มาตรา 112 (หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ)

13 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดภูเขียวนัดไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษาและครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์ฟังคำพิพากษาในคดีที่ทั้งถูกฟ้องในความผิดตามมาตรา 112 มาตรา 116 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับการอนุญาต จากการชุมนุม #ราษฎรออนทัวร์ ของกลุ่ม “ราษฎร” บริเวณหน้าโรงเรียนภูเขียวและหน้าสถานีตำรวจภูธรภูเขียว

เดือนกันยายน 2567 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างน้อยหกคดีในจำนวนนี้ห้าคดีเป็นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งมีแนวโน้มว่า จำเลยเหล่านี้อาจจะไม่รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสู้คดีในศาลสูง

29 สิงหาคม 2567 ศาลอาญานัดเก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ฟังคำพิพากษากรณีการปราศรัยในกิจกรรมวันแรงงานสากล ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา ศาลแจ้งแก่จำเลยว่าโจทก์ได้แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง ซึ่งศาลได้อนุญาตแล้ว ทำให้ทนายจำเลยแถลงคัดค้านต่อศาล ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนการพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 29 ตุลาคม 2567

29 สิงหาคม 2567 ศาลอาญารัชดาฯ นัดทอปัด ศิลปินอิสระฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.2366/2565 แต่ทว่าเธอไม่ได้มาปรากฎตัวที่ศาล ศาลจึงต้องออกหมายจับทอปัดเพื่อให้มาฟังคำพิพากษา ศาลกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาใหม่เป็นวันที่ 3 ตุลาคม 2567

29 สิงหาคม 2567 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดเก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ฟังคำพิพากษากรณีปราศรัยวันแรงงาน หนึ่งในคำบรรยายฟ้องกล่าวว่าการปราศรัยน่าจะทำให้เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ซึ่งเป็นรัชทายาทของรัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น

29 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจาณาคดีที่ 711 ศาลอาญานัดทอปัด ศิลปินอิสระฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.2366/2565 ที่เธอถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีที่โพสต์ภาพวาดของรัชกาลที่ 10 ลงบนอินสตาแกรม

27 สิงหาคม 2567 ศาลพิพากษา คดี ม.112 ของ อาย-กันต์ฤทัยลงโทษจำคุก กรรมละ 3 ปี รวม 8 กรรม จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง รวมจำคุก 8 ปี 48 เดือน ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ทำให้เธอต่องเข้าเรือนจำทันที

27 สิงหาคม 2567 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัด อาย-กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน ฟังคำพิพากษา คดี 112 จากกรณีการถูกกล่าวหาว่าใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ มากถึง 8 กรรม

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น จากเดิมที่ยกฟ้องเปลี่ยนเป็นพิพากษาว่ามีความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำคุกกระทงละ 3 ปี ทั้ง 3 กระทงรวมเป็นจำคุก 9 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามเนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ เหลือโทษจำคุก 6 ปี