เมื่อมาตรา 112 ถูกใช้กับปัญหาในครอบครัว?

ที่มาภาพ: http://commons.wikimedia.org/wiki/File:Dvd_cd_disk.jpg

 

เดือนสิงหาคม 2556 ศาลชั้นต้นจะเริ่มสืบพยานคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์อีกคดีหนึ่ง เป็นเรื่องราวของพี่ชายที่ฟ้องน้องชายฐานเขียนข้อความหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ลงบนแผ่นซีดี และกล่าววาจาสบถขณะดูทีวี จำเลยคดีนี้มีชื่อว่า “ยุทธภูมิ” ปัจจุบัน แม้การพิจารณาคดีจะยังไม่เริ่มต้น แต่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

iLaw มีโอกาสได้คุยกับ “ภิญโญ” พี่สาวของยุทธภูมิ และได้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก “จงกล” ภรรยาของยุทธภูมิ เกี่ยวกับรายละเอียดในคดีนี้และที่มาแห่งคดีที่คนในครอบครัวพยายามตีความ

ภิญโญ พี่สาวคนโตของยุทธภูมิเล่าว่า ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในจ.ศรีสะเกษ มีพี่น้องทั้งหมดสามคน โดยเธอเป็นพี่สาวคนโต มีน้องชายคนกลาง และน้องชายคนเล็ก (จำเลย) เนื่องจากพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็ก แม่จึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวและทำงานหาเลี้ยงลูกทั้งสามคน ต่อมา เมื่อน้องชายของเธอทั้งสองคนเรียนอยู่ชั้นมัธยมก็ไปหารายได้พิเศษจากการแข่งขันชกมวยตามงานต่างๆ

เมื่อน้องชายคนกลางเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และน้องชายคนเล็กจบมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งสองคนก็ตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ น้องคนกลางไปทำงานพิเศษในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนน้องคนเล็กไปทำงานในโรงงาน จนน้องคนเล็กเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งจึงลาออกจากงานเพื่อมาเปิดบริษัทเล็กๆ ของตัวเองเกี่ยวกับการขายน้ำยาและวัสดุอุปกรณ์ดูแลรักษารถยนต์ ต่อมาเมื่อกิจการเติบโตจึงชวนพี่ชายมาทำงานด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้น น้องชายทั้งสองคนมีครอบครัวแล้ว และพาภรรยาของตนเองมาอยู่ด้วยกัน

จงกล ภรรยาของยุทธภูมิเล่าว่า ยุทธภูมิไว้ใจพี่ชายของเขา โดยให้พี่ชายเป็นคนทำบัญชีและดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนยุทธภูมิมีหน้าที่หาลูกค้า ทุกๆ วันหลังจากเลิกงานแล้ว ยุทธภูมิมักจะชวนเพื่อนๆ มาสังสรรค์กันที่บ้านทำให้พี่ชายของเขาไม่พอใจ จนทั้งสองคนมีปากเสียงกัน และเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่ชายของเขาย้ายออกไปอยู่ที่อื่นทำให้ขาดการติดต่อกันไป

ด้านพี่สาวคนโตเล่าด้วยว่า เมื่อปี 2553 วันหนึ่งเธอได้ยินน้องชายคนกลางของบอกกับแม่ว่า ถ้าจะดัดนิสัยน้องชายคนเล็กจะต้องให้ไปอยู่ในคุกเท่านั้น และตอนนี้เขาก็มีหลักฐานเอาผิดน้องแล้วด้วย

จากนั้นไม่นาน ยุทธภูมิก็ถูกจับในข้อหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ซึ่งกล่าวหาโดยพี่ชายของเขาเอง โดยยื่นซีดีเป็นหลักฐาน ซึ่งมีข้อความหมิ่นประมาทบนหน้าปกซีดีเป็นลายมือของยุทธภูมิ ดังนั้นน้องชายคนเล็กจึงกลายเป็นผู้ต้องหา โดยมีพี่ชายคนกลางเป็นพยานยืนยันการกระทำที่เกิดขึ้น

จงกลเล่าว่า หลังการกล่าวหาประมาณ 11 เดือน ก็มีหมายเรียกยุทธภูมิให้ไปรายงานตัวที่กองปราบฯ และถูกเรียกให้มาคัดลายมือเพื่อพิสูจน์ว่าลายมือเหมือนกับข้อความที่เขียนในซีดีหรือไม่ในครั้งถัดมา  5-6 เดือนต่อมา ผลการพิสูจน์ลายมือออกมาว่า ไม่สามารถตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนัดสามีของเธอให้มาคัดลายมือเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยื่นแผ่นซีดีที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพให้ดูและบอกว่าให้เขียนให้เหมือนลายมือบนแผ่นซีดี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยให้กลับบ้านไป

จากนั้น อีก 6 เดือนต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดสามีของเธอเข้ามาพบและบอกว่า จะส่งเรื่องไปให้อัยการ ต่อมาสามีของเธอก็ถูกจับกุม โดยอัยการแจ้งว่า จำเลยถูกกล่าวหาว่าพูดถ้อยคำหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ขณะดูโทรทัศน์ในบ้าน และเขียนถ้อยคำหมิ่นฯลงบนแผ่นซีดีต่อหน้าบุคคลที่สาม ซึ่งก็คือพี่ชายของเขา ปัจจุบัน ยุทธภูมิถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรอการนัดสืบพยานในเดือนสิงหาคมนี้

เนื่องจากลักษณะของกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เปิดกว้างให้ใครก็สามารถกล่าวหาได้ ทำให้ในปัจจุบันกฎหมายมาตรานี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงของคนในสังคม เฉกเช่นในคดีนี้ที่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัวเดียวกัน

ที่มา : สัมภาษณ์นางภิญโญ พี่สาวจำเลย และนางจงกล ภรรยาของจำเลย, สัมภาษณ์เมื่อพฤษภาคม 2556

อ่านเพิ่มเติม: คดียุทธภูมิ. ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ
http://freedom.ilaw.or.th/th/case/439#calendar