สลัมสี่ภาคขอรัฐลดงบซื้ออาวุธนำเงินแก้ไขโควิด 19 และชะลอคดีไล่รื้อที่ของรฟท.

 
26 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.00 น. เครือข่ายสลัมสี่ภาคแถลงข่าวเรื่อง ชุมชนแออัดภายใต้การระบาดโควิด 19 มีผู้ร่วมพูดคุยสามคนคือ เนืองนิช ชิดนอก  ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัมสี่ภาค, เชาว์ เกิดอารีย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนคนเมืองผู้ได้รับผลกระทบรถไฟ และสมศักดิ์ บุญมาเลิศ  ประธานเครือข่ายสลัมสี่ภาค
 
 
เนืองนิช ชิดนอก  ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัมสี่ภาคกล่าวว่า สถานการณ์โควิดระลอกสามส่งผลกระทบหนักมากสำหรับประชาชนที่อยู่ในชุมชนแออัด ที่ผ่านมามีการตีตราว่า ชุมชนแออัดเป็นคลัสเตอร์ที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคแต่โควิดระลอกสามมีจุดเริ่มต้นจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ พี่น้องในชุมชนแออัดต้องไปทำงานในสถานที่ดังกล่าวและส่งต่อโรคให้แก่ชุมชนโดยที่ไม่รู้ตัว อยากจะให้ทุกคนตระหนักว่า จุดเริ่มต้นของการระบาดเกิดขึ้นได้อย่างไร 
 
 
ผลกระทบที่ผ่านมาชาวชุมชนบางคนป่วยไม่สามารถทำงานได้และบางคนต้องกักตัว 14 วัน ส่วนคนที่ไปทำงานได้ก็มีรายได้น้อยลงจากการจำกัดชั่วโมงการทำงาน ทั้งเวลาชาวชุมชนเกิดปัญหาเรื่องสุขภาพจะลำบากในการแยกกักโรค เครือข่ายฯจึงมองหาชุมชนที่พอจะมีศูนย์ที่ไม่ได้ใช้งานหรืออาจจะใช้งานแต่มีพื้นที่ว่างเพื่อทำเป็นศูนย์พักคอยและมีการขออาสาสมัครในการดูแลในสองระดับคือ พยาบาลที่คอยช่วยเหลือและพยาบาลที่มีความรู้พื้นฐาน นอกจากนี้ยังมีการทำโครงการเพื่อช่วยเหลือให้ชาวชุมชนเข้าถึงอาหารราคาถูกได้
 
 
เชาว์ เกิดอารีย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนคนเมืองผู้ได้รับผลกระทบรถไฟ กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19  ของแรงงานในชุมชนรถไฟแบ่งเป็นสามกลุ่มคือ สมาชิกที่ทำงานรายวันถูกเลิกจ้างจากสถานประกอบการ, สมาชิกที่ทำงานรายวันถูกลดเงินเดือน และแรงงานอิสระมีรายได้ลดลงเช่น ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์วิน
 
 
 
 
ปัจจุบันทางชุมชนพยายามแก้ไขปัญหา มีการทำครัวกลางเพื่อให้สมาชิกเข้าถึงอาหารและรวบรวมเงินเป็นกองทุนกลางในการส่งอาหารให้ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อในชุมชน นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการไล่รื้อของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในระยะเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีหมายของศาลแพ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีฟ้องขับไล่ชุมชนรถไฟประมาณ 40 คดีแล้ว เชาว์ตั้งคำถามว่า ระหว่างสถานการณ์ที่มีความเดือดร้อนเช่นนี้รัฐควรจะช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนหรือไม่ หากถูกฟ้องขับไล่ตอนนี้จะให้ประชาชนย้ายไปอยู่ที่ไหน  ก่อนหน้านี้วันที่ 20 พฤษภาคม 2564  ตัวแทนชาวบ้านจึงไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคมและขอให้เปิดประชุมภายในสิ้นเดือนนี้
 
 
สมศักดิ์ บุญมาเลิศ  ประธานเครือข่ายสลัมสี่ภาคกล่าวว่า สถานการณ์โควิดระลอกสามนี้ชาวชุมชนได้รับผลกระทบอย่างมาก สมาชิกไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ขณะที่สมาชิกส่วนใหญ่ทำงานก่อสร้างจึงไม่สามารถออกไปทำงานได้เลย เช่น เงื่อนไขของการอยู่ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง
 
 
นอกจากนี้เครือข่ายสลัมสี่ภาคยังได้นำเสนอผลการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 643 ตัวอย่างในสิบจังหวัด ในหัวข้อเรื่องความเดือดร้อนที่กลุ่มตัวอย่างประสบในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด 19 พบว่า มีผู้ตอบแบบสอบถาม 323 ระบุว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 พวกเขาไม่มีเงินใช้จ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน, มี 242 คนไม่มีเงินชำระหนี้สินเดิมเช่น ค่าเช่าบ้าน ขณะที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม 97 คนบอกว่า พวกเขาแทบไม่เงินซื้ออาหารในแต่ละวัน ในประเด็นเรื่องความต้องการให้รัฐบาลเยียวยานั้นมี 451 คน ระบุว่า ถ้ารัฐบาลต้องการเยียวยาเป็นรูปแบบเงิน ก็อยากให้เป็นเงินสดที่เข้าตรงสู่บัญชีส่วนตัวเพื่อสามารถนำไปใช้จ่ายค่าเช่าบ้านและใช้หนี้อื่นๆ และมี 321 คนต้องการให้รัฐเพิ่มเงินเยียวยา
 
 
ในตอนท้ายได้มีการอ่านแถลงการณ์ถึงรัฐบาลโดยเรียกร้องหกข้อดังนี้
 
  • หนึ่ง รัฐบาลต้องชี้แจงระบบการแจกจ่ายวัคซีนแบบโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนทั้งในภาพรวมประเทศ และในระดับพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อป้องกันการทุจริตในการใช้โควต้าวัคซีนไปใช้ในประเด็นทางการเมืองเพื่อหาเสียงล่วงหน้า
 
  • สอง รัฐบาลต้องมีเวทีสาธารณะให้ประชาชนซักถามในการบริหารวัคซีน รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ชนิดต่างๆ โดยเปิดกว้างให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ซักถาม เช่น แพทย์ , นักวิชาการ , เครือข่ายประชาชนด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
 
  • สาม รัฐบาลต้องรับฟังข้อเสนอที่ประชาชนสะท้อน เพื่อให้มีการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปปฏิบัติ
 
  • สี่ เพิ่มเงินเยียวยา ในรูปแบบที่โอนตรงไปให้ประชาชน เพื่อความหลากหลายในการใช้เงินตรงจุดกว่า จำนวน 3,000 บาทต่อเดือน
 
  • ห้า ในการแปรญัตติปีงบประมาณ 2565 ที่กำลังจะเปิดสภาอภิปรายนี้ จะต้องลดค่าใช้จ่ายด้านที่ไม่จำเป็นลงไป เช่น งดให้งบประมาณในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร และนำไปเพิ่มในส่วนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เช่น นำไปซื้อวัคซีนตัวอื่นที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกทุกชนิด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน
 
  • หก ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 นี้ หน่วยงานรัฐต่างๆควรหยุดการดำเนินคดีไล่รื้อชาวชุมชน เพราะจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ยากลำบากไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเสี่ยงต้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเป็นอย่างยิ่ง