- คดีสำคัญ
- คดีชุมนุม, ฐานข้อมูลคดี
เทใจให้เทพา: คดีพ.ร.บ.ชุมนุมฯจากการเดินคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินคดีที่สอง
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ตามคำฟ้องระบุว่า จำเลยทั้งห้าคนกับพวกที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 จำเลยทั้งห้าคนกับพวกร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะเพื่อคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โดยใช้ป้ายผ้าเขียนข้อความคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเป็นสัญลักษณ์ จำเลยทั้งห้าและพวกไม่ได้แจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพา ในฐานะหัวหน้าสถานี ซึ่งถือเป็นผู้รับแจ้งการชุมนุมสาธารณะ ก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ทั้งยังไม่ได้รับการผ่อนผันจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา
ต่อมาระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2560 จำเลยทั้งห้ากับพวกได้เคลื่อนย้ายขบวนออกจากตำบลบ้านปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาเข้าสู่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาโดยไม่ได้แจ้งต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพา อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 4,10,17 และ 28 ของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ
พฤติการณ์การจับกุม
ไม่มีการจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แหล่งอ้างอิง
เอกชัยถามต่อว่า โจทย์ที่สำคัญคือพวกผมจะมีโอกาสได้พบนายกฯไหม พันตำรวจเอกประพัตร์ตอบว่า [ก่อนจะตอบโจทย์นี้]ต้องพบเลขาฯของนายกฯก่อน เอกชัยตอบว่า ถ้าอย่างนั้นพวกผมของนั่งรอท่านเลขาฯที่นี่ พันตำรวจเอกประพัตร์กล่าวว่า ถ้า[นั่ง]ที่นี่ต้องขออนุญาตได้ไหม ให้ไปรอบริเวณฟุตบาท ไม่ลงบนพื้นผิวการจราจร เอกชัยตอบว่า เดี๋ยวผมของเจรจากับพี่น้องก่อน พันตำรวจเอกประพัตร์กล่าวว่า สังเกตไหมครับเวลารถมันจะมาเนี่ย มันอันตราย… เอกชัยตอบกลับทันทีว่า เดี๋ยวนะครับคนปิดเป็นพี่ ไม่ใช่พวกผมปิด พันตำรวจเอกประพัตร์ตอบว่า เข้าใจๆ เอกชัยกล่าวว่า อย่าเลยครับ อย่าให้ร้ายพวกผมเลยครับ ผมต้องพูดตรงๆเลยคือ ถ้าเกิดทหารปิดหรือที่นี่[ตำรวจ]ปิด ไม่ใช่พวกผมปิดอันนี้ก็ต้องยืนยันไม่อย่างนั้น เดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก พันตำรวจเอกประพัตร์กล่าวต่อว่า เอาอย่างนี้ ขอคุยกับพี่น้องให้ขึ้นไปรอบนฟุตบาท
หลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้เริ่มนั่งลงกับพื้นถนน และปาฏิหาริย์มายืนอยู่ด้านหน้าแถวพร้อมอ่านเนื้อหาของหน้าที่ของผู้ชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯให้แก่ผู้ชุมนุมฟัง มีการโต้ตอบกับผู้ชุมนุมในทำนองว่า การชุมนุมนี้ไม่มีอาวุธติดตัวมา อีกประมาณ 20 นาทีถัดมาได้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมนอนลงกับพื้นถนน ผู้ชุมนุมก็ลงไปนอนที่พื้นและร้องออกมาว่า หิวข้าว ประชาชนจะเดินไปกินข้าวเจ้าหน้าที่ขัดขวางผิดไหม ถ้าไม่เดือดร้อนเราไม่ออกมา
ต่อมาเวลาประมาณ 14.50 น. มีชาวบ้านเป็นลมหนึ่งคน มีเจ้าหน้าที่เข้ามาปฐมพยาบาล จากนั้นไม่นานผู้ชุมนุมเริ่มลุกขึ้นจัดแถวและประกาศว่า เราจะเดินไปกินข้าวและเริ่มผลักดันกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ โดยใช้เวลาผลักดันจนทะลุแนวกั้นเป็นเวลาประมาณสองนาที มีผู้ชุมนุมเป็นลมระหว่างการผลักดันอีกหนึ่งคน หลังจากที่ผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นไปแล้วจึงได้ไปรวมตัวเพื่อรับประทานข้าวกลางวันในเวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลจิตเวช
วันเดียวกันเวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.ท. ศุภกิตติ์ ประจันตะเสน รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาได้ยื่นคำร้องให้เลิกการชุมนุมต่อศาลจังหวัดสงขลา โดยระบุว่าวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 09:00 น. กลุ่มเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 100 คนนำโดยเอกชัย จำเลยที่หนึ่งในคดีนี้ ได้ใช้รถยนต์รถจักรยานยนต์ เครื่องขยายเสียง โทรโข่ง รณรงค์ส่งเอกสารเผยแพร่ความรู้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลาในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 และเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิทธิพลเมืองสิทธิชุมชนกับกลุ่มประชาชน
ต่อมาเวลา 18:00 น. นายเอกชัยผู้จัดการชุมนุมได้ยื่นหนังสือแจ้งการชุมนุมสาธารณะฉบับลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ต่อ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพาต่อมาหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพาได้แจ้งสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะให้เอกชัยทราบระหว่างรอคำสั่งเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้เคลื่อนขบวนออกจากตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ไปยังตัวอำเภอเมืองสงขลา
จนกระทั่งวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13:30 น. เอกชัยผู้จัดการชุมนุมได้มายื่นขอผ่อนผันการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 12 วรรคสามต่อผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ต่อมาเวลา 18:00 น. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขาพิจารณาแล้วเห็นว่าการชุมนุมเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผ่อนผันตามคำร้องดังกล่าวและมีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาที่ 891 / 2560 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ให้เลิกการชุมนุมสาธารณะภายในวันที่ภายในเวลา 18:00 น. โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจะนะเป็นผู้แจ้งคำสั่งให้เลิกการชุมนุมสาธารณะให้แก่เอกชัย ผู้จัดการชุมนุมและผู้ชุมนุม
ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 กลุ่มเครือข่ายได้เคลื่อนขบวนผ่านบ้านสวนกรงตำบลนาทับ อำเภอจะนะจังหวัดสงขลาและเข้ามาในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลาการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ต่อเนื่องหลายพื้นที่ อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาเป็นเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 19 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะพ.ศ. 2558 โดยได้มอบหมายให้พันตำรวจโทศุภกิตติ์ ประจันตะเสน รองผู้กำกับการ(สอบสวน) รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา
การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นกล่าวคือต้องยื่นหนังสือแจ้งการชุมนุมต่อหัวหน้าสถานีตำรวจท้องที่ หมายถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพาทราบก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงตามมาตรา 10 ไม่ใช่เริ่มชุมนุมก่อนแล้วจึงยื่น แต่ระหว่างที่กลุ่มเครือข่ายฯรอการพิจารณาการใช้สถานที่จากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพา ทางกลุ่มเครือข่ายฯกลับเคลื่อนขบวนออกจากที่ตั้งเดิมอันเป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา 17 หากไม่สามารถแจ้งการชุมนุมได้ภายในกำหนดสามารถแจ้งการชุมนุมและขอผ่อนผันกำหนดเวลาต่อผู้บังคับการจังหวัดสงขลาต่อมาวันที่ 25 พฤศจิกา 2560 เวลา 13:30 น. เอกชัยและยื่นหนังสือขอผ่อนผันต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ผลการพิจารณาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาไม่อนุญาตให้ผ่อนผันตามที่ร้องขอและมีคำสั่งที่ 891 / 2560 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 และได้แจ้งคำสั่งให้เลิกการชุมนุมและกลุ่มผู้ชุมนุมทราบแล้วแต่ทางกลุ่มยังคงดำเนินกิจกรรมการชุมนุมอย่างต่อเนื่องพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวถือว่าไม่ปฏิบัติตามประกาศของเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมอันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 21 จากการสืบสวนหาข่าวเชิงลึกทราบว่ากลุ่มเครือข่ายมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงเคลื่อนขบวนเข้าสู่พื้นที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรการชุมนุมเรียกร้องต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปและอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองได้
การยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีมีวิธีการที่สามารถกระทำได้ในหลายช่องทางและการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ด้านสิทธิพลเมืองสิทธิชุมชนสามารถดำเนินการได้ตลอดเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายและไม่จำกัดสถานที่และรูปแบบและเวลาประกอบกับระหว่างวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2560 รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรีได้มีกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ทางตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและสถานที่ หากมีการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายฯต่อไปจะส่งผลต่อการจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยและอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีดังกล่าวได้
จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะและออกคำบังคับให้กระทำหรืองดเว้นการกระทำใดใดภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลกำหนด
ต่อมา พ.ต.ท. ศุภกิตติ์ ประจันตะเสน ผู้ร้องได้ให้การต่อศาลจังหวัดสงขลาในฐานะพยานผู้ร้องว่า ขณะเกิดเหตุ พ.ต.ท. ศุภกิตติ์ รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาเนื่องจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาเดินทางไปราชการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 09:00 น. มีกลุ่มเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 100 คน มีแกนนำคือเอกชัยมาร่วมชุมนุมกันอยู่ที่ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 คัน เครื่องขยายเสียง โครงป้ายรณรงค์ ธงแสดงสัญลักษณ์และเอกสารเผยแพร่ความรู้มีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560
โดยการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้ยื่นหนังสือขอชุมนุมตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ 2558 ก่อนที่จะมีการชุมนุมแต่มายื่นหนังสือขออนุญาตการชุมนุมภายหลังที่มีการชุมนุมแล้ว กล่าวคือยื่นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 18:00 น. ต่อมาหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพาได้แจ้งสรุปสาระสำคัญการชุมนุมสาธารณะให้ผู้ชุมนุมทราบ ระหว่างรอคำสั่งกลุ่มเครือข่ายผู้ชุมนุมดังกล่าวได้เคลื่อนขบวนออกจากตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เข้ามาที่เขตอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยไม่ได้รอฟังคำสั่งของหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพา ต่อมาวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 เอกชัย แกนนำผู้ชุมนุมได้ยื่นคำร้องขอผ่อนผันการชุมนุมสาธารณะต่อผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตามหนังสือดังกล่าวพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้อันเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผ่อนผันตามคำร้องซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้นำประกาศดังกล่าวไปปิดประกาศให้แก่ผู้ชมทราบและให้เลิกการชุมนุมตามประกาศเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะโดยได้แจ้งประกาศและคำสั่งดังกล่าวให้กับเอกชัย แกนนำผู้ชุมนุมทราบแล้วและแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้แก่ผู้ชุมนุมทราบ
กรณีดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมและรายงานความเคลื่อนไหวของการชุมนุมมาโดยตลอด ในขณะที่แกนนำผู้ชุมนุมยื่นคำร้องขออนุญาตการชุมนุมต่อหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพานั้น หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรเทพาได้สรุปสาระสำคัญของการชุมนุมสาธารณะให้แก่เอกชัย แกนนำทราบแล้ว พ.ต.ท.ศุภกิตติ์ได้จัดชุดสืบสวนเข้าดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเข้าใจเจรจาให้หยุดการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมรับฟังยังคงเดินมุ่งหน้าเข้ามาที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในขณะที่ไต่สวนนั้นผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณหลังมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลาแล้ว โดยมีเจตนารวมตัวชุมนุมกันที่ชุมชนเก้าเส้งและจะพักรับประทานอาหารที่ชุมชนดังกล่าว
อย่างไรก็ดีบริเวณดังกล่าวจะมีนายอำเภอเมืองคอยเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมมาโดยตลอด ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำเภอเมืองสงขลาและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้พยายามนัดแกนนำของผู้ชุมนุมมาเจรจาพูดคุยแต่ไม่มีแกนนำคนใดยอมเข้ามาตกลงพูดคุยด้วย นอกจากนี้ทางสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบในงานเกี่ยวกับการร้องทุกข์ เมื่อทราบเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ก็ได้แจ้งว่า พร้อมที่จะรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวแต่แกนนำก็ไม่ยินยอม ยืนยันจะยื่นข้อร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง ในการชุมนุมดังกล่าวผู้ร้องเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการรวมตัวกันใช้สัญลักษณ์แผ่นป้ายแสดงกลุ่มแบ่งแยกชัดเจนโดยใช้ธงทำให้เกิดภาพลักษณ์ของทางจังหวัดเสียหาย ลักษณะการชุมนุมเป็นการเรียกร้องให้มวลชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งหากมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นก็จะมีแนวโน้มการสร้างความรุนแรงต่อไป
นอกจากกลุ่มชุมนุมดังกล่าวแล้วยังมีกลุ่มชุมนุมต่างๆที่จะยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอีกเก้ากลุ่มที่รวมตัวกันมาชุมนุมแต่ทางผู้รับผิดชอบในการชุมนุมได้ไปเจรจากับกลุ่มต่างๆแล้วเช่น กลุ่มเกษตรกรผู้ทำสวนยางพารา กลุ่มอาชีพประมงและกลุ่มอื่นๆซึ่งสามารถเจรจาลุล่วง โดยกลุ่มดังกล่าวส่งตัวแทนมายื่นข้อเรียกร้อง ยังคงเหลือเพียงกลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียวที่ไม่ยอมเจรจาและไม่ยอมส่งตัวแทนมายื่นขอเรียกร้อง ทั้งกลุ่มทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการดูแลการชุมนุมได้ขอร้องให้งดการใช้สัญลักษณ์ของกลุ่มประเภทป้ายและธง แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ยอมรับเงื่อนไขต่างๆ การยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีนั้นมีวิธีการที่สามารถจะกระทำได้ในหลายช่องทางและกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ด้านสิทธิพลเมืองสิทธิชุมนุมสามารถดำเนินการได้ตลอดเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายและไม่จำกัดสถานที่รูปแบบและเวลา
ในวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2560 รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีจะจัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ทางตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้รับมอบให้รับผิดชอบในการดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและสถานที่หากมีการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวต่อไปจะส่งผลต่อการจัดกำลังดูแลและรักษาความปลอดภัยได้ รวมทั้งอาจเกิดความวุ่นวายระหว่างการประชุมจึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมสาธารณะและออกคำบังคับให้กระทำหรืองดเว้นการกระทำใดใดภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลกำหนด
นัดฟังคำสั่งอัยการ
นัดฟังคำพิพากษา
นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์