เคาะแล้ว! วันนอร์นั่งประธานสภาไร้คู่แข่ง ก้าวไกล-เพื่อไทย นั่งเก้าอี้รองประธานสภา

วันนี้ (4 กรกฎาคม 2566)  เวลา 10.07 น. ที่สัปปายะสภาสถาน เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ครั้งแรก หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่เสร็จสิ้น จึงต่อด้วยนัดลงมติเลือกประธานและรองประธานผู้แทนราษฎร โดยมี วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯ ที่อาวุโสสูงสุด อายุ 89 ปี
หลัง ส.ส.ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระบวนการต่อมาเป็นการเลือกประธานผู้แทนราษฎร พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เสนอชื่อ ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานสภา ทั้งนี้ ไม่มีผู้ถูกเสนอชื่อขึ้นมาแข่งขัน จึงถือว่าที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อที่ 6 วรรคสาม กำหนดว่า หากผู้ถูกเสนอชื่อมีเพียงคนเดียวให้ถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือก แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกเสนอแม้มีคนเดียวก็ต้องแสดงวิสัยทัศน์ 
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์โดยสรุปได้ว่า ตนจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทางการเมืองและจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในรัฐพิธี (เปิดประชุมรัฐสภา 4 กรกฎาคม 2566) มาเป็นแนวปฏิบัติต่อไป และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับของที่ประชุมสภาฯ ทุกประการ อีกทั้ง จะกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมให้แก่รองประธานสภา แนวทางการพิจารณาร่างกฎหมายอย่างเป็นระบบ พร้อมให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานของกรรมาธิการทุกคณะเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนทุกกรณี ในการต่างประเทศจะมุ่งเน้นในงานรัฐสภาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสุดท้ายให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่กำกับงานของส่วนสถาบันพระปกเกล้าให้มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมฝ่ายนิติบัญญัติ และจะสนับสนุนสถานีโทรทัศน์และวิทยุของรัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชนเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยในทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป 
หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือกประธานสภาแล้ว ลำดับต่อมาเป็นการเลือกรองประธานสภา คนที่หนึ่ง และ คนที่สอง  โดยลำดับแรกเป็นการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งก่อน  
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.เขตพิษณุโลก พรรคก้าวไกล ขณะที่อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.เขตราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อ วิทยา แก้วภารดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ฉะนั้น เมื่อมีการเสนอมากกว่าหนึ่งรายชื่อ จึงต้องลงคะแนนโหวตรองประธานสภา เป็นการลับและให้ผู้ถูกเสนอชื่อได้แสดงวิสัยทัศน์เช่นเดียวกัน 
ช่วงการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นรองประธานสภา คนที่หนึ่ง เริ่มด้วยผู้ถูกเสนอชื่อคนแรก ปดิพัทธ์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์โดยสรุปได้ว่า ตนพร้อมสนับสนุนงานนิติบัญญัติและการทำงานของประธานสภาฯ ต้องการส่งเสริมและยกระดับกระบวนการนิติบัญญัติเรียกความเชื่อมั่นของประชาชน และให้ฝ่ายนิติบัญญัติกลับมามีตัวตนและศักดิ์ศรีไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร อีกทั้งจะขับเคลื่อนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็น “รัฐสภาสามารถ” (Smart Parliament) เสริมสร้างให้กระบวนการนิติบัญญัติเป็นไปตามมาตรฐานสากล เรียกความเชื่อมั่นศรัทธาทั้งในประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย โดยตนปรารถนาให้มีการติดตามร่างกฎหมายต่างๆ ได้อย่างโปร่งใส และส่งเสริมเพื่อนสมาชิกในหลากหลายมิติ ทั้งความหลายหลายทางเพศและบทบาทของสตรี นอกจากนี้ ยังรวมถึงให้มีการแปลกฎหมายที่ผ่านมติรัฐสภาในวาระที่สามเป็นภาษาอังกฤษและประสานความร่วมมือกับต่างประเทศในหลายด้านๆ อีกทั้ง สนับสนุนเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กฎหมายที่ประชาชนเสนอต้องถูกนำมาพิจารณา 
ต่อมาผู้ถูกเสนอชื่อคนที่สอง วิทยา กล่าวแสดงวิสัยทัศน์โดยสรุปได้ว่า ตนพร้อมที่จะปฏิบัติแนวทางตามที่ประธานสภาฯ มอบหมาย และย้ำว่าจะรักษาหลักความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ รักษาองค์กรนิติบัญญัติให้มีเกียรติในการออกกฎหมายและจะรักษาเกียรติภูมิของสภาฯไว้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมาอีกครั้ง 
ก่อนการลงมติในที่ประชุมสภา ส.ส.จากหลากหลายพรรคลุกขึ้นมาถกเถียงถึงหลักเกณฑ์การลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ซึ่งผลสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าในการลงคะแนนแบบลับจะให้ใช้วิธีการเขียนชื่อผู้ถูกเสนออย่างเดียวไม่ต้องเขียนนามสกุล โดยคณะกรรมการตรวจนับคะแนนมาจากตัวแทนหกพรรคการเมือง ได้แก่ ก้าวไกล เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาชาติ
ผลลงมติ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.เขตพิษณุโลก พรรคก้าวไกล ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภา คนที่หนึ่ง ด้วยคะแนนเสียง 312 เสียง ขณะที่วิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติได้คะแนนเสียง 105 เสียง และงดออกเสียง 77 เสียง บัตรเสีย 2 ใบ อย่างไรก็ดี จำนวนส.ส.ที่ร่วมเป็นองค์ประชุมลงมติมีทั้งสิ้น 496 คน 
ลำดับถัดมา เป็นการเสนอชื่อรองประธานสภา คนที่สอง โดย ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ เสนอ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในที่ประชุมไม่มีการเสนอรายชื่อผู้อื่นเพิ่ม จึงทำให้ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภา คนที่สองทันที โดยพิเชษฐ์ แสดงวิสัยทัศน์โดยสรุปได้ว่า ตนจะปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยึดมั่นหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฟื้นฟูสภาให้กลับมาเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนให้ได้เข้าถึงทุกภาคส่วนและจะเพิ่มเวลาในส่วนของการหารือนำความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้นำเข้าที่ประชุมให้แก่เพื่อนสมาชิก อีกทั้ง จะปฏิบัติตัวอย่างเป็นกลาง ให้เกียรติเพื่อนสมาชิก ตลอดจนกอบกู้เกียรติยศของสภา สร้างความเข็มแข็งให้แก่คณะกรรมาธิการในการทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และสุดท้ายจะให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยให้แก่รัฐสภามากยิ่งขึ้น 
สำหรับประวัติของประธานสภาคนใหม่ ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ อายุ 79 ปี เป็นหัวหน้าและส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคประชาชาติ เคยดำรงตำแหน่งประธานสภา มาแล้วในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 20 ปี 2539 เป็นประธานรัฐสภาและประธานสภา คนแรกที่เป็นชาวไทยมุสลิมและเคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภา ในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 18 ปี 2535
สำหรับรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ปดิพัทธ์ สันติภาดา อายุ 42 ปี ส.ส.เขตพิษณุโลกจากพรรคก้าวไกล อดีตสัตวแพทย์ และทำงานด้านพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคม (สมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย) อีกทั้งยังเป็นอดีตส.ส.ชุดที่ผ่านมาในปี 2562 เคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ส่วนรองประธานสภาคนที่สอง พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อายุ 60 ปี ส.ส.เขตเชียงราย พรรคเพื่อไทย ก่อนเข้าสู่วงการการเมืองเคยเป็นอดีตนายกองค์การเกษตรในอนาคตแห่งประเทศไทยภาคเหนือ และเป็นส.ส.เชียงรายมาแล้วรวมครั้งนี้เป็นห้าสมัย อีกทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสองสมัยและเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกด้วย
You May Also Like
อ่าน

ส่องเล่มจบป.เอก สว. สมชาย แสวงการ พบคัดลอกงานคนอื่นหลายจุด

พบว่าดุษฎีนิพนธ์ของ สว. สมชาย แสวงการ มีการคัดลอกข้อความจากหลากหลายแห่ง ซึ่งในหลายจุดเป็นการคัดลอกและวางข้อความในผลงานตัวเอง เหมือนต้นทางทุกตัวอักษร
อ่าน

รวมตารางกิจกรรม ทำเดินสายอธิบายกติกา ชวนมาร่วมเปลี่ยนสว.

พร้อมแล้ว!! เดินสายทั่วประเทศ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักระบบการเลือกสว. ชุดใหม่ จากการ “แบ่งกลุ่มอาชีพ” และ “เลือกกันเอง” อันซับซ้อน มาทำความเข้าใจขั้นตอน วิธีการเลือก ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร รวมถึงช่องทางการมีส่วนร่วมที่ประชาชนสามารถทำได้ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น มาร่วมเปลี่ยนสว. กันเถอะ