24 ธันวาคม 2562
กฤษฐ์หิรัญเปิดเพจเฟซบุ๊ก
วิ่ง เพื่อ ประชาธิปไตย เพื่อสื่อสารเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อแสดงออกจุดยืนการเมืองในพื้นที่
27 ธันวาคม 2562
เฟซบุ๊กเพจ
วิ่ง เพื่อ ประชาธิปไตย ลงโฆษณาขายเสื้อบนเพจอย่างเป็นทางการพร้อมระบุว่าเสื้อจะจำหน่ายให้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมออนไลน์มาก่อนเท่านั้น
9 มกราคม 2563
ในวันเดียวกันเพจ
วิ่ง เพื่อ ประชาธิปไตย ยังเผยแพร่เส้นทางวิ่งที่มีการปรับจากเดิมรวมทั้งเผยแพร่กำหนดเวลาทำกิจกรรม วันที่ 12 มกราคม 2563 17.00 น. -18.00 น.
12 มกราคม 2563
ในเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเป็นกำหนดเริ่มทำกิจกรรมวิ่ง กฤษฐ์หิรัญเรียกผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อเตรียมออกวิ่ง แต่ระหว่างนั้นผู้กำกับสภ.เมืองนครสวรรค์เข้ามาในพื้นที่จัดกิจกรรม และอ่านคำสั่งสภ.เมืองนครสวรรค์ ให้ยุติการทำกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเพราะเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด กฤษฐ์หิรัญฟังผู้กำกับสภ.เมืองนครสวรรค์อ่านคำสั่งโดยสงบ แต่ก็ยืนยันที่จะจัดกิจกรรมวิ่งต่อไป กิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่นครสวรรค์ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามที่ตั้งใจไว้
17 มกราคม 2563
เพจ
วิ่ง เพื่อ ประชาธิปไตย เผยแพร่หมายเรียกของสภ.เมืองนครสวรรค์ที่เรียกกฤษฐ์หิรัญไปรับทราบข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมชุม ข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และข้อหาร่วมกันเดินเป็นขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร
23 มกราคม 2563
กฤษฐ์หิรัญ เดินทางเข้าพบ
พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ในเวลา 10.00 น. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ จากกรณีจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อประชาธิปไตยในวันที่ 12 มกราคม 2563 กฤษฐ์หิรัญเดินทางมาที่สถานีตำรวจพร้อมด้วยภรรยา โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือในทางคดี
สำหรับขั้นตอนทางคดี พนักงานสอบสวนอ่านบันทึกแจ้งข้อกล่าวให้กฤษฐ์หิรัญฟัง เขาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและแจ้งพนักงานสอบสวนว่าจะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้ในภายหลัง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้กำหนดวันนัดว่าให้กฤษฐ์หิรัญส่งคำให้การภายในระยะเวลาเท่าใด
31 มกราคม 2563
กฤษฐ์หิรัญทำคำให้การเพิ่มเติมส่งพนักงานสอบสวนซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. กิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นงานกีฬาวิ่งทั่วไป บุคคลที่เข้าร่วมกิจกรรมการวิ่งได้จะต้องลงทะเบียนกับทางผู้จัดงานและก่อนจะไปร่วมการวิ่งจะต้องลงทะเบียนรับสัญลักษณ์ในการวิ่งหรือ “BIB” ก่อน ในวันจัดกิจกรรมก็มีการจัดระบบคัดกรองผู้จะเข้าร่วมการวิ่งอีกด้วย บุคคลอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะไม่สามารถเข้าร่วมรายการการวิ่งได้ กิจกรรมวิ่งไล่ลุงจึงไม่ถือเป็นการชุมนุมสาธารณะตามคำนิยามของกฎหมายและเป็นเพียงกิจกรรมกีฬาจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องแจ้งการชุมนุมสาธารณะ
2. คำสั่งห้ามชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 11 วรรคสาม ของผู้กำกับการสถานีตำรวจนครสวรรค์
เลขที่ 1/2563 ลงวันที่ 12 มกราคม 2563 เป็นคำสั่งที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ การกระทำตามข้อกล่าวหาคดีนี้จึงไม่ถือเป็นความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่มีกฎหมายให้ไว้โดยไม่มีเหตุอันสมควร
3. การกระทำในวันที่ 12 มกราคม 2563 ไม่ได้มีลักษณะเป็นการร่วมกันเดินขบวนใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ
4. กิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นการใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการแสดงออกโดยสุจริต
และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
5.การใช้สิทธิของกฤษฐ์หิรัญเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกติการะหว่างประเทศ การแจ้งความดำเนินคดีและการสอบสวนในคดีนี้จึงเป็นการใช้กระบวนการยุติธรรมที่มุ่งหวังผลในทางการเมืองเพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนและต้องการยับยั้งมิให้ประชาชนใช้สิทธิโดยชอบด้วย
ในเวลาต่อมาพนักงานสอบสวนมีความเห็นส่งกฤษฐ์หิรัญต่ออัยการ
18 กุมภาพันธ์ 2563
เพจ
วิ่ง เพื่อ ประชาธิปไตย โพสต์ข้อความว่าตามที่อัยการคดีศาลแขวงนครสวรรค์นัดหมายให้เข้าพบเพื่อฟังคำสั่งในวันนี้ อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563
21 กุมภาพันธ์ 2563
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานเพิ่มเติม จึงยังไม่มีคำสั่งคดีในนัดนี้ โดยกฤษฐ์หิรัญต้องเข้าพบอัยการเพื่อฟังคำสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 30 มีนาคม 2563
19 มิถุนายน 2563
นัดฟังคำสั่งอัยการ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลว่าอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 29 กรกฎาคม 2563