เสนอแก้พ.ร.บ.การพนัน ห้าม SMS ทายผล – ลงโทษเจ้ามือหนักกว่าผู้เล่น

วันที่ 1 มีนาคม 2555 มีการจัดเวทีขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน ขึ้นที่โรงแรม ที.เค. พาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายในประเด็นการพนันและระดมความคิดเห็นจากเพื่อปรับปรุงข้อเสนอ

ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิจัยชำนาญการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) องค์การแพร่ภาพกระจายเสียงสาธารณะแห่งประเทศไทย ซึ่งศึกษาเรื่องการพนันด้วยการส่งข้อความสั้นเสี่ยงโชค (SMS) กล่าวว่า การส่งข้อความสั้นเพื่อชิงโชค เล่นเกมส์ ทายผล ประมูล ฯลฯ ควรถูกนิยามว่าเป็นการพนัน และควรแก้ไขโดยเพิ่มนิยามนี้ลงในพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478
เขากล่าวว่า ธุรกิจส่งข้อความสั้นเพื่อทายผลและชิงโชคเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล รูปแบบของการพนันทางข้อความสั้นสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายและอาจแฝงมาในรูปธุรกิจการค้าแบบอื่น ซึ่งกฎหมายที่ควบคุมอยู่ในปัจจุบันไม่ชัดเจน เพราะการพนันทางข้อความสั้นไม่เคยถูกบรรจุอยู่ในกฎหมาย ทั้งร่างพ.ร.บ.การพนัน ฉบับใหม่ หรือ ร่างพ.ร.บ.การเสี่ยงโชค ที่รัฐสภากำลังพิจารณาอยู่ ก็ไม่มีเรื่องนี้  
นักวิจัยสวส.เสนอว่าควรออกกฎระเบียบโดยเน้นการควบคุมที่ผู้ประกอบการ และควบคุมช่องทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ มากกว่าการควบคุมที่ผู้เล่น เช่น กำหนดให้คุณสมบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ต้องไม่มีรายการที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้อความสั้นเสี่ยงโชค และกสทช.ต้องใช้อำนาจตามพ.ร.บ.กสทช. และ พ.ร.บ. กิจการวิทยุโทรทัศน์ กำกับดูแลเนื้อหาผ่านทางองค์กรวิชาชีพ และเสนอให้กระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาดูแลการโฆษณาการส่งข้อความสั้นเสี่ยงโชคผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ 
ธามยังเสนอให้มีระบบกำกับร่วมโดยอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยให้ประชาชนเป็นผู้เฝ้าระวัง และมีช่องทางให้ส่งเรื่องร้องเรียนเข้าสู่การพิจารณาขององค์กรวิชาชีพ ซึ่งมีตัวแทนของหลายฝ่ายเป็นผู้พิจารณา และกำหนดบทลงโทษ หรือกำหนดให้ กสทช.มีอำนาจไม่ต่อใบอนุญาต หรือกำหนดโทษปรับทางปกครองสำหรับผู้ประกอบกิจการที่มีเนื้อหาสนับสนุนการส่งข้อความสั้นเสี่ยงโชค
                       
ไพศาล ลิ้มสถิตย์                                             ธาม เชื้อสถาปนศิริ
ไพศาล ลิ้มสถิตย์ ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาของกฎหมายไทย คือ ไม่มีบทบัญญัติคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากการเล่นพนัน ไม่ว่าจะเป็นการพนันที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายก็ตาม เขาเห็นว่ากฎหมายควรต้องแก้ไข โดยกำหนดฐานความผิดที่กระทบต่อเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ เช่น เจ้าของสถานที่ที่ปล่อยให้เด็กเข้าไปเล่นการพนัน ควรกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอื่นนอกจากตำรวจเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการพนันโดยเฉพาะ ควรคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่ให้เบาะแส ฯลฯ
ไพศาล เสนอว่าควรปรับปรุงบทลงโทษผู้ที่เป็นเจ้ามือให้รุนแรงมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีคดีความขึ้นสู่ศาลที่เกี่ยวกับการพนันกว่า 60,000 คดีต่อปี มีผู้ต้องหากว่า 100,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องรกโรงรกศาลมาก จึงควรต้องมีการแก้ไขระบบนี้เสียใหม่ ควรปรับปรุงฐานความผิดในพ.ร.บ.การพนัน แยกความผิดเจ้ามือกับผู้เล่นให้ชัดเจน เพราะพ.ร.บ.การพนันในปัจจุบันไม่ได้แยก
เขาเห็นว่ากฎหมายปัจจุบันมีอัตราโทษไม่เหมาะสมกับความผิด เพราะเป็นบทลงโทษที่ใช้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 แล้วแต่กฎหมายก็ยังไม่มีการแก้ไข ตัวอย่างเช่น กรณีที่เคยเป็นข่าวว่ามีบ่อนเปลือยอก ศาลลงโทษเจ้าของบ่อนจำคุก 2 เดือนปรับ 1,000 บาทและให้รอการลงโทษจำคุกไว้ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายต่อสังคม ส่วนผู้หญิงที่โชว์ก็โดนปรับแค่ 500 บาทฐานอนาจารต่อหน้าธารกำนัน
ไพศาล กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เพื่อปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ โดยอ้างว่าไม่ใช่เว็บไซต์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ยอมใช้อำนาจ จึงควรแก้ไขมาตรา 20 ให้ชัดเจนให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ปิดกั้นเว็บไซต์การพนัน
นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวว่า การพนันไม่ได้มีเพียงผลกระทบต่อจิตใจและสังคมเท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อสมองของเด็กและเยาวชนอย่างถาวร โดยวิทยาศาสตร์การแพทย์ค้นพบว่าสมองส่วนหน้าของมนุษย์จะเติบโตได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะช่วงก่อนวัยรุ่น เมื่ออายุราว 7 ขวบ เซลล์ประสาทจะถูกสร้างขึ้นเยอะที่สุด ช่วงระหว่างอายุ 9-12 ขวบ สมองจะรับข้อมูลมากจนมากเกินไปและสุดท้ายสมองจะตัดข้อมูลส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้ทิ้ง และพออายุ 15 ขวบเซลล์ประสาทจะลดลง สมองจะเลือกเก็บเฉพาะส่วนที่ได้ใช้บ่อยๆ เอาไว้ 
นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า สมองส่วนหน้านี้จะใช้ในการคิดวิเคราะห์ คิดเชิงนามธรรม วางแผนระยะยาว ซึ่งหากเด็กเล่นการพนันในช่วงอายุที่เซลล์สมองพัฒนา เมื่ออายุ 15 วงจรประสาทก็จะเก็บในส่วนที่ทำอะไรฉาบฉวย หวังผลเร็ว ลงทุนน้อยได้มากเอาไว้ ส่วนที่เป็นการวางแผนระยะยาว อดทน มานะ พยายาม จะถูกตัดออกไปในช่วงก่อนวัยรุ่น