นิรโทษกรรมประชาชน

9 เมษายน 2568 เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน แถลงเรียกร้องรัฐบาล แสดงความจริงใจด้วยการเสนอร่างพิจารณาประกบกับร่างพรรคการเมือง – ภาคประชาชน และให้สภายังคงวาระนิรโทษกรรมเป็นเรื่อง “เร่งด่วน” ถกต่อสมัยประชุมหน้า

เมื่อร่างถูกเลื่อนขึ้นมาพิจารณาโดยเร็วพร้อมกับประเด็นกาสิโน เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ซึ่งเป็นผู้รวบรวมรายชื่อประชาชน มีความเห็นและข้อเสนอเฉพาะหน้า ดังนี้

ผู้แทนราษฎรโหวต “เลื่อน” ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดีจากการชุมนุมทางการเมืองทั้งสี่ฉบับ ขึ้นมาพิจารณา ในวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 ก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 10 เมษายน 2568 

จากการกรณีการบังคับย้ายเรือนจำของผู้ต้องขังทางการเมือง ได้แก่ ก้อง-อุกฤษฎ์ สถาพรและบุ๊ค-ธนายุทธ เป็นผลให้มีผู้บาดเจ็บ เพื่อนของก้องได้ยื่นหนังสือต่อกมธ.กฎหมายฯ ให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว

เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนยื่นหนังสือต่อผู้นำฝ่ายค้านเพื่อเรียกร้องให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจากการเพิกเฉยต่อปัญหาคดีความทางการเมือง

“การอยู่ในคุกไม่มีหรอกคำว่าสบายดี” แต่ธี-ถิรนัย ไปอยู่ในนั้นมาพร้อมกับเพื่อนผู้ต้องขังจากคดีทางการเมืองหลายคน เขาได้ออกมาก่อนเพราะมีโทษน้อยกว่า และเขายังรอว่า “ผู้ใหญ่” อย่างพรรตเพื่อไทยจะทำอะไร

ชวนสำรวจความคิดเห็นจากหลายมุม หลายฝ่ายว่า การนิรโทษกรรมที่รวมคดีตามมาตรา 112 จะมีปัญหาอย่างไร เหตุใดจึงถูกคัดค้าน และมีทางเลือกทางออกอื่นใดอีกบ้าง

วันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00-17.00 น. iLaw จัดเสวนาในหัวข้อ “เส้นทางนิรโทษกรรมทางการเมืองและคดีมาตรา 112” ที่ Kinjai Contemporary ร่วมเสวนาโดย พูนสุข พูนสุขเจริญ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และชูวัส ฤกษ์ศิริสุข กรรมาธิการศึกษานิรโทษกรรม ร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวการนิรโทษกรรมคดีการเมือง และความหวังในการรวมคดี มาตรา 112

24 ตุลาคม 2567 เสียงข้างมากของ สส. โหวต “ไม่เห็นด้วย” กับข้อสังเกตในรายงาน กมธ. นิรโทษกรรม แม้ในรายงานดังกล่าวจะไม่ได้สรุปชัดว่าการตรากฎหมายนิรโทษกรรมควรจะต้องรวมหรือไม่รวมความผิดมาตรา 112