เปิดชื่อ กมธ. #แก้รัฐธรรมนูญ นั่งหลายชุด แก้หลายรอบ แต่รัฐธรรมนูญไม่เคยผ่าน
อ่าน

เปิดชื่อ กมธ. #แก้รัฐธรรมนูญ นั่งหลายชุด แก้หลายรอบ แต่รัฐธรรมนูญไม่เคยผ่าน

เปิดชื่อกมธ. 45 คน พิจารณาร่าง #แก้รัฐธรรมนูญ เรื่องระบบเลือกตั้ง หลายคน “หน้าซ้ำ” กับกมธ. #แก้รัฐธรรมนูญ ครั้งก่อน ที่ถูกคว่ำไป ยิ่งไปกว่านั้น มีสมาชิกรัฐสภาหลายคนที่เป็นกมธ. #แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งสองชุด แถมเป็นกมธ. ถ่วงเวลา #แก้รัฐธรรมนูญ อีกด้วย
ถอดรหัสการลงมติ #แก้รัฐธรรมนูญ – ส.ว. โหวตแบบ “ไม่สนโลก”
อ่าน

ถอดรหัสการลงมติ #แก้รัฐธรรมนูญ – ส.ว. โหวตแบบ “ไม่สนโลก”

จากการตรวจดูผลการลงมติแก้รัฐธรรมนูญ พบว่า การลงมติของ ส.ว. เป็นไปอย่าง “ไม่สนโลก” ไม่ว่าจะเป็นการลงมติเพื่อขัดขวางเสียงข้างมากของสภาผู้แทนฯ การขาดประชุมของ ส.ว. ที่ควบตำแหน่งผู้นำเหล่าทัพ หรือ การเปลี่ยนจุดยืนของ ส.ว. ที่เคยลงมติปิดสวิตซ์ ส.ว.
ผ่านแค่ร่างเดียว! #แก้รัฐธรรมนูญ ภาคสอง รับระบบ 2540 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เสนอ
อ่าน

ผ่านแค่ร่างเดียว! #แก้รัฐธรรมนูญ ภาคสอง รับระบบ 2540 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เสนอ

ผ่านแค่ร่างเดียว! ที่ประชุมสภาลงมติ #แก้รัฐธรรมนูญ วาระที่ 1 รับแค่ร่างเดียว คือ การเสนอแก้ไขระบบเลือกตั้งไปใช้คล้ายระบบ 2540 ซึ่งเสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนร่างที่เสนอให้ยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ไม่ผ่านเพราะเสียงของ ส.ว. ไม่เพียงพอ
แก้รัฐธรรมนูญ: สรุปการประชุมสภาแก้รัฐธรรมนูญภาคสองวันแรก
อ่าน

แก้รัฐธรรมนูญ: สรุปการประชุมสภาแก้รัฐธรรมนูญภาคสองวันแรก

23 มิถุนายน 2564 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส. และ ส.ว. มีนัดพิจารณาญัตติแก้รัฐธรรมนูญแบบ “รายมาตรา” รวมกัน 13 ฉบับ โดยประเด็หลักที่มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางคือ เรื่องอำนาจของ ส.ว. ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 กับ การจำกัดอำนาจของ ส.ส. ในการแปรญัตติงบประมาณ และการแทรกแซงการดำเนินงานของราชการ ตามมาตรา 144 กับ 185 ตามลำดับ
หยุดอ้างประชามติ! เพราะพรรคที่เสนอ “ปิดสวิตซ์ ส.ว.” มาจากประชาชน 23 ล้านเสียง
อ่าน

หยุดอ้างประชามติ! เพราะพรรคที่เสนอ “ปิดสวิตซ์ ส.ว.” มาจากประชาชน 23 ล้านเสียง

ในศึกแก้รัฐธรรมนูญภาคสอง หนึ่งในประเด็นหลักที่พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างอภิปรายตรงกัน คือ การยกเลิก มาตรา 272 ที่ให้ ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงห้าปีแรกของบทเฉพาะกาล แต่ทว่าประเด็นดังกล่าวก็นำไปสู่การลุกขึ้นประท้วงของฝ่าย ส.ว. อาทิ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ยืนยันย้ำเตือนว่า อำนาจ ส.ว. มาจากการออกเสียงประชามติจาก “พี่น้องประชาชน 16 ล้านคน”
แก้รัฐธรรมนูญ: “แก้ระบบเลือกตั้ง-ปิดสวิตซ์ ส.ว.” จุดร่วมฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล
อ่าน

แก้รัฐธรรมนูญ: “แก้ระบบเลือกตั้ง-ปิดสวิตซ์ ส.ว.” จุดร่วมฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล

ในศึกการแก้รัฐธรรมนูญภาคสอง ทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านต่างมีจุดร่วมสำคัญอยู่ที่การแก้ไขเรื่อง “ระบบเลือกตั้ง” ให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งสองใบเช่นเดียวกับระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 แต่จุดต่างที่สำคัญ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่ยอมเสนอ คือ การ “ปิดสวิตซ์ ส.ว.” หรือยกเลิกที่มาและอำนาจของวุฒิสภาตามบทเฉพาะกาล หรือ ยกเลิก ส.ว. ที่มาจากการคัดเลือกของ คสช.
เปิดรายชื่อ ส.ส. ส.ว. โหวตอะไรบ้างในการ #แก้รัฐธรรมนูญ วาระสาม
อ่าน

เปิดรายชื่อ ส.ส. ส.ว. โหวตอะไรบ้างในการ #แก้รัฐธรรมนูญ วาระสาม

17 มีนาคม 2564 รัฐสภามีมติเห็นชอบร่างแก้รัฐธรรมนูญ วาระสาม เพียง 208 เสียง ไม่เกินกึ่งหนึ่ง ร่างเป็นอันตกไป ชวนดูกันว่า ส.ส. ส.ว. แต่ละคน ลงมติอย่างไรบ้าง
รัฐสภาวุ่น! ส.ส. ส.ว. เสนอสี่ทางออก #แก้รัฐธรรมนูญ วาระสาม
อ่าน

รัฐสภาวุ่น! ส.ส. ส.ว. เสนอสี่ทางออก #แก้รัฐธรรมนูญ วาระสาม

เนื่องจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่ารัฐสภาจะทำประชามติได้ในขั้นตอนใด สมาชิกรัฐสภายังไม่สามารถหาข้อยุติได้ว่าจะลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระสามหรือไม่
ร่างรัฐธรรมนูญวาระสามล่ม! เสียงเห็นชอบไม่เกินครึ่ง-เสียง ส.ว.เห็นชอบไม่ถึงหนึ่งในสาม
อ่าน

ร่างรัฐธรรมนูญวาระสามล่ม! เสียงเห็นชอบไม่เกินครึ่ง-เสียง ส.ว.เห็นชอบไม่ถึงหนึ่งในสาม

17 มีนาคม 2564 รัฐสภามีมติเห็นชอบร่างแก้รัฐธรรมนูญ ในวาระสาม เพียง 208 เสียง ซึ่งไม่เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา จึงเป็นผลให้ร่างเป็นอันตกไป
ร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ : เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ จำคุกห้าปี-ปรับไม่เกินหนึ่งแสน
อ่าน

ร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ : เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ จำคุกห้าปี-ปรับไม่เกินหนึ่งแสน

17 มีนาคม 2564 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีนัดพิจารณา "ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ" หรือ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดย ร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับนี้ มีสาระสำคัญว่า การจัดประชามติจะกระทำได้ในสองกรณี คือ การแก้รัฐธรรมนูญ กับ ที่ครม. มีมติเสนอ และผลการตัดสินประชามติให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิและผู้มาใช้สิทธิ อีกทั้ง ให้อำนาจ กกต. ในการกำกับการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโทรทัศน์ รวมถึงมีบทลงโทษสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จซึ่งมีโทษจำคุกถึงห้าปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท