ-สกุล | พรรคสังกัดเดิม | คะแนนที่ได้ | คะแนนรวม | % |
1 | เพชรบุรี | สุชาติ อุสาหะ | รองนายกอบจ.เพชรบุรีและฐานเสียงปชป. | 46901 | 96412 | 48.646 |
2 | ฉะเชิงเทรา | ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ | สมาชิกสภาอบจ.ฉะเชิงเทรา | 44500 | 103213 | 43.115 |
3 | พะเยา | จีรเดช ศรีวิราช | นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ | 41755 | 97547 | 42.805 |
4 | สระแก้ว | สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ | สมาชิกสภาอบจ.สระแก้ว | 41962 | 98073 | 42.786 |
5 | สงขลา | พยม พรหมเพชร | นักการเมืองท้องถิ่น,สมาชิกสภาอบจ.สงขลา | 42390 | 103425 | 40.986 |
6 | กาญจนบุรี | สมเกียรติ วอนเพียร | นายกเทศมนตรีต.สำรอง | 32882 | 81021 | 40.585 |
7 | ขอนแก่น | วัฒนา ช่างเหลา | รองนายกอบจ.ขอนแก่น | 46276 | 115439 | 40.087 |
8 | สุโขทัย | พรรณสิริกุล นาถสิริ | นายกอบจ.สุโขทัย | 43957 | 112111 | 39.208 |
9 | สุโขทัย | ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง | สมาชิกสภาอบจ.สุโขทัย | 40419 | 103229 | 39.155 |
10 | ชัยภูมิ | สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ | นายกเทศมนตรีต.วะตะแบก | 32352 | 82726 | 39.107 |
11 | ราชบุรี | กุลวลี นพอมรบดี | สมาชิกสภาอบจ.ราชบุรี/ลูกสาว มานิต นพอมรบดี | 39158 | 100965 | 38.784 |
12 | สมุทรปราการ | อัครวัฒน์ อัศวเหม | นายกอบจ.สมุทรปราการ | 34668 | 90691 | 38.227 |
13 | อุบลราชธานี | ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ | รองนายกอบจ.อุบลราชธานี | 32630 | 85484 | 38.171 |
14 | นราธิวาส | สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ | สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก | 34211 | 90660 | 37.735 |
15 | นครราชสีมา | ทัศนาพร เกษเมธีการุณ | นายกเทศมนตรีเทศบาลต.ห้วยแถลง | 36473 | 101159 | 36.055 |
16 | เพชรบุรี | สาธิต อุ๋ยตระกูล | สมาชิกสภาอบจ.เพชรบุรี | 34637 | 97463 | 35.539 |
17 | เพชรบูรณ์ | พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ | รองประธานอบจ.เพชรบูรณ์ | 37011 | 104911 | 35.278 |
18 | สุรินทร์ | ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ | สมาชิกสภาอบจ.สุรินทร์ | 35446 | 105093 | 33.728 |
19 | กทม. | กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา | สมาชิกสภากทม. | 27620 | 82412 | 33.515 |
20 | ชัยภูมิ | เชิงชาย ชาลีรินทร์ | สมาชิกสภาอบจ.อ.จตุจัส | 33614 | 103108 | 32.601 |
21 | พิจิตร | สุรชาติ ศรีบุศกร | ประธานสภา อบจ. พิจิตร | 30325 | 93443 | 32.453 |
22 | นครศรีธรรมราช | สายัณห์ ยุติธรรม | ประธานสภา อบจ.นครศรีธรรมราช | 29576 | 93018 | 31.796 |
23 | สมุทรปราการ | ยงยุทธ สุวรรณบุตร | นายกเทศมนตรีต.แพรกษา | 35707 | 114477 | 31.191 |
24 | สมุทรปราการ | ไพลิน เทียนสุวรรณ | สภาชิกสภาอบจ.สมุทรปราการ | 27875 | 91574 | 30.44 |
25 | สมุทรปราการ | ภริม พูลเจริญ | สภาชิกสภาอบจ.สมุทรปราการ | 29424 | 98854 | 29.765 |
26 | นครปฐม | ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ | นายกอบจ.นครปฐม | 32110 | 108593 | 29.569 |
27 | พิษณุโลก | อนุชา น้อยวงศ์ | สมาชิกสภาอบจ.พิษณุโลก | 25207 | 86672 | 29.083 |
28 | กทม. | กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ | สมาชิกสภากทม. | 23246 | 81257 | 28.608 |
29 | กทม. | จักรพันธ์ พรนิมิตร | สมาชิกสภากทม. | 31394 | 112151 | 27.993 |
30 | กทม. | ศิริพงษ์ รัศมี | ประธานสมาชิกสภาเขตกทม. | 25329 | 91328 | 27.734 |
31 | กทม. | กษิดิ์เดช ชุติมันต์ | สมาชิกสภากทม. | 29090 | 108656 | 26.773 |
32 | ตาก | ภาคภูมิ วิบูลย์ประมุข | รองนายกอบจ.ตาก | 20784 | 79526 | 26.135 |
33 | นนทบุรี | เจริญ เรี่ยวแรง | สมาชิกสภาอบจ.นนทบุรี | 31767 | 125052 | 25.403 |
34 | พิจิตร | ภูดิท อินสุวรรณ์ | สมาชิกสภาอบจ.พิจิตร | 21466 | 86614 | 24.784 |
35 | สมุทรสาคร | จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ | สมาชิกสภาอบจ.สมุทรสาคร | 25323 | 102835 | 24.625 |
พลังประชารัฐยึดเพชรบุรี เขี่ยอิทธิพล “พลบุตร-สุภาแพ่ง” ของประชาธิปัตย์
เมื่อแบ่งตามสัดส่วนคะแนนที่ได้รับ ผู้ทำคะแนนได้ดีที่สุด คือ สุชาติ อุสาหะ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เพชรบุรี ทำคะแนนได้ดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น เขาได้คะแนน 46,901 คะแนนจากบัตรดี 96,412 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 48.646 ของจำนวนบัตรดีในเขตนั้น สุชาติคร่ำหวอดอยู่ในวงการการเมืองท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี, ประธานสภาจังหวัดเพชรบุรีและรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี ทั้งยังเป็นผู้ช่วยของอลงกรณ์ พลบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ การเลือกตั้ง 2562 สุชาติสามารถล้ม “แชมป์เก่า” อย่างตามมาด้วยอภิชาติ สุภาแพ่ง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ไป 21,980 คะแนน ที่ได้รับเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2544-2554
ที่ผ่านมาพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีถือเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์และมีตระกูลการเมืองหลักๆ ที่ครองพื้นที่ เช่น พลบุตรและสุภาแพ่ง ทั้งสองตระกูลผูกขาดเป็นผู้แทนของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้ง 2562 พรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัคร คือ อรรถพร พลบุตร น้องชายของอลงกรณ์ เขต 1, กัมพล สุภาแพ่ง ส.ส. 2 สมัย เขต 2 และอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส. 4 สมัย เขต 3 ขณะที่พรรคพลังประชารัฐส่ง กฤษณ์ อยู่แก้ว ประธานสภาทนายความจังหวัดเพชรบุรี เขต 1, สาธิต อุ๋ยตระกูล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี เขต 2 และสุชาติ อุสาหะ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐชนะเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี คว้าไปทั้งหมด 3 ที่นั่ง โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ที่นั่งสักที่นั่งเดียวในจังหวัดเพชรบุรี
นอกจากนี้จากจำนวนนักการเมืองท้องถิ่นที่ชนะการเลือกตั้ง 35 คน มี 2 คนที่มีนามสกุลเดียวกันกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเคยถูกหัวหน้า คสช. ใช้คำสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อตรวจสอบการทุจริตคือ ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ เขต 6 อุบลราชธานี โดยก่อนหน้านี้คนในตระกูลโควสุรัตน์อย่างพรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลราชธานี ถูกระงับตำแหน่งเพื่อตรวจสอบตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 19/2558 นอกจากธนะสิทธิ์ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีสิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ย้ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย
“อัศวเหม” นำทัพ ทวงคืนปากน้ำจากเพื่อไทย ยกให้พลังประชารัฐ
อีกตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ อัครวัฒน์ อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐเขต 1 สมุทรปราการ ซึ่งได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ที่ 34,668 คะแนน อัครวัฒน์เป็นลูกพี่ลูกน้องของชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ถูกระงับตำแหน่งเพื่อตรวจสอบตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 19/2558 และยังไม่ได้โอกาสคืนสู่ตำแหน่ง โดยชนม์สวัสดิ์ได้นำ “กลุ่มปากน้ำ” หรือ “สมุทรปราการก้าวหน้า” เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ
ตระกูลอัศวเหมถือเป็นตระกูลการเมืองที่สำคัญในการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรปราการและสามารถมีตำแหน่งแห่งที่ในการเมืองระดับชาติได้อย่างต่อเนื่อง บุคคลสำคัญ คือ วัฒนา อัศวเหม พ่อของชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ระหว่างปี 2518-2539 วัฒนาชนะการเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดสมุทรปราการมาตลอด ก่อนที่ในปี 2544 จะถูกทอนบทบาทจากอิทธิพลของพรรคไทยรักไทยที่ชิงเก้าอี้ส.ส.ในจังหวัดสมุทรปราการไปเกือบทั้งหมด ทำให้ตระกูลอัศวเหมต้องถอยไปปักหลักในพื้นที่การเมืองท้องถิ่น นับแต่นั้นพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการกลายเป็นฐานสำคัญของพรรคไทยรักไทยและเพื่อไทยในการเมืองระดับชาติ
สถานการณ์เปลี่ยนในการเลือกตั้ง 2562 พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร คือ สุทธิรัตน์ ยังตรง เขต 1, ภิญโญ เลิศกิจไพโรจน์ เขต 2, ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ 2544-2554 เขต 3, วรชัย เหมะ ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ 2554 เขต 4, สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ 2554 เขต 5, นฤมล ธารดำรงค์ ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ 2550 เขต 6 และนันทวรรณ ประสพดี เขต 7 โดย 4 คนเคยเป็น ส.ส. เก่า ยกเว้น สุทธิรัตน์ ยังตรง, ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์และนันทวรรณ ประสพดี แต่ทั้ง 3 คนยังคงอยู่ในกลุ่มการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งในเขตจังหวัดสมุทรปราการมาก่อน
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐส่งผู้สมัครที่เกือบทั้งหมดเป็นหรือมีความเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น คือ อัครวัฒน์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เขต 1, ยงยุทธ สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา เขต 2, ภริม พูลเจริญ สภาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เขต 3, จาตุรนต์ นกขมิ้น ลูกชายของ ทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ เขต 4, กรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย เขต 5, ฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการนายกเทศมนตรี เมืองปู่เจ้าสมิงพรายและหลานสนิท ส.ส.สมุทรปราการหลายสมัย เขต 6 และไพลิน เทียนสุวรรณ สภาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เขต 7
ผลการเลือกตั้ง 2562 พรรคพลังประชารัฐคว้าที่นั่ง 6 เขตจากทั้งหมด 7 เขต แพ้ไป 1 เขตคือ เขต 4 จาตุรนต์ แพ้ให้กับวุฒินันท์ บุญชู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่ได้ที่นั่งในจังหวัดสมุทรปราการเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
3. คนหน้าใหม่ 19 คน
จากจำนวน 97 คนของ ส.ส. แบบแบ่งเขตพรรคพลังประชารัฐที่ชนะการเลือกตั้งมี 19 คนที่จัดว่า เป็น “คนหน้าใหม่" ที่ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. มาก่อน และสามารถกวาดคะแนนไปได้ 671,880 คะแนน โดยผู้ที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดในกลุ่มนี้ คือ สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส. เขต 8 ชลบุรี เป็นนักธุรกิจร้านทองคำในพื้นที่สัตหีบ เขาได้คะแนน 33,967 คะแนนจากบัตรดีทั้งหมด 82,758 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 41.044 ชนะนาวาตรีสุรสิทธิ์ ทะวะลัย พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้คะแนน 25,874 คะแนน
ลำดับที่ | จังหวัด | ชื่อ-สกุล | พรรคสังกัดเดิม | คะแนนที่ได้ | คะแนนรวม | % |
1 | ชลบุรี | สะถิระ เผือกประพันธุ์ | – | 33967 | 82758 | 41.044 |
2 | ชลบุรี | ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง |
ลูกชายกำพล วงศ์ทรายทอง นายกเทศมนตรี ต.บางทราย |
42427 | 109704 | 38.674 |
3 | เพชรบุรี | กฤษณ์ แก้วอยู่ |
ประธานสภาทนายความจ.เพชรบุรี |
35106 | 92174 | 38.087 |
4 | นครราชสีมา | ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ |
ทายาทตระกูลรัตนเศรษฐ |
39774 | 104609 | 38.022 |
5 | สงขลา | ศาสตรา ศรีปาน | – | 36802 | 100642 | 36.567 |
6 | นครศรีธรรมราช | รงค์ บุญสวยขวัญ |
อาจารย์ม.วลัยลักษณ์ |
36361 | 99559 | 36.522 |
7 | สระบุรี | สมบัติ อำนาคะ |
ประธานสภาเกษตรกรจ.สระบุรี |
43776 | 120887 | 36.212 |
8 | สงขลา | ร้อยตำรวจเอกอรุณ สวัสดี | – | 31913 | 89338 | 35.722 |
9 | ภูเก็ต | สุทา ประทีป ณ ถลาง | – | 32338 | 96186 | 33.62 |
10 | นครศรีธรรมราช | สันหพจน์ สุขศรีเมือง | – | 34613 | 105242 | 32.889 |
11 | กทม. | พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ | – | 26909 | 86701 | 31.037 |
12 | กทม. | ประสิทธิ์ มะหะหมัด | – | 28203 | 101127 | 27.889 |
13 | กทม. | ภาดาท์ วรกานนท์ | – | 28690 | 103879 | 27.619 |
14 | ภูเก็ต | นัทธี ถิ่นสาคู |
ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูภูเก็ต |
27267 | 100493 | 27.133 |
15 | ยะลา | อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ |
ทนายความสิทธิฯชายแดนใต้ |
23745 | 88390 | 26.864 |
16 | พิจิตร | พรชัย อินทร์สุข | – | 24781 | 94571 | 26.204 |
17 | กทม. | ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ | – | 27489 | 105238 | 26.121 |
18 | กทม. | ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ | – | 25180 | 98926 | 25.453 |
19 | นครราชสีมา | เกษม ศุภรานนท์ |
ผอ.อนุบาลนครราชสีมา |
25982 | 106546 | 24.386 |
ในจำนวนคนหน้าใหม่เหล่านี้ มีคนที่พอจะมีฐานเสียงจากครอบครัวอยู่บ้างแล้ว เช่น ร้อยเอกจองชัย วงศ์ทรายทอง เขต 2 ชลบุรี ลูกชายกำพล วงศ์ทรายทอง นายกเทศมนตรีตำบลบางทรายและเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดชลบุรี เขาได้คะแนน 42,427 คะแนนจากจำนวนบัตรดีทั้งหมด 109,704 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 38.674 ตามมาด้วยนิพนธ์ แจ่มจำรัส พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ 21,147 คะแนน
และอีกคน คือ ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส. เขต 4 นครราชสีมา ลูกชายคนที่ 2 ของวิรัชและทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ทวิรัฐได้คะแนน 39,774 คะแนนจากจำนวนบัตรดีทั้งหมด 104,609 หรือคิดเป็นร้อยละ 38.022 ชนะสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล จากพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ 33,674 คะแนน พ่อของทวิรัฐ คือ วิรัช รัตนเศรษฐ นักการเมืองคนสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา วิรัช แต่งงานกับทัศนียามีลูกชาย 3 คนคือ อธิรัฐ, ตติรัฐ และทวิรัฐ เขาเริ่มเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต จังหวัดนครราชสีมาครั้งแรกปี 2529 และมีบทบาทในการเมืองระดับชาติเรื่อยมา ต่อมาปี 2554 วิรัชเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยส่งทัศนียาและอธิรัฐลงสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต ขณะที่เขาลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งทั้งหมดได้เข้าสภา
ในปี 2562 วิรัชได้พาตระกูลรัตนเศรษฐและเครือข่ายย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐและลงสมัครทั้งหมด 7 คนแบ่งเป็นผู้ที่ลง ส.ส. แบบแบ่งเขต 4 คน คือ ทัศนียา,อธิรัฐ,ทวิรัฐและทัศนาพร เกษเมธีการุณ น้องสาวของทัศนียาและนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยแถลง ลง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ 3 คน คือ วิรัช ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับ 7 วลัยพร น้องสาวของวิรัช ลำดับ 29 และตติรัฐ ลำดับ 35 ผลการเลือกตั้งทัศนียา,อธิรัฐ,ทวิรัฐและทัศนาพร ชนะการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตทั้งหมด ขณะที่วิรัช เป็นเพียงคนเดียวที่ได้ที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ รวมแล้วตระกูลรัตนเศรษฐคว้าที่นั่งไป 5 ที่นั่ง
4. อื่นๆ
นอกจาก 3 กลุ่มที่กล่าวไปข้างต้นแล้วยังมี 3 คนที่เคยดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชนะในปี 2562 คือ สัญญา นิลสุพรรณ ที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร ลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 3 จังหวัดนครสวรรค์, มานัส อ่อนอ้าย เลขานุการนายกอบจ.พิษณุโลก เขต 5 จังหวัดพิษณุโลกและฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการนายกเทศมนตรี เมืองปู่เจ้าสมิงพรายและหลานสนิท กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการหลายสมัย เขต 6 จังหวัดสมุทรปราการ คนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดคือ สัญญา ได้คะแนน 32,868 จากคะแนนรวมทั้งหมด 95,487 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 34.421 ชนะสัญชัย วงษ์สุนทร จากพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนน 27,193 คะแนน การเลือกตั้ง 2562 เป็นครั้งแรกที่สัญชัยสอบตกนับตั้งแต่เป็น ส.ส. จังหวัดนครสวรรค์มาตั้งแต่ปี 2544
อีก 2 คนเป็นผู้ที่เคยเป็นมือไม้ให้แก่ คสช. คือ ประทวน สุทธิอำนวยเดช อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดลพบุรีและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เขต 1 จังหวัดลพบุรี เขาได้คะแนน 31,650 คะแนนจากคะแนนรวมทั้งหมด 105,654 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 29.956 ชนะพิชัย เกียรติวินัยสกุล จากพรรคเพื่อไทยที่ได้ 29,375 คะแนน และสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เขต 9 กรุงเทพมหานคร เขาได้คะแนน 34,907 จากคะแนนรวมทั้งหมด 122,755 คะแนนหรือร้อยละ 28.436 ชนะสุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนน 32,115 คะแนน
ในเลือกตั้งเขต 9 เคยมีกรณีคลางแคลงใจ จนสุรชาติ เทียนทอง ร้องเรียนว่า พบความไม่ชอบมาพากลในการนับคะแนนที่ผลคะแนนไม่ขึ้น และบัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ แต่ผู้อำนวยการเขตหลักสี่กลับแจ้งในเช้าวันรุ่งขึ้นว่า เป็นการเข้าใจผิด นอกจากนี้ยังพบว่า มีการนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของเขต 9 ไปนับที่เขต 1 ซึ่งผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งเขต 1 ได้ทักท้วงว่า มีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจากเขต 9 มา แต่กรรมการที่นับคะแนนกลับบอกว่า ให้พิจารณาเป็นบัตรเสีย
นอกจากนี้สำนักงานพรรคเพื่อไทย ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่เขต 9 ว่า มีชื่อผู้มีสิทธิอยู่ใน บ้านเลขที่ 33/3 ถนนลาดยาว ซึ่งพบว่า เป็นที่ตั้งของทัณฑสถานหญิงกลางอันเป็นสถานที่ราชการ จึงไม่น่าจะมีชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ แต่กลับมีชื่อโผล่มาถึง 252 คน ซึ่งไม่รู้ว่า มีการยกเลิกรายชื่อดังกล่าวหรือไม่
และยังมีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด 1 คน ที่มาลงสมัคร ส.ส. แล้วชนะคือนิพันธ์ ศิริธร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้คะแนน39,416 คะแนนจากคะแนนรวมทั้งหมด 124,964 คะแนนหรือคิดเป็นร้อยละ 31.541 โดยชนะสุกิจ อัถ โถปกรณ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 38,332 คะแนนไปอย่างฉิวเฉียด
หมายเหตุ
*ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง 137 ที่นั่ง แต่วันที่ 24 เมษายน 2562 มีการประกาศให้ใบส้มแก่สุรพล เกียรติไชยการ ว่าที่ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจึงเหลือที่นั่ง 136 ที่นั่ง
**มณเฑียร สงฆ์ประชา เป็นรองเลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ปี 2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ตัดสิทธิเลือกตั้งของมณเฑียรอันเป็นผลจากข้อกล่าวหาการซื้อเสียงและยุบพรรคชาติไทย
RELATED POSTS
No related posts