สภาไฟเขียวกฎหมาย เอาผิดกินหัวคิวแรงงาน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบรับร่าง พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนงานในวาระแรกด้วยคะแนนเสียง 309 ต่อ 0 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 8 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณาแปรญัตติต่อไป

สาระสำคัญของร่าง ระบุถึงข้อกำหนดเรื่องการใช้ชื่อทางธุรกิจการจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลาง สำนักงานทะเบียนจัดหางานจังหวัดและสำนักงานจัดหาคนงาน และกำหนดให้การจัดหางานต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ใน 3 ประเภทคือ ใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานทำในประเทศ ใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ และใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ

ร่างกฎหมายกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานทำในประเทศ เรียกหรือรับค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายจากคนหางานได้ ก็ต่อเมื่อนายจ้างรับคนหางานเข้าทำงานแล้ว ในกรณีที่คนหางานไม่ได้งานตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้รับใบอนุญาตไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวและต้องจัดการให้คนหางานเดินทางกลับ หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้นายทะเบียนจัดการให้คนหางานเดินทางกลับโดยใช้จ่ายเงินจากหลักประกันที่ ผู้รับใบอนุญาตได้วางไว้

นอกจากนี้ การจัดหางานให้คนหางานไปทำงานต่างประเทศ กำหนดห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ ตามที่กฎกระทรวงกำหนด จะรับสมัครหรือประกาศรับสมัครคนหางานล่วงหน้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน กำหนดแนวทางปฏิบัติและการดำเนินการให้แก่ผู้รับใบอนุญาตในเรื่องการจัดส่งคนงานไปต่างประเทศ และการจัดให้นายจ้างในต่างประเทศส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องช่วยเหลือคนหางานที่ไม่ได้ทำงานตามที่กำหนดไว้ในสัญญา กำหนดสิทธิเรียกร้องของคนหางานในกรณีที่ได้ทำงานแล้วแต่ได้ค่าจ้างต่ำกว่า หรือได้ ตำแหน่งงานหรือสิทธิประโยชน์อื่นไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญา รวมถึงกำหนดเรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตดำเนินการทดสอบฝีมือคนหางานอย่างชัดเจน พร้อมกำหนดให้มีกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานในต่างประเทศที่เป็นค่าใช้จ่าย ให้คนหางานที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในต่างประเทศและเดินทางกลับ

นอกจากนี้ยังเพิ่มบทลงโทษกับผู้ใดที่โฆษณาการจัดหางานที่ไม่ปฏิบัติตาม ระเบียบต้องระวางโทษจำคักไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และกำหนดบทลงโทษแก่บริษัทที่เรียกรับเงินจากคนงานต้องระวางโทษจำกัดไม่เกินหนึ่งปี และปรับห้าเท่าของค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายที่เรียกเกินหรือเรียกล่วงหน้า หรือสามเท่าของเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นที่รับประกันค่าบริการ

มาตรา 95 ระบุว่าผู้รับใบอนุญาตรายใดไม่จัดการให้คนหางานเดินทางกลับต้องระวางโทษจำ คุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 102 กำหนดบทลงโทษแก่ผู้ที่จัดหางานให้คนงานไปต่างประเทศโดยมิได้รับอนุญาตต้อง ระวางโทษจำคักตั้งแต่สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 107 ผู้ใดแสดงตนเป็นตัวแทนจัดหางานอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามมี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 109 ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน ส่งไปฝึกงานในต่างประเทศหรือจัดหางานต่างด้าวได้ โดยหลอกลวงเอาเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ