เปิดงบ 96 ล้าน สำหรับดูงานของ ส.ว. เดินทางไกลใช้ทริปละแสน

ส.ว.ชี้แจงการใช้งบประมาณเดินทางดูงาน สำหรับในประเทศขอไว้ 29 ล้าน ใช้ไปห้าล้านกว่า สำหรับต่างประเทศขอไว้ 67 ล้าน ยังไม่ได้ใช้เลย งบค่าเดินทางส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นการเดินทางของคณะกรรมาธิการ ถ้าเดินทางใน กทม. ใช้หลัก 2,000-3,000 ถ้าไปจังหวัดไกลๆ บางกิจกรรมใช้กว่าแสนบาท กมธ.ท้องถิ่นฯ ใช้เยอะสุด ตามด้วย กมธ.สังคมฯ

หลังจากที่ไอลอว์ยื่นหนังสือต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดูงานภายในประเทศและต่างประเทศของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 รองเลขาธิการวุฒิสภา ปัณณิตา สท้านไตรภพ ทำหนังสือตอบกลับมายังไอลอว์ พร้อมส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาให้เป็นจำนวน 15 หน้า แจกแจงงบประมาณที่ได้รับมา และที่ใช้ไปในการดูงานของ ส.ว. ในปีงบประมาณ 2562 และ 2563 โดยแยกรายละเอียดเป็นการเดินทางไปลงพื้นที่แต่ละกิจกรรม (ดูได้ตามไฟล์แนบด้านล่าง)

เอกสารที่ได้รับมาอธิบายว่า งบประมาณสำหรับการดูงานภายในประเทศของ ส.ว. ในปีงบประมาณ 2562 เบิกจ่ายไปเพียง 257,825.66 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ส.ว. ชุดปัจจุบัน เริ่มเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ในช่วงแรกยังเป็นการประชุมเพื่อเลือกประธานวุฒิสภา การร่างข้อบังคับการประชุม และแต่งตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เมื่อนับถึงสิ้นปีงบประมาณ คือ 30 กันยายน 2562 จึงยังไม่มีเวลาในการเดินทางไปดูงานมากนัก

ต่อมาในปีงบประมาณ 2563 นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ส.ว. ใช้งบประมาณในการดูงานภายในประเทศไปแล้วทั้งหมด 5,365,287.88 บาท จากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร 29,300,000 บาท คงเหลือ 23,934,712.12 บาท

ส่วนงบประมาณในการดูงานต่างประเทศ ในปี 2562 ไม่ได้จัดสรรไว้ ในปี 2563 จัดสรรไว้ 67,500,000 บาท ซึ่งยังไม่ได้ใช้เลย

รวมแล้วในปี 2563 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเฉพาะสำหรับการดูงานในประเทศ และต่างประเทศให้กับ ส.ว. ไว้ 96,800,000 บาท (อ่านว่า เก้าสิบหกล้านแปดแสนบาท)

 

ประธาน + รองประธาน ใช้ “ค่าเดินทางไปราชการ” รวมเกือบล้าน

เมื่อแยกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูงานจะพบว่า ค่าใช้จ่ายจำนวนมากถูกใช้ไปกับการเดินทางของพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา, พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง

ในปีงบประมาณ 2562 ประธานและรองประธานสองคนใช้ค่าใช้จ่ายในการดูงานรวมกัน 220,265.66 บาท คิดเป็นเกือบทั้งหมดของการดูงานในปีงบประมาณ 2562 ขณะที่คณะกรรมาธิการใช้ค่าใช้จ่ายไป 37,560 บาท

หกเดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ประธานและรองประธานสองคนใช้ค่าใช้จ่ายในการดูงานรวมกัน 539,928.58 บาท ขณะที่คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ใช้ค่าใช้จ่ายไปรวมกัน 4,825,359.30 บาท

ตัวอย่างการเดินทางของประธานวุฒิสภา เช่น 

วันที่ 16-17 มกราคม 2563 มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของประธานวุฒิสภาและคณะ ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำปาง รวม 93,550 บาท ข้อมูลจากภาพข่าวในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พบว่า วันที่ 16 มกราคม 2563 พรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ครั้งที่ 1/2563 ที่โรงแรมลำปางเวียงทอง จังหวัดลำปาง พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกับภารกิจการปฏิรูปประเทศ/บทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา” โดยมี วิทยา ผิวผ่อง, พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ ส.ว. และณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เข้าร่วมด้วย 

วันที่ 23-24 มกราคม 2563 มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของประธานวุฒิสภา ณ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น รวม 70,880 บาท ข้อมูลจากภาพข่าวในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ไม่พบการเดินทางของพรเพชร วิชิตชลชัย ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่พบภาพกิจกรรมในวันที่ 24 มกราคม 2563 ที่วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน จังหวัดอุดรธานี คณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน นำโดย พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง และคณะ ส.ว. พบปะผู้บริหาร และคณาจารย์วิทยาลัยการอาชีพหนองหาน เพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สะท้อนปัญหาการปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะระดับอาชีวศึกษา โดยในเว็บไซต์ระบุด้วยว่า ข้อมูลดังกล่าว สมาชิกวุฒิสภาจะได้นำมาวิเคราะห์ และดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฯ ต่อไป

วันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ 2563 มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของประธานวุฒิสภาและคณะ ณ จังหวัดนครพนม 69,550 บาท ข้อมูลจากภาพข่าวในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พบว่า วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่โรงแรมฟอร์จูน วิวโขง จังหวัดนครพนม พรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ครั้งที่ 2/2563 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกับภารกิจการปฏิรูปประเทศ/บทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา” โดยมี ส.ว.อีกหลายคน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม และสื่อมวลชน เข้าร่วมด้วย

รวมแล้วตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งถึงเดือนมีนาคม 2563 ประธานวุฒิสภาและคณะ มีค่าใช้จ่ายในการดูงาน 360,933.50 บาท จากการเดินทาง 9 ครั้ง รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งและคณะ มีค่าใช้จ่ายในการดูงาน 321,557.64 บาท จากการเดินทาง 10 ครั้ง รองประธานวุฒิสภาคนที่สองและคณะ มีค่าใช้จ่ายในการดูงาน 77,703.10 บาท จากการเดินทาง 6 ครั้ง รวมแล้ว 760,194.24 บาท จากการเดินทาง 25 ครั้ง

 

งบประมาณส่วนใหญ่เป็นการเดินทางของคณะกรรมาธิการ

การทำงานของ ส.ว. จะไม่ได้เป็นการประชุมร่วมกันของสมาชิกทั้ง 250 คนร่วมกันตลอดเวลา แต่จะแบ่งการทำงานในประเด็นเฉพาะให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการย่อยซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามข้อบังคับการประชุมของ ส.ว. ปัจจุบันมีคณะกรรมาธิการสามัญ 27 ชุด และคณะกรรมาธิการวิสามัญอีก 2 ชุด 

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปดูงานของคณะกรรมาธิการภายใต้งบประมาณปี 2562 มีเพียงครั้งเดียว คือ การเดินทางของคณะกรรมาธิการปกครองท้องถิ่น ไปจังหวัดสระบุรี ค่าใช้จ่าย 37,560 บาท 

ส่วนช่วงเวลาหกเดือนของปีงบประมาณ 2563 คณะกรรมาธิการทุกชุดใช้งบประมาณในการเดินทางไปดูงานรวมแล้ว 4,825,359.30 บาท

ห้าอันดับแรกของคณะกรรมาธิการที่ใช้งบประมาณในการไปดูงานสูงที่สุด มีดังนี้

  1. คณะกรรมาธิการปกครองท้องถิ่น ที่มีประธาน คือ พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช ใช้งบประมาณไปแล้ว 742,020.00 บาท
  2. คณะกรรมาธิการสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่มีประธาน คือ วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ใช้งบประมาณไปแล้ว 711,959.45 บาท
  3. คณะกรรมาธิการพลังงาน ที่มีประธาน คือ พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ ใช้งบประมาณไปแล้ว 356,039.21 บาท
  4. คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีประธาน คือ พลเอกอกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ใช้งบประมาณไปแล้ว 338,008.62 บาท
  5. คณะกรรมาธิการการคมนาคม ที่มีประธาน คือ พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ ใช้งบประมาณไปแล้ว 308,378,00 บาท

 

กมธ.ท้องถิ่นฯ ไปทำเนียบ 15,000 ไประยองแปดหมื่น

เมื่อดูรายละเอียดการใช้งบประมาณของ กมธ. การปกครองท้องถิ่น ซึ่งใช้งบประมาณไปแล้วสูงที่สุด คือ 742,020.00 บาท พบว่า เป็น กมธ. ที่เดินทางไปจังหวัดที่ห่างไกลบ่อยมาก สมกับชื่อและภารกิจที่ต้องศึกษาการทำงานของท้องถิ่นต่างๆ ที่อาจมีบริบทและความต้องการไม่เหมือนกัน ซึ่งการเดินทางไปจังหวัดที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงแต่ละครั้งของ กมธ. ชุดนี้ใช้งบประมาณเฉลี่ยครั้งละกว่าหนึ่งแสนบาท ได้แก่

  • เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2562 เดินทางไปองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเทศบาลเกาะสมุย ใช้งบประมาณ 109,070 บาท
  • เมื่อวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2562 เดินทางไปจังหวัดยโสธร และอุบลราชธานี ใช้งบประมาณ 104,000 บาท
  • เมื่อวันที่ 17-18 มกราคม 2563 เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ และลำปาง ใช้งบประมาณ 133,890 บาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานวุฒิสภา และคณะ เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ และลำปางเช่นกัน และใช้งบประมาณไปอีก 93,550 บาท
  • เมื่อวันที่ 30-31 มกราคม 2563 เดินทางไปเทศบาลแม่สอด จังหวัดตาก และเมืองเมวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ใช้งบประมาณ 120,930 บาท
  • เมื่อวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ 2563 เดินทางไปจังหวัดเลย ใช้งบประมาณ 106,890 บาท

การเดินทางของ กมธ.การปกครองท้องถิ่นบางครั้งไม่ได้ไปจังหวัดที่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้ แต่กลับมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน เช่น เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 เดินทางไปจังหวัดชลบุรี ใช้งบประมาณ 18,410 บาท แต่เมื่อวันที่ 13-14 มีนาคม 2563 เดินทางไปจังหวัดระยอง ใช้งบประมาณ 82,830 บาท

นอกจากนี้ กมธ.ชุดนี้ยังเดินทางไปราชการในกรุงเทพมหานครหลายครั้งที่ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เช่น การเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 ซึ่งห่างจากอาคารรัฐสภา ที่ทำงานปกติของ ส.ว. 4.1 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 15,000 บาท หรือการเดินทางไปสำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ใช้งบประมาณไป 15,000 บาท

 

กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน กรุงเทพทริปละ 3,000 ต่างจังหวัดทริปละแสน

เมื่อดูรายละเอียดการใช้งบประมาณของ กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน ที่ใช้งบประมาณไปแล้ว 338,008.62 บาท พบว่า เป็น กมธ. ชุดที่ออกเดินทางบ่อยมาก ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปราชการกระทรวงต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณในการเดินทางครั้งละ 2,000 – 3,000 บาท เช่น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ไปดูงานที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ไปดูงานที่กระทรวงพลังงาน

ข้อสังเกต คือ การเดินทางไปที่กระทรวงต่างๆ บางครั้งออกเดินทางวันเดียวไปหลายแห่ง แต่ก็เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 3,000 บาท ทุกครั้งไม่ว่าจะไปที่ใด และการไปดูงานแต่ละกระทรวงไม่ได้ออกแบบการเดินทางที่จะไปดูงานกระทรวงที่อยู่ใกล้กันเพื่อให้เดินทางสะดวก เช่น เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ไปสองแห่ง คือ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดนนทบุรี และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตั้งอยู่เขตพญาไท ห่างกัน 22 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ไปที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตพระนคร และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดนนทบุรี ห่างกัน 20 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ไปสามแห่ง คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินนอก กระทรวงยุติธรรม ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และกระทรวงแรงงาน ซึ่งตั้งอยู่เขตดินแดง

นอกจากการเดินทางไปราชการในกรุงเทพมหานครรวมแล้ว 22 ครั้งแล้ว กมธ.ชุดนี้ยังเดินทางไปต่างจังหวัดอีกรวมแล้วสามครั้ง คือ 

เมื่อวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2562 เดินทางไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลาสองวัน ใช้งบประมาณไป 150,933.62 บาท เมื่อค้นหาในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนภาพข่าวของ กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน ไม่พบการรายงานผลงานว่า การไปเชียงใหม่ครั้งนั้นไปทำกิจกรรมใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 23-24 มกราคม 2563 กมธ.ชุดนี้เดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ใช้งบประมาณไป 20,290 บาท เมื่อค้นหาในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนภาพข่าวของ กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน ไม่พบการรายงานผลงานว่า การไปกาญจนบุรีครั้งนั้นไปทำกิจกรรมใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 2-3 มีนาคม 2563 กมธ.ชุดนี้เดินทางไปจังหวัดขอนแก่น ใช้งบประมาณไป 102,785 บาท ข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พบว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ประธาน กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ นำคณะประชุมร่วมกับผู้บริหารจังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล วันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น – พลเอกอกนิษฐ์นำคณะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้แทนบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องในประเด็นการพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ (Smart City) เพื่อจัดระเบียบเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล 

 

ตัวอย่างการเดินทางลงพื้นที่ทำกิจกรรม และการใช้งบประมาณของ ส.ว.

ตัวอย่างกิจกรรมการเดินทางไปลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ และงบประมาณที่ใช้ไป

1 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส นำโดย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธาน และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามการดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี และเดินทางไปมอบของใช้จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ หลังจากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานกระดาษไทย ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมนี้ใช้งบประมาณ 107,003.50 บาท

8 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา นำโดย ดร.ตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการ พลเอก สสิน ทองภักดี กรรมาธิการ และพลเอก อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ พร้อมด้วยที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการ และคณะทำงานจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน ได้เดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับ “การปฏิรูปการศึกษาและการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” และเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านคลองยาง (มูลบนอุปถัมภ์) อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นได้ประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จของการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเยี่ยมชมศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอปักธงชัย กิจกรรมนี้ใช้งบประมาณ 76,520 บาท

13 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา นำโดย สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ ศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑ์วังวรดิศ และหอสมุดสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเยี่ยมวังบุคคลสำคัญของโลก (The Varadis Palace Museum & Library) โดยรับฟังการบรรยายสรุป เรื่อง การดำเนินงานของมูลนิธิพิพิธภัณฑ์วังวรดิศ โดย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานพิพิธภัณฑ์วังวรดิศ และหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมพระตำหนักใหญ่วังวรดิศ “วังบุคคลสำคัญของโลก” กิจกรรมนี้ใช้งบประมาณ 7,450 บาท 

1 ธันวาคม 2562 (วันอาทิตย์) เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมอนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ เดินทางไปศึกษาดูงานการเปิดพื้นที่ “หลาดชุมทางทุ่งสงครบ ครั้งที่ 100 ” ณ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่จากการสร้างการมีส่วนร่วมของ 3 ภาคส่วน เพื่อพัฒนาให้เกิดการเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมสำหรับผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม และวิสาหกิจทางวัฒนธรรมในชุมชน กิจกรรมนี้ใช้งบประมาณ 53,321.20 บาท 

19-20 ธันวาคม 2562 พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่ติดตามการทํางานตามนโยบายรัฐบาล ผ่านโครงการจัดหาแหล่งนํ้า และเพิ่มพื้นที่ชลประทาน โครงการบางระกําโมเดล โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และโครงการพัฒนาศักยภาพขบวนการผลิตสินค้า คณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ข้าว ณ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จํากัด, โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (ปศุสัตว์), โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (ประมง) และติดตามโครงการพัฒนาศักยภาพขบวนการผลิตสินค้า ณ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก และศูนย์วิจัยพันธุ์พืชพิษณุโลก กิจกรรมนี้ใช้งบประมาณ 101,280 บาท

You May Also Like
อ่าน

ข้าราชการลาออกชั่วคราวเพื่อลงสมัคร สว. 67 ได้

กฎหมายหลายฉบับได้เปิดช่องให้ข้าราชการปัจจุบันสามารถลาออกเพื่อสมัครเป็น สว. ได้โดยมีผลทันทีนับแต่วันที่ยื่นลาออก และหากไม่ได้รับการเลือกเป็น สว. ก็ยังมีทางเลือกสามารถกลับไปรับราชการได้ตามเดิมเช่นกัน
อ่าน

รวมทริคลงสมัคร สว. เลือกกันเอง บทเรียนจากปี 61

จากการสัมภาษณ์ผู้ที่เคยเข้าร่วมกระบวนการในปี 2561 มีหลายกลเม็ดที่ผู้สมัครใช้ในการช่วยให้ตนเองได้เข้ารอบหรือรับเลือก โดยมีทั้งในรูปแบบที่ผิดกฎหมาย ไปจนถึงใช้ยุทธศาสตร์-เทคนิค จากช่องทางบางประการในกฎหมาย