ลงชื่อจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องเสรีภาพในธรรมศาสตร์

สืบเนื่องจากศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรม เขียนข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว มีใจความว่า ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติ ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการ เคลื่อนไหวทางความคิดและการขับเคลื่อนประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา112 อีกต่อไป

โดยให้เหตุผลว่า เพราะมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ราชการ การใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยอาจทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการของมหาวิทยาัลัย และอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งจนมหาวิทยาัลยไม่อาจดูแลความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของมหาวิทยาัลัยได้ (ปรากฎดังภาพ)

หลังจากนั้นมีกลุ่มนักศึกษามหาิวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศิษย์เก่า นักกิจกรรม และประชาชนจำนวนหนึ่งออกแถลงการณ์ว่าด้วยเรื่องการปิดกั้นเสรีภาพในมหาวิทยาัลัยธรรมศาสตร์ ใจความสำคัญคือเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยยกเลิกมติดังกล่าว เพื่อยืนยันความมีเสรีภาพในมหาวิทยาัลัยให้สอดคล้องกับอุดมการณ์การก่อตั้งมหาวิทยาลัย และเรียกร้องให้ผู้ที่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ดังกล่าวร่วมลงชื่อสนับสนุน

แถลงการณ์มีรายละเอียด ดังนี้

 

แถลงการณ์ว่าด้วยเรื่องการปิดกั้นเสรีภาพในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สืบเนื่องจากสเตตัสล่าสุดของอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ในเฟสบุ๊ก ใจความว่าด้วยเรื่องของการจะห้ามใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการ เคลื่อนไหวทางความคิดและการขับเคลื่อนประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา112 (กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพทางความคิด และเสรีภาพทางวิชาการ ในมหาวิทยาลัยที่มีคำขวัญอันโดดเด่นว่า เสรีภาพทุกตารางนิ้ว

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้นเป็นพื้นที่สำคัญของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมา อย่างยาวนานนับตั้งแต่การก่อตั้งมหาวิทยาลัยที่เป็นผลผลิตของคณะราษฎรที่จะ มุ่งหวังในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย มหาวิทยาลัยผ่านประสบการณ์การต่อสู้ทางการเมืองมาโดยตลอดตั้งแต่ ขบวนการ11ตุลาคม2494 ในการเรียกร้องมหาวิทยาลัยคืนจากจอมพล ป., ขบวนการ14ตุลา 2516, ขบวนการ 6ตุลา2519, ฯลฯ เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับการยกย่องในฐานะที่เป็นพื้นที่ สาธารณะในการส่งเสริมความคิดทางการเมือง และประชาธิปไตย การเปิดให้วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาที่แหลมคมควรจะเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยพึง กระทำโดยไม่มีการกีดกันและคัดค้าน คงจะมิเป็นการกล่าวเกินจริงว่าพื้นที่ทางวิชาการที่สำคัญที่สุดสำหรับ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างทางความคิดมากที่สุด คือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต่มติเอกฉันท์ของผู้บริหารเพียงไม่กี่คนนำมาซึ่งการทำลายเสรีภาพใน มหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง การจะไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการเคลื่อนไหวกรณีมาตรา112 เป็นการปิดกั้น ปิดปาก นักศึกษาและประชาชน ผู้กระหายในเสรีภาพทางวิชาการและความถูกต้อง เป็นการทำลายเจตนารมณ์ของผู้ประศาสน์การที่มีความมุ่งหวังว่ามหาวิทยาลัย แห่งนี้จะเป็น “ บ่อบำบัดความกระหายของราษฎร ผู้สมัครแสวงหาความรู้ อันเป็นสิทธิและโอกาส ที่เขาควรมีควรได้ ตามหลักเสรีภาพ ของการศึกษา.”

นักศึกษา, ศิษย์เก่า แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประชาชนผู้รักในเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารทั้งหลายที่ลงมติในการไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเป็น พื้นที่ในการแลกเปลี่ยนกรณีการแก้ไขมาตรา112 กลับไปทบทวนว่าความเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่การก่อตั้งในปี พ.ศ. 2478 เป็นต้นมา เป็นพื้นที่ที่ยอมรับความหลากหลายทางความคิดและเปิดกว้างให้มีการใช้เพื่อ พูดคุย ถกเถียง ประเด็นทางสังคมและการเมือง ไม่เคยมีครั้งไหนนอกจากยุคเผด็จการที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีนโยบายปิดกัน ไม่ให้นักศึกษาและอาจารย์แสดงเสรีภาพทางความคิด

เราขอเรียกร้องให้ผู้บริหารยกเลิกมติข้างต้น หากมหาวิทยาลัยยังมีคำขวัญที่ ว่า “ธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว” อธิการบดีและผู้บริหารมหาวิยาลัยควรจะเห็นถึงความสำคัญของธรรมศาสตร์ในการ เป็นพื้นที่สำคัญในการทำให้ความขัดแย้งบรรเทาลงและยอมให้มหาวิทยาลัยเป็น พื้นที่เปิดที่สามารถจัดกิจกรรมทางสังคม การเมือง และการวิพากษ์วิจารณ์ และถกเถียงอย่างเปิดกว้างอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่การ ก่อตั้งมหาวิทยาลัย
 

 

ผู้ที่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ฉบับนี้ สามารถร่วมลงชื่อได้ โดยการส่งชื่อ – นามสกุล – สังกัด ไปที่ [email protected] ก่อนวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555

ดูรายละเอียดความเคลื่อนไหวและรายชื่อผู้ที่ลงชื่อสนับสนุนแถลงการณ์ ได้ที่ หน้าเฟซบุ๊ค