28 พฤศจิกายน 2563
เฟซบุ๊กเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมโพสต์ภาพและข้อความ ประกาศนัดชุมนุม #ปลดอาวุธศักดินาไทย ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พร้อมระบุเหตุผลประกอบการชุมนุมว่าเนื่องจากขณะนั้นมีกระแสข่าวเรื่องการทำรัฐประหารและก่อนหน้านั้นก็มีการออกกฎหมายโอนกำลังพลบางส่วนมาอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพระมหากษัตริย์คล้ายๆกับเป็นกองกำลังส่วนพระองค์ จึงมีความห่วงกังวลในประเด็นดังกล่าว
29 พฤศจิกายน 2563
หลังมีประกาศนัดชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 1 ข่าวสดออนไลน์รายงานว่าในเวลาประมาณ 2.45 น. มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาวางล้อมบริเวณทางเข้าออกกรมทหารราบที่ 1 วิภาวดี และบริเวณใกล้เคียง
ต่อมาเวลา 10.23 น. โพสต์ทูเดย์รายงานว่า ผู้ชุมนุมราษฎรประกาศย้ายสถานที่ชุมนุมจากกรมทหารราบที่ 1 ไปเป็นกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน แม้จะมีการประกาศย้ายจุดชุมนุมแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายแนวกั้นคอนเทนเนอร์ออกไปแต่อย่างใด
29 พฤศจิกายน 2563
ข่าวสดออนไลน์รายงานว่าในเวลา 13.00 น.หรือประมาณสองชั่วโมงก่อนเวลาเริ่มชุมนุมของกลุ่มราษฎร ตำรวจจราจรจากสน.บางเขน มาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 และมีการนำต้นไม้มาตั้งบริเวณป้ายชื่อที่อยู่ด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 ด้วย
จากนั้นเวลา 13.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนำลวดหนามหีบเพลงมาวางล้อมหน้าทางเข้ากรมฝั่งถนนพหลโยธินพร้อมทั้งนำซากรถเมล์มาจอดขวางทางเข้าอีกชั้นเพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในค่าย รวมทั้งมีการเคลื่อนรถฉีดน้ำแรงดันสูงสองคันเข้ามาประจำการในพื้นที่ด้วย
พริษฐ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเดินทางมาถึงสถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีฯถึงเหตุผลในการย้ายสถานที่ชุมนุมว่า เป็นเพราะรัฐนำตู้คอนเทนเนอร์และลวดหนามหีบเพลงมาขัดขวาง จึงต้องเปลี่ยนมาชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 11 แทน และทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 ต่างมีส่วนในการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง รวมทั้งมีส่วนในการทำรัฐประหาร
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมาดูความเรียบร้อยที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 ระบุว่าผู้ชุมนุมยังไม่ได้แจ้งการชุมนุม แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการชุมนุมมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย
ไทยโพสต์ออนไลน์รายงานว่าในเวลา 16.35 น.ชินวัตร ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงตอนหนึ่งว่า ตัวเขาเรียกกรมทหารราบที่ 11ว่า กองบัญชาการสังหารคนเสื้อแดง เราไม่ได้มาท้าตีท้าต่อยแต่มาเพื่อปลดอาวุธ ก่อนหน้านี้เราประกาศว่าจะไปบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ปรากฏว่า มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ไปไว้ เราเลยต้องมากรมทหารราบที่ 11 แทน ทหารในบ้านพล.อ.ประยุทธ์เลยต้องกินแกงเขียวหวานไก่ใส่สลิ่ม
ชินวัตรกล่าวต่อว่า วันนี้เรามาเยี่ยมเยียนกัน ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นขอฝากรัฐบาล ถ้าคิดทำรัฐประหารช่วยเช็คกองกำลังให้ดีหน่อย ราษฎรไม่มีอาวุธไปสู้ แต่ขอเตือนคนที่จะทำรัฐประหารและคนที่จะเซ็นให้มีการรัฐประหารถ้ามีรัฐประหาร ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหน ระวังเจอราษฎรเป็ดก้าบๆ ไปต่อต้านแล้วกัน เผด็จการจงพินาศเป็ดก้าบๆ จงเจริญ นอกจากนี้ รัฐบาลชอบบอกว่าเราใช้ความรุนแรงทําลายทรัพย์สินราชการ ถามว่าแค่เอาสีพ่นลบกันไม่ได้หรืออย่างไร
บีบีซีไทย รายงานว่า หลังเคารพธงชาติในเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมที่รวมตัวบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวัดพระศรีฯ เคลื่อน ขบวนมาที่กรมทหารราบที่ 11 โดยเคลื่อนขบวนมาถึงที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 ในเวลาประมาณ 18.30 น. จากนั้นจึงมีการสลักกันกล่าวปราศรัย
ในเวลาประมาณ 20.35 น. พริษฐ์เป็นตัวแทนผู้ชุมนุมอ่านประกาศหน้ากรมทหารราบที่ 11 ให้ยกเลิก พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลฯ ที่ให้โอนกรมทหารราบที่ 1 และ 11 ไปเป็นส่วนราชการในพระองค์แล้วให้โอนหน่วยงานทั้งสองกลับคืนสู่ต้นสังกัดเดิมของกองทัพบก โดยปนะกาศดังกล่าวพอสรุปได้ว่า
ตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย การบังคับบัญชาหน่วยทหารเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ของสถาบันกษัตริย์ การให้มีกองกำลังส่วนพระองค์ถือเป็นการ "ก้าวก่าย" การทำงานของรัฐบาล และ "แทรกแซง" อำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชน
ประกาศยังระบุด้วยว่า การโอนกำลังทหารไปขึ้นตรงกับสถาบันกษัตริย์นอกจากจะบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์เองด้วย"
หลังอ่านประกาศทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แกนนำผู้ชุมนุมและผู้ที่อยู่บริเวณรอบๆรถปราศรัยร่วมกันปาประกาศที่ถูบพับเป็นจรวด เข้าไปที่ประตูรั้วของกรมทหารราบที่ 1
อานนท์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยตอนหนึ่งซึ่งสรุปได้ว่าขระนี้สังคมไทยมาถึงจุดที่พระราชอำนาจถูกขยายออกไปเรื่อย ๆเป็นเหตุให้ ประชาชนต้องมาชุมนุมในที่นี้ การโอนกำลังพล 2 หน่วย ไปเป็นส่วนราชการในพระองค์ เป็นอีกแผลของระบอบประชาธิปไตย โดยในประเทศประชาธิปไตยกองกำลังติดอาวุธต้องขึ้นตรงต่อรัฐบาลเท่านั้น
ณัฏฐธิดา พยาบาลอาสาในเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงช่วงปี 2553 ซึ่งพยานในคดีสังหาร 6 ศพวัดปทุมฯกล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า เธอมาที่กรมทหารราบ 11 เพื่อทวงถามความเป็นธรรมให้ 6 ศพ ที่วัดปทุมวนารามและคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต 99 ศพ
ก่อนยุติการชุมนุมผู้ชุมนุมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยเทสีแดง ลงที่พื้นและลวดหนามหน้าแนวกั้นของตำรวจก่อนยุติการชุมนุมโดยไม่มีเหตุรุนแรง
30 พฤจิกายน 2563
เดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและโฆษก กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่าการเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมไปยังกรมทหารราบที่ 11 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.บางเขนไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุม จึงถือเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกับสถานที่ที่แจ้งรวมตัวก่อนหน้านี้ ที่กรมทหารราบที่ 1 ก็ไม่ได้มีการแจ้งการชุมนุมเช่นกัน
16 ธันวาคม 2563
ประชาไทรายงานว่า อินทิรา และพริษฐ์ ได้รับหมายเรียกจากสน.บางเขนให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายาอายามาตรา 116 โดยหมายเรียกกำหนดให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวในวันที่ 21 ธ.ค.2563
18 ธันวาคม 2563
มติชนออนไลน์รายงานว่า พิมพ์สิริซึ่งทำงานในองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศแห่งหนึ่งโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเธอได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการเป็นหนึ่งในผู้ขึ้นปราศรัย ที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563
21 ธันวาคม 2563
นัดรับทราบข้อกล่าวหา
ตั้งแต่เวลาก่อน 10.00 น. ประชาชนราวม 100 คน ทยอยมารวมตัวที่หน้า
สน.บางเขนเพื่อรอให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้งแปดคน ขณะที่บริเวณด้านข้าง สน.บางเขนก็มีนักดนตรีกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มร้องเพลง
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ตำรวจนำรั้วมากั้นพื้นที่บริเวณทางขึ้นอาคารสถานีและจัดกำลังตำรวจสวมชุดสีกรมท่าพันผ้าพันคอสีม่วงยืนรักษาการอยู่หลังแนวรั้วเหล็ก อแต่บรรยากาศที่หน้า สน.ก็ไม่มีความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ไม่ได้กั้นพื้นที่จอดรถด้านหน้า สน. เป็นพิเศษ ผู้ชุมนุมสามารถรวมตัวบริเวณดังกล่าวได้ และมีคนนำสินค้าที่ระลึกทั้งเสื้อ ผ้าพันคอ รวมถึงตุ๊กตาเป็ดมาวางขายด้วย ขณะที่ทีมงานของทราย เจริญปุระก็ตั้งจุดบริการอาหาร และน้ำให้ผู้มาร่วมชุมนุม
เวลา 11.00 น. ประชาชนกลุ่มหนึ่งเริ่มตั้งขบวนแห่ขันหมากพาผู้ต้องหาส่วนหนึ่งเข้ามาที่หน้าสน.บางเขน เมื่อมาถึงผู้ต้องหาบางส่วนที่ถูกดำเนินคดีนี้บางส่วนกับผู้ต้องหาคดี 112 คนอื่นๆที่มาให้กำลังใจต่างสลับกันขึ้นปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินคดีกับประชาชน กระทั่งเวลา ผู้ต้องหาทั้งแปดคนเดินเข้าไปรายงานตัวกับพนักงานสอบสวนภายในอาคารสถานีตำรวจขระที่การปราศรัยยังคงดำเนินต่อไป
ระหว่างนั้นมีผู้ร่วมชุมนุมส่วนหนึ่งนำบล็อกข้อความ เช่น ยกเลิก 112 มาวางบนพื้นลานจอดรถด้านหน้าเวทีการชุมนุมและใช้สีสเปรย์พ่นข้อความคัดการการใช้มาตรา 112 ด้วย
ผู้ต้องหาทั้งแปดทยอยเดินออกจากสน.บางเขน ในช่วงบ่ายหลังเสร็จสิ้นเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธและพนักงานสอบสวนปล่อยตัวทั้งหมดโดยไม่ต้องวางเงินประกันตัว ก่อนแยกย้ายกันกลับผู้ต้องหาบางส่วนได้ขึ้นปราศรัยทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจด้วย
จากนั้นเวลา 13.52 พริษฐ์ขอให้ประชาชนที่มาให้กำลังใจร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์แก่ทราย เจริญปุระ และเป่าเค้กวันเกิดร่วมกัน ก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ
25 พฤศจิกายน 2564
อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจำเลยทั้งหมดในคดีนี้ ในวันนัดมีผู้ต้องหามารายงานตัวกับอัยการทั้งหมดสี่คนจากแปดคน ได้แก่ สมยศ พิมพ์สิริ ณัฎฐธิดา และอินทิรา
ผู้ต้องหาอีกสี่คนที่ไม่ได้มารายงานตัวได้แก่ อานนท์ และ พริษฐ์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำด้วยหมายขังคดีอื่น ขณะที่พรหมศรไม่ได้มาพบอัยการเพราะติดภารกิจอื่นซึ่งนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ชินวัตรติดนัดคดีอื่นซึ่งมีนัดหมายก่อนอัยการจะนัดส่งตัวฟ้องในคดีนี้
ทั้งชินวัตรและพรหมศรได้ประสานให้ทนายความเลื่อนการนัดรายงานตัวออกไปเป็นวันอื่นซึ่งอัยการอนุญาตให้เลื่อนการนัดส่งฟ้องในกรณีของทั้งสองคนออกไป
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า ในการฟ้องคดี จำเลยทุกคนยกเว้นอินทิราถูกฟ้องด้วยข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นข้อหาหลัก ส่วนอินธิราถูกฟ้องด้วยข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เป็นข้อหาหลัก
หลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง จำเลยสี่คนที่มาพบอัยการคือสมยศ พิมพ์สิริ ณัฎฐธิดา และอินทิรายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งสี่คนด้วยวงเงินที่แตกต่างกัน
ศาลตีราคาประกันสมยศ 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยทำกิจกรรม ที่จะทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ให้มาศาลตามนัด
พิมพ์สิริ และ ณัฎฐธิดา ศาลตีราคาประกัน 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาต กับห้ามทำกิจกรรมที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ส่วนอินทิราซึ่งถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เป็นข้อหาหลัก ศาลตีราคาประกัน 35,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเช่นเดียวกับจำเลยอีกสามคน
7 กุมภาพันธ์ 2565
นัดสอบคำให้การ
ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในเวลา 9.00 น. จำเลยหกคนทยอยเดินทางมาถึงศาลตั้งแต่ก่อนเวลา 9.30 น. แต่มีจำเลยสองคนคือพรหมศรและณัฎฐธิดาเดินทางมาถึงศาลหลังเวลา 9.30 น. ในวันนี้พริษฐ์และอานนท์ถูกเบิกตัวมาที่ห้องพิจารณาคดีด้วย
การรักษาความปลอดภัยที่ศาลอาญาในวันนี้ไม่ได้มีการวางมาตรการพิเศษใดๆ ไม่มีการตั้งจุดคัดกรองที่ลานจอดรถ มีเพียงการวางกำลังตำรวจศาลที่หน้าห้องพิจารณาคดี 901 สองนาย แต่ไม่ได้มีการยึดโทรศัพท์ผู้เข้าสังเกตการณ์และไม่ได้มีการห้ามปรามไม่ให้คนรู้จักหรือผู้สังเกตการณ์เข้าห้องพิจารณาคดี
ศาลเริ่มดำเนินกระบวนพิจารณษคดีในเวลาประมาณ 10.00 น. หลังจำเลยทั้งหมดเดินทางมาถึงศาล
ในนัดนี้อัยการแถลงขอรวมสำนวนคดีเข้าด้วยกัน เนื่องจากในชั้นของการฟ้องคดีอัยการแยกฟ้องคดีผู้ต้องหาเป็นสองสำนวนเพราะในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่อัยการฟ้องคดี มีผู้ต้องหาสองคนคือชินวัตรและพรหมศรที่ติดนัดคดีอื่นและติดภารกิจตามลำดับไม่ได้เดินทางไปพบอัยการ ทั้งสองเข้าพบอัยการและถูกฟ้องคดีแยกเป็นอีกสำนวนหนึ่ง อัยการจึงขอรวมสำนวนคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกรวดเร็วเนื่องจากข้อเท็จจริงของทั้งสองคดีมีมูลเหตุจากการกระทำเดียวกัน ทนายจำเลยแถลงไม่คัดค้านการขอรวมสำนวน ศาลจึงอนุญาตให้รวมสำนวนคดีทั้งสองเข้าด้วยกัน
จากนั้นศาลถามจำเลยเรื่องทนายความ ชินวัตรและพรหมศรยังไม่ได้แต่งตั้งทนายและประสงค์จะแต่งตั้งทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แต่ทนายความที่ทั้งสองประสงค์จะแต่งตั้งไม่ได้เดินทางมาศาลเนื่องจากติดนัดพิจารณาคดีอื่น
จากนั้นทนายจำเลยจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่มาว่าความในนัดนี้แถลงต่อศาลว่า มีความจำเป็นต้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีนัดนี้ออกไปสักนัดหนึ่งเนื่องจากทนายความหลายคนในคดีการพิจารณาคดีที่ศาลอื่นซึ่งมีนัดไว้ก่อนแล้วจึงไม่สามารถเดินทางมาศาลในนัดนี้ได้ ศาลถามอัยการแล้ว อัยการไม่คัดค้าน ศาลอนุญาตให้เลื่อนนัดพิจารณาคดีออกไปได้
ศาลถามจำเลยที่แต่งตั้งทนายความไว้แล้ว และทนายความมาศาลในวันนี้ว่า พร้อมให้การเลยหรือไม่ หรือจะรอให้การพร้อมจำเลยคนอื่นๆ จำเลยแถลงต่อศาลว่าจะขอให้การพร้อมกัน ศาลอนุญาต
ทนายจำเลยแถลงว่าได้หารือเรื่องวันนัดกับทนายความคนอื่นๆที่ไม่ได้มาศาลในวันนี้ไว้แล้ว ทนายความว่างตรงกันในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ศาลแจ้งกับทนายว่าวันดังกล่าวอาจล่าช้าไป ศาลอยากให้กำหนดวันนัดไม่เกินเดือนเมษายน
ทนายจำเลยชี้แจงต่อศาลว่าขณะนี้ทีมทนายจำเลยมีนัดพิจารณาคดีในเดือนเมษายนต็มแล้ว แต่จะลองหารือกับทนายคนอื่นๆเพื่อหาวันนัดที่เร็วกว่าวันที่ 23 พฤษภาคม สุดท้ายทนายจำเลยหาวันนัดที่ทนายทุกคนว่างตรงกันได้ในวันที่ 9 พฤษภาคม ศาลจึงกำหนดนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานใหม่ในวันดังกล่าว