- คดีหมิ่นประมาท, ฐานข้อมูลคดี
สิรวิชญ์: ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ชุมนุม #เห็นหัวกูบ้าง
อัปเดตล่าสุด: 09/07/2563
ผู้ต้องหา
สิรวิชญ์
สถานะคดี
ชั้นอัยการ
คดีเริ่มในปี
2562
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
กกต.มอบอำนาจให้ พินิจ จันทร์ฉาย เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหาทั้งสาม
พะเยาว์ สิรวิชญ์ และพริษฐ์ รวมถึงกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม และแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย อานนท์ นำภา ร่วมกันจัดกิจกรรมต้านโกงเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องความโปร่งใสของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562
ในการทำกิจกรรมมีการชูป้าย เช่น #หยุดโกงเลือกตั้ง #RespectMyVote และ #เห็นหัวกูบ้าง พร้อมกับการตะโกนขับไล่ กกต. อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ กกต. เปิดผลคะแนนเลือกตั้งของทุกหน่วย และเปิดโต๊ะให้ประชาชนร่วมลงชื่อถอดถอน กกต. ออกจากการทำงาน
ภายหลังพวกเขาถูกเรียกตัวเพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ นิว ภูมิลำเนาเดิมมาจากจังหวัดนครราชสีมา ศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมัยอยู่ชั้นปี 1-2 เคยทำงานอยู่ในสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะเข้าร่วมกลุ่มสภาหน้าโดม
เคยเป็นแกนนำเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องค่าอาหารของโรงอาหารกลางวันของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่สูงเกินไป สิรวิชญ์ยังเคยลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ไม่ได้รับเลือก
ปัจจุบันทำกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับ และการเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่นๆ เช่น เป็นแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในการออกมาาชุมนุมเรียกร้องให้ คสช.จัดการเลือกตั้งหลายครั้ง
พะเยาว์ อัคฮาด หรือ "แม่น้องเกด" (เกด – กมน อัคฮาด) พยาบาลอาสาซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553
หลังจากนั้นพะเยาว์ได้ทำกิจกรรมทางการเมืองเรื่อยมา เช่น กิจกรรมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ "คนเสื้อแดง" ในรัฐบาลของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมถึงการเรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562
พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด เป็นอดีตเลขาธิการของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการศึกษาไทยให้มีความก้าวหน้า
ในขณะเกิดเหตุคดีนี้ พริษฐ์ศึกษาระดับอุดมศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เช่น ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 พริษฐ์ไปทำกิจกรรมกินมาม่าซ้อมยากจนที่บริเวณสกายวอล์ก หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เพื่อประท้วงกรณีที่ คสช. ยังไม่ยอมประกาศวันเลือกตั้งให้ัชัดเจนขณะที่เศรษฐกิจก็ไม่ดีขึ้น
นอกจากนั้นพริษฐ์ยังเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกลุ่มที่จะจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วย แต่ขณะนั้นพริษฐ์ไม่ได้ร่วมจดจัดตั้งหรือเป็นสมาชิกพรรคเพราะขณะนั้นเขายังอายุไม่ถึง
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 326 / 328 ประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ผู้ต้องหาทั้งสามร่วมกิจกรรม #เห็นหัวกูบ้าง ที่บริเวณเกาะดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างการทำกิจกรรม
สิรวิชญ์ ผู้ต้องหาที่หนึ่ง อ่านแถลงการณ์ซึ่งสรุปได้ว่าขอให้กกต.เปิดเผยผลการเลือกตั้งของทุกหน่วยเลือกตั้ง ไม่อยากเห็นการปรับคะแนนเสียงของกกต. โดยเฉพาะการปรับเพื่อให้ประโยชน์แก่พรรคใดพรรคหนึ่ง
พะเยาว์ ผู้ต้องหาที่สองกล่าวคำว่า ใครที่รอรวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อต่อต้านการโกงโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ส่วนพริษฐ์ ผู้ต้องหาที่สามกล่าวถ้อยคำทำนองว่า ทำไมกกต.ถึงยอมให้มีการโกงการเลือกตั้ง กกต.ย่อมาจากโกงการเลือกตั้ง กกต.มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งทำไมมาโกงเลือกตั้งเสียเอง
ซึ่งถ้อยคำที่ทั้งสามกล่าวไม่เป็นข้อเท็จจริง และเป็นการจงใจร่วมกันใส่ร้ายกรรมการการเลือกตั้งต่อประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณนั้น จึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
พฤติการณ์การจับกุม
ผู้ต้องหาทั้งสามเดินทางเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกของพนักสอบสวนจึงไม่มีการจับกุมตัว และการเข้ารายงานตัวก็มีลักษณะเป็นการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์
ทั้งสามเริ่มเดินเท้าจากวัดปทุมวนารามซึ่งเป็นบริเวณที่ลูกสาวของผู้ต้องหาที่สองถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 ไปที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทโดยมีประชาชนประมาณ 20 คน มาให้กำลังใจและร่วมเดินเท้า
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ไม่มีข้อมูล
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
31 มีนาคม 2562
เวลา 16.00 น. ที่บริเวณสกายวอร์ค อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม และแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย อานนท์ นำภา ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องความโปร่งใสจากการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่ง กกต ยังไม่เปิดผลคะแนนดิบจากทุกหน่วย รวมถึงมีข้อกังวลเรื่องการนับคะแนนที่ไม่โปร่งใสจากหลายหน่วยเลือกตั้ง
นอกจากอานนท์ก็มีบุคคลสาธารณะอีกจำนวนหนึ่งมาร่วมกิจกรรม เช่น สิรวิชญ์ พริษฐ์ ธนวัฒน์ ณัฏฐา และ พะเยาว์ โดยผู้ชุมนุมมีการล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ที่ไม่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน จนนำมาซึ่งข้อสงสัยจำนวนมากต่อประชาชนและมีการถือป้ายกระดาษที่เขียนหรือพิมพ์ข้อความ เช่น
#เห็นหัวกูบ้าง #RespectMyVote และ #บัตรเสียบัตรเขย่ง, ผลเลือกตั้งไม่กลัว กลัวบัตรเสีย กลัวบัตรเสริม, ถั่วไม่งอกแต่บัตรงอก
โดยระหว่างการจัดกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจมารักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก และยังได้รับความสนใจจากประชาชนประมาณ 300 คน
เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือให้ผู้ร่วมกิจกรรมย้ายการทำกิจกรรมจากพื้นที่สกายวอร์ค ไปยังพื้นที่ด้านล่าง เนื่องจากการทำกิจกรรมบนพื้นที่สกายวอร์คเป็นอุปสรรคต่อการเดินสัญจรไปมาของประชาชนทั่วไป
ผู้ชุมนุมจึงย้ายลงมาทำกิจกรรมบริเวณเกาะดินแดงของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการชูป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึงตะโกน เช่น “กกต. ออกไป” และยังมีการเปิดโต๊ะเข้าชื่อถอดถอน กกต. ด้วย
สิรวิชญ์ระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปสิรวิชญ์อ่านแถลงการณ์ซึ่งมีข้อเรียกร้องให้กกต. เปิดเผยผลการลงคะแนนของทุกหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกันภายในวันที่ 1 เมษายน 2562 รวมถึงเรียกร้องให้ กกต. กระทำการโดยความโปร่งใส ไม่ปรับแต่งผลคะแนนที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง โดยสิรวิชญ์กล่าวเพิ่มเติมว่า หาก กกต. ไม่ดำเนินการตามคำเรียกร้อง ทางกลุ่มฯ จะยกระดับการเรียกร้องด้วยการยื่นรายชื่อต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อถอดถอน กกต. ต่อไป
กลุ่มผู้ชุมนุมยังชูป้ายข้อความโดยหันหน้าเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เรียกร้องให้ “กกต. เห็นหัวเราบ้าง” และมีการจัดกิจกรรมแจกรางวัลให้ผู้ที่เขียนข้อความประชด กกต. ได้ถูกใจผู้ร่วมกิจกรรมมากที่สุดด้วย ก่อนที่การชุมนุมจะยุติลงในเวลาประมาณ 18.00 น.
7 เมษายน 2562
พะเยาว์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อบัญชี Phayaw Akkahad ว่า
“แอบได้ข่าวมาว่าดิฉันอาจจะได้เป็นผู้โชคดีได้รับหมายจาก กกต. ด้วย ดิฉันยังยืนยันว่าดิฉันวิจารณ์การทำงานของหน่วยงานรัฐโดยสิทธิตามกฎหมาย ดิฉันไม่กลัว อยากฟ้องก็ฟ้อง ให้มันกล้าๆ หน่อย ถ้าบริสุทธิ์จริงจะกลัวอะไรกะอีแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนนึง?”
25 เมษายน 2562
พะเยาว์โพสต์ภาพหมายเรียกของสน.พญาไทพร้อมข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกกต. พะเยาว์ระบุด้วยว่าในวันนัดเธอจะเดินเท้าจากวัดปทุมวนารามไปที่สน.พญาไท นอกจากพะเยาว์แล้วคดีนี้มีอีกสองคนที่ได้รับหมายเรียกคือสิรวิชญ์และพริษฐ์
30 เมษายน 2562
เวลา 09.00 น. พะเยาว์นัดกับสิรวิชญ์และพริษฐ์ผู้ต้องหาอีกสองคนที่วัดปทุมวนารามเพื่อมาวางพวงมาลัยบอกกล่าวแก่น้องเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในปี 2553 ซึ่งเป็นลูกของพะเยาว์ จากนั้นพะเยาว์ สิรวิชญ์ และพริษฐ์ พร้อมทั้งประชาชนที่มาให้กำลังใจประมาณ 20 คน เริ่มเดินเท้าจากวัดปทุมวนารามไปที่สน.พญาไทในเวลาประมาณ 09.30 น.
ผู้ต้องหาทั้งสามและผู้ที่มาให้กำลังใจเดินผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ข้ามสะพานลอยบริเวณสี่แยกปทุมวันไปยังฝั่งถนนพญาไท ขณะกำลังข้ามสะพานลอยไปยังฝั่งถนนพญาไท ได้มีประชาชนสามคนมายืนรออยู่ที่เชิงสะพานลอยพร้อมทั้งชูสัญลักษณ์สามนิ้ว ต้อนรับผู้ร่วมเดิน หลังจากนั้นจึงร่วมเดินเท้าไปด้วยกัน ระหว่างการเดินมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามการเดินเท้าโดยตลอด เนื่องจากพะเยาว์เพิ่งเข้ารับการรักษาดวงตาจึงต้องพักการเดินเป็นระยะ
เมื่อไปถึงสน.พญาไท พะเยาว์ สิรวิชญ์ และพริษฐ์ นั่งพักครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเชิญไปสอบปากคำบนชั้นสองของสถานี เจ้าหน้าที่ให้เวลาสื่อมวลชนและผู้มาให้กำลังใจผู้ต้องหาถ่ายภาพบรรยากาศในห้องสอบสวน จากนั้นจึงเชิญผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากห้องเพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวน โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และตัวแทนจากสํานักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) ร่วมฟังการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามด้วย
ผู้ต้องหาทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนนัดหมายให้ทั้งสามเข้ารายงานตัวที่สน.พญาไทอีกครั้งในวันที่ 4 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 น.
16 สิงหาคม 2562
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า พนักงานสอบสวนสน.พญาไท มีความเห็นส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสามต่ออัยการโดยอัยการนัดทั้งสามฟังคำสั่งคดีในวันที่ 30 กันยายน 2562
30 กันยายน 2562
นัดฟังคำสั่งอัยการ
อัยการนัดผู้ต้องหาฟังคำสั่งที่สำนักงานอัยการสูงสุดในเวลา 10.00 น. พะเยาว์เดินทางมาถึงที่สำนักงานอัยการตั้งแต่ก่อนเวลา 9.00 น. ขณะที่สิรวิชญ์และพริษฐ์ยังมาไม่ถึงในขณะนั้น โดยสิรวิชญ์มีนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่องค์การสหประชาชาติ (คดีผู้จัดการชุมนุม) ที่ศาลอาญาในเวลา 9.00 น. จึงเดินทางไปที่ศาลอาญาก่อนและจะเดินทางมาที่สำนักงานอัยการในภายหลัง
ในเวลา 10.30 น. อัยการแจ้งพะเยาว์ว่าจะะเลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 30 ตุลาคม 2562 พะเยาว์จึงลงชื่อรับทราบวันเลื่อนนัดแล้วเดินทางกลับไป ขณะที่สิรวิชญ์กับพริษฐ์เดินทางมาลงชื่อรับทราบคำสั่งในภายหลังโดยสิรวิชญ์ไปเซ็นรับทราบคำสั่งในเวลาประมาณ 11.30 น. หลังเสร็จการพิจารณาคดีที่ศาลอาญา
30 ตุลาคม 2562
นัดฟังคำสั่งอัยการ
พริษฐ์ หนึ่งในผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า อัยการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งให้เลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 เนื่องจากก่อนหน้านี้อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
28 พฤศจิกายน 2562
นัดฟังคำสั่งอัยการ
สิรวิชญ์ หนึ่งในผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า อัยการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งให้เลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 15 มกราคม 2563
15 มกราคม 2563
นัดฟังคำสั่งอัยการ
เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลว่า อัยการเลื่อนนัดคำสั่งคดีออกไปโดยกำหนดวันนัดเผื่อไว้สองวันคือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 และ วันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยนัดเดือนกุมภาพันธ์ หากอัยการยังไม่มีคำสั่งคดีผู้ต้องหาทั้งสามยังไม่ต้องเดินทางไปพบอัยการด้วยตัวเอง
22 มิถุนายน 2563
นัดฟังคำสั่งอัยการ
อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 20 กรกฎาคม 2563
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล