- คดีสำคัญ
- คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, คดีมาตรา112, คดีอื่นๆ, ฐานข้อมูลคดี
ไชยอมร: เผาพระบรมฉายาลักษณ์
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
หลังเกิดเหตุไชยอมรถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และช้อกล่าวหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
เบื้องต้นศาลไม่อนุญาตให้ไชยอมรประกันตัว เพราะเกรงว่าจะหลบหนี แต่ต่อมาหลังมีกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่อง ศาลอนุญาตให้เขาประกันตัวในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
พระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่นั้น เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นหน่วยราชการได้จัดทำขึ้นไว้เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ หรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10
การกระทำของจำเลยกับพวกข้างต้น จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรล่วงละเมิด เป็นการแสดงออกด้วยประการใดว่าจะทำให้เสียหายในทางใดๆ ไม่ว่าจะเป็นพยานอันตรายแก่ร่างกายทรัพย์สินสิทธิเสรีภาพหรือชื่อเสียงเกียรติคุณอันไม่ใช่การใช้สิทธิ์ตามปกตินิยมนับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์
ทำให้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น หมิ่นพระเกียรติ ถูกลบหลู่ และมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงชนชาวไทย ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้
พฤติการณ์การจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แหล่งอ้างอิง
ในช่วงเวลาเกิดเหตุผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร ได้แก่ พริษฐ์ ชิวารักษ์ อานนท์ นำภา สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม กำลังถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี 112 จากการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกับเรือนจำคลองเปรม
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.10 น.ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พบบุคคลต้องสงสัยสามคนเป็นชายสองคน และหญิงหนึ่งคน และหลักฐานที่ผู้ก่อเหตุน่าจะเตรียมมาใช้กระทำความผิดในที่เกิดเหตุด้วย
ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะใช้เดินทางและหลบหนีไปจนถึงที่พักแล้ว
นอกจากนั้นกรมราชทัณฑ์ได้ไปร้องทุกข์กับสน.ประชาชื่นแล้วโดยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในคดีนี้ด้วยเป็นเพราะผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เผาทำลายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุต่อไป
แต่เจ้าตัวบอกว่ามีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่และกระดูกเชิงกราน จึงร้องขอเข้าไปรักษาตัวที่ รพ.ราชธานี จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งตัวมารักษาที่ รพ.ตำรวจ กทม. และควบคุมตัวไว้สอบปากคำต่อไป
พนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่นซึ่งรับผิดชอบท้องที่เกิดเหตุระบุว่าจะเข้าแจ้งข้อกล่าวหากับไชยอมรที่โรงพยาบาลตำรวจในเวลา 13.30 น. ทนายความและครอบครัวจึงรอพบไชยอมรที่โรงพยาบาลตำรวจและได้พบตัวไชยอมรพร้อมกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นในเวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับไชยอมรและทำการสอบปากคำเขา
นอกจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าพบไชยอมรเพื่อขอเข้าถึงเครื่องมือสื่อสารของเขาด้วย ไชยอมรให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 20 วัน
ผู้ต้องหาเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระรามเก้า เนื่องจากมีอาการปวดหลังตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จนเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 จึงออกมาพักรักษาตัว ผู้ต้องหาประกอบอาชีพเป็นศิลปินนักร้อง และมีการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ต้องหาไม่ได้ปกปิด อำพรางตน และผู้ที่เป็นเจ้าของห้องพักและผู้คนที่พักอาศัยในห้องพักข้างเคียงหรือในห้องพักอื่นก็พบเห็นผู้ต้องหา
นอกจากนั้นยังออกหมายเรียกผู้ร่วมก่อเหตุอีกหนึ่งคนมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาหญิงรายนี้มีพฤติการณ์หลบหนีเตรียมการเดินทางออกนอกประเทศ ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
เมื่อกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้น ธนพัฒน์ได้รับการปล่อยตัวในชั้นสอบสวน โดยไม่ต้องวางหลักประกัน เนื่องจากได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ไม่มีเหตุให้ควบคุมตัว
นอกจากไชยอมรแล้วศาลยังนัดไต่สวน พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ ภาณุพงศ์ จาดนอก จำเลยคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎรด้วย
ในนัดนี้เจ้าหน้าที่บริเวณจุดคัดกรองแจ้งให้ผู้สังเกตการณ์หันหน้าให้กล้องวงจรปิดเคลื่อนที่บริเวณจุดคัดกรองถ่ายรูปพร้อมกับถือบัตรประชาชนในมือด้วย
ด้านหน้าห้องพิจารณาคดี 703 ซึ่งเป็นห้องที่ถ่ายทอดสัญญาณมาจากห้องพิจารณาหลัก เจ้าหน้าที่ยังเตรียมตระกร้าใส่อุปกรณ์สื่อสารมาเตรียมไว้พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ประสงค์เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีทราบว่าผู้ที่ประสงค์จะเข้าห้องพิจารณาคดีจะต้องฝากอุปกรณ์สื่อสารเสียก่อน
ตัวแทนจากสถานทูตออสเตรเลียได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ศาลอาญาว่า ทางสถานทูตมีแนวปฏิบัติไม่ให้ฝากโทรศัพท์มือถือกับบุคคลอื่นจึงจะขอนำโทรศัพท์เข้าห้องพิจารณาแต่จะไม่หยิบขึ้นมาใช้ระหว่างการพิจารณา ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บโทรศัพท์ของบุคคลใด แต่กำชับผู้ประสงค์จะเข้าห้องพิจารณาคดีไม่ให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้แทน
หากศาลจะกำหนดเงื่อนไขเรื่องการใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวหรือไม่ เขาตอบว่า ยินดี แต่เขามีความกังวลเรื่องที่เขาจะต้องเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อแสดงคอนเสิร์ตและเกรงว่า สัญญาณของกำไลอิเล็กทรอนิกส์อาจส่งสัญญาณรบกวนเครื่องดนตรีของเขา อย่างไรก็ตาม หากศาลเห็นควรให้มีข้อกำหนดนี้ เขาก็ยินดีปฏิบัติตามเพื่อให้ความมั่นใจกับศาลว่าเขาจะไม่หลบหนี
อรวรรณเบิกความเกี่ยวกับธุรกิจของไชยอมรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า เธอทราบว่า ลูกชายหุ้นกับเพื่อนสมัยเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญทำกิจการโฮสเทลและบาร์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และก็ไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นระยะ หากไชยอมรได้รับการประกันตัวเธอจะดูแลให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลอย่างเคร่งครัด
ไชยอมร มีคนในครอบครัวที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเป็นเพียงศิลปินและนักแต่งเพลงไม่มีอิทธิพลที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และได้แถลงต่อศาลด้วยความสมัครใจว่าจะไม่กระทำการให้เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
บิดาและมารดาของผู้ต้องหาแถลงรับรองว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีความประพฤติดีและจะดูแลให้ผู้ต้องหามาตามนัดศาลทุกนัด ผู้ต้องหาได้แต่งตั้งทนายความเข้ามาแสดงให้เห็นว่ายอมรับกระบวนการพิจารณาคดีของศาล พนักงานสอบสวนไม่คัดค้าน
และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83 ,91, 112, 217 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ต่อศาลอาญาแล้ว
ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น.
นัดสืบพยานจำเลย
นัดสืบพยานโจทก์