สนช.แก้กฎหมายภาษี #2 “เก็บภาษีดารา” อุดช่องเลี่ยงภาษีโดยตั้ง “คณะบุคคล”

กฎหมาย "เก็บภาษีดารา" ที่นิยมเรียกกัน มีชื่อจริงๆ ว่า พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ว่าด้วยมาตรการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้ห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
พ.ร.บ. ฉบับนี้ ถูกเสนอโดยคณะรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อธิบายหลักการและเหตุผลว่า การเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราก้าวหน้า กล่าวคือ ยิ่งมีรายได้มากยิ่งเสียภาษีในอัตราสูง ทำให้คนจำนวนมากวางแผนภาษี โดยการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคลเพื่อกระจายรายได้และทำให้ฐานภาษีต่ำลง ซึ่งมีผลให้บุคคลดังกล่าวเสียภาษีเงินได้ในอัตราต่ำกว่าที่ควรจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น
บุคคลธรรมดามีรายได้ปีละ 10 ล้านบาท ต้องเสียภาษีร้อยละ 35 แต่บุคคลดังกล่าวไปจดทะเบียนตั้งห้างหุ้นส่วนฯ และตั้งคณะบุคคลขึ้นมา 10 คณะ กระจายรายได้ตัวเองไปคณะฯ ละ 1 ล้านบาท ทำให้เมื่อคำนวณภาษีทั้งหมด เสียประมาณคณะละร้อยละ 10 และ 15 เท่านั้น แทนที่จะเสียร้อยละ 35 ต่อปีทำให้เหลือเงินที่ควรจะเสียภาษีเก็บเข้ากระเป๋าจำนวนมาก
นอกจากนี้ กรมสรรพากร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบอาชีพอิสระ กลุ่มแพทย์ ดารา พิธีกร ธุรกิจก่อสร้าง วิศวกร นักแสดง ร้านค้าย่อย นักการเมือง จัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ คณะบุคคลขึ้นเพื่อเลี่ยงภาษีด้วยวิธีการนี้ กว่า 7-7.5 หมื่นราย จึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้
สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร คือ
1) เพิ่มบทนิยามคำว่า "คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล" ที่หมายความว่าบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงกระทำการร่วมกันอันมิใช่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
2) กำหนดให้เงินส่วนแบ่งของกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ไม่ได้รับการยกเว้นจากเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีเงินได้
ผลกระทบเมื่อกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับใช้
ทำให้บุคคลธรรมดาที่จัดตั้งหน่วยภาษีในรูปคณะบุคคลฯ ต้องนำเงินได้ของคณะบุคคลฯ มารวมคำนวณเป็นเงินได้พึงประเมินของตนตอนสิ้นปี ทั้งนี้คณะบุคคลฯ ไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีตอนสิ้นปีอีก 
สำหรับคณะบุคคลฯ ที่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ให้บุคคลแต่ละคนนำจำนวนภาษีที่ถูกหักไว้ มาลดหย่อนภาษีของแต่ละคนตามสัดส่วนได้ด้วย
แต่ถ้าเป็นกรณีคณะบุคคลฯ ที่ได้รับเงินได้พึงประเมินประเภทดอกเบี้ย เงินปันผล และเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร และได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ให้บุคคลแต่ละคนได้รับสิทธิเลือกไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินดังกล่าวไปรวมคำนวณเสียภาษีตอนสิ้นปีอีก
ไฟล์แนบ