19 มิถุนายน 2559
กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.โชคชัย นำโดย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้เข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อห้ามจัดแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ เพราะผิดตามประกาศ และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ และพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559
จากนั้นได้เชิญแกนนำนปช. สื่อมวลชน และประชาชนที่มาร่วมงานแถลงข่าวออกจากห้องแถลงข่าวทั้งหมด ขณะที่บรรยากาศโดยรอบห้างอิมพีเรียล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด ทั้งเข้า-ออก บริเวณทางเข้าลานจอดรถ
จากนั้น จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ธิดา ถาวรเศรษฐ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ได้เดินทางมายังจุดแถลงข่าวพร้อมเจรจากับตำรวจเพื่อเข้าไปแถลงข่าว แต่ถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ ทางแกนนำจึงได้ย้ายมาแถลงข่าวบริเวณหน้าประตู
22 มิถุนายน 2559
ประชาไท รายงานว่า พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และมีการออกหมายเรียกแกนนำ นปช. ทั้ง 19 คน มารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 30 มิถุนายน ที่กองบังคับการกองปราบปราม หากไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกไปอีก 1 ครั้ง และถ้าไม่มาพบอีกพนักงานสอบสอบจะออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป
29 มิถุนายน 2559
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของแกนนำ นปช.ทั้ง 19 คน ขอเลื่อนกำหนดการในการรับทราบข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อมที่จะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้ได้ขอเลื่อนการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้
14 กรกฎาคม 2559
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของแกนนำและแนวร่วม นปช. รวม 19 คน ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง เพราะบางคนยังไม่ได้รับหมายเรียก ประกอบกับต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน จึงขอเลื่อนออกไปอีก 15 วัน และยืนยันว่า ทุกคนไม่คิดที่จะหลบหนี ซึ่งขณะนี้ ทีมทนายความ อยู่ระหว่างเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า จะอนุญาตให้กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาอีกหรือไม่
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการรับเรื่อง พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าจะอนุญาตให้กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหาอีกหรือไม่
2 สิงหาคม 2559
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า แกนนำ นปช. 19 คน เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2558 กรณีชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ที่กองปราบปราม ผู้ต้องหาทุกคนได้ให้การปฏิเสธโดยจะให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งทางตำรวจได้นัดหมายอีกครั้งในวันที่ 6 กันยายน และได้มอบหมายให้ทนายความมาดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง
5 กันยายน 2560
ศาลทหารกรุงเทพนัดสอบคำให้การจำเลย วันนี้จำเลยและทนายความจำเลยมาศาล โดยจตุพร พรหมพันธุ์ และยศวริศ ชูกล่อม ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำก็ถูกพาตัวมาศาลด้วย ในวันนี้มีผู้มาให้กำลังใจติดตามาจำนวนมาก รวมทั้งภรรยาและญาติของจำเลยบางคน เมื่อรวมกับจำเลยและทนายความแล้วก็เต็มความจุของห้องพิจารณาคดีที่ 2
เมื่อศาลขึ่นบัลลังก์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. หนึ่งในทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ศักดิ์รพี พรหมชาติ หนึ่งในจำเลยไม่สามารถมาศาลได้ เพราะมีอาการป่วยด้วยโรคฝีคัณฑสูตร และเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ โดยได้นำใบรับรองเเพทย์มาแสดงต่อศาล ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนวันนัดสอบคำให้การจำเลยออกไปก่อน คู่ความและศาลตกลงหาวันนัดใหม่ที่วางตรงกันได้เป็นวันที่ 7 มีนาคม 2561
7 มีนาคม 2561
นัดสอบคำให้การ
ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า ในวันนี้ผู้ต้องหาสิบแปดคนรวมทั้งจตุพรที่อยู่ระหว่างรับโทษจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาศาล โดยมีผู้ต้องหาหนึ่งคนคือศักดิ์ระพีที่ไม่ได้มาศาลเพราะป่วยกระทันหันเนื่องจากอาหารเป็นพิษโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาล ทนายจำเลยจึงแถลงต่อศาลขอให้เลื่อนการสอบคำให้การนัดนี้ออกไปก่อน อัยการทหารแถลงไม่คัดค้าน ศาลนัดสอบคำให้การคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561
17 กรกฎาคม 2561
นัดสอบคำให้การ
ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.30 น. ประชาชนประมาณ 30 คน เดินทางมาที่หน้าศาลทหารกรุงเทพเพื่อรอให้กำลังใจแกนนำนปช. 19 คน ซึ่งมีกำหนดให้การต่อศาลทหารในวันนี้ โดยจำเลย 18 คนทยอยเดินทางมาที่ศาลตั้งแต่เวลาประมาณ 8.30 น. จนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. การรักษาความปลอดภัยที่หน้าศาลในวันนี้เป็นไปอย่างเข้มงวด ประชาชนที่มารอสังเกตการณ์และให้กำลังใจจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้เดินขึ้นชั้นสองของอาคารกรมพระธรรมนูญซึ่งเป็นห้องพิจารณาคดี
ในเวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งเดินมาแจ้งกับผู้สื่อข่าวที่รอทำข้าวอยู่หน้าอาคารศาลว่าจะสามารถให้ผู้สื่อข่าวสองคนขึ้นไปร่วมฟังการพิจารณาคดีในห้องพิจารณาคดีได้ แต่ปรากฎว่าไม่มีผู้สื่อข่าวคนใดแสดงความประสงค์ที่จะขึ้นไปบนห้องพิจารณาคดี
ในเวลาประมาณ 11.00 น. ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และจำเลยในคดีรวม 17 คน ยกเว้นจตุพรที่อยู่ระหว่างรับโทษจำคุกคดีหมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีเดินลงมาด้านหน้าอาคารกรมพระธรรมนูญ ณัฐวุฒิเป็นตัวแทนแถลงข่าวว่าในวันนี้อารีย์ หนึ่งในจำเลยคดีนี้มีอาการป่วยไม่สามารถมาศาลได้และได้นำใบรับรองแพทย์มามอบให้ศาลเป็นหลักฐาน ศาลอนุญาตให้เลื่อนการสอบคำให้การออกไปอีกครั้งเป็นวันที่ 21 กันยายน 2561
หลังเสร็จกระบวนพิจารณาจำเลยในคดีนี้ทยอยเดินทางกลับแต่กลุ่มประชาชนที่มารอให้กำลังใจยังไม่เดินทางกลับแต่ไปรอที่บริเวณทางลงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่ตั้งห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาของศาลทหารกรุงเทพเพื่อรอส่งจตุพรขึ้นรถกลับเรือนจำ ในเวลาประมาณ 11.30 น. เมื่อจตุพรถูกนำตัวขึ้นมาจากห้องควบคุมเพื่อขึ้นรถกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพกลุมประชาชนที่มารอให้กำลังใจได้เข้าไปทักทายจตุพรจนกระทั่งรถของเรือนจำพิเศษกรุงเทพขับออกไปกลุ่มประชาชนจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ
21 กันยายน 2561
นัดสอบคำให้การ
ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.30 น. จำเลย 18 คนยกเว้นนพ.เหวงซึ่งอยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการปอดอักเสบเดินทางมาถึงศาลจนครบคนในเวลาประมาณ 10.30 น. กระบวนพิจารณาที่ห้องพิจารณาคดี 5 จึงไปเริ่มในเวลาประมาณ 11.00 น.
สำหรับบรรยากาศที่หน้าศาลทหารกรุงเทพ ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 น. ก็มีผู้สื่อข่าวและประชาชนประมาณ 10 คน มารอให้กำลังใจกลุ่มแกนนำที่ถูกดำเนินคดี
จตุพร ซึ่งเดินทางมาถึงศาลในเวลาประมาณ 9.30 น.ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับคดีสั้นๆว่า เหตุแห่งคดีนี้เป็นเพียงการแถลงข่าว ไม่ใช่การชุมนุมดังที่กฎหมายห้ามไว้ สำหรับการประชามติก็เป็นธรรมดาที่มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยซึ่งพวกเขาไม่เห็นด้วย สำหรับการต่อสู้คดีก็มีความพร้อมและยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ก่อนที่ศาลจะขึ้นบัลลังก์ในเวลา 11.00 น. ทนายจำเลยได้นำใบรับรองแพทย์ของนพ.เหวงพร้อมคำแถลงขอเลื่อนนัดการพิจารณาไปยื่นต่อศาล เมื่อศาลขึ้นบัลลังก์ก็แจ้งกับทนายจำเลยว่า
ตามที่ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีกนัดหนึ่งเนื่องจากนพ.เหวง หนึ่งในจำเลยป่วยด้วยโรคปอดอักเสบต้องพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ศาลเห็นว่านัดนี้เป็นเพียงนัดสอบคำให้การที่จำเลยเพียงแต่ให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธเท่านั้น ยังไม่ได้มีการสืบพยานในเนื้อหาแห่งคดี จึงเห็นควรให้จำเลยคนอื่นให้การไปก่อนเลยเนื่องจากคดีนี้เคยมีการเลื่อนนัดมาสี่ครั้งแล้ว
ศาลชี้แจงต่อว่าสำหรับนพ.เหวง สามารถมาให้การในนัดต่อไปได้โดยอิสระ หลังศาลชี้แจงกรณียกคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลย ก็ถามว่าทนายจะคัดค้านหรือไม่ ทนายจำเลยแถลงว่าไม่คัดค้าน หลังจากนั้นศาลถามจำเลยที่มาทั้งสิบแปดคนว่าพร้อมให้การหรือไม่ จำเลยทั้งหมดแถลงว่าพร้อมให้การ ศาลจึงเริ่มอ่านบรรยายฟ้องให้จำเลยฟังซึ่งสรุปได้ว่า
ในวันที่ 1 เมษายน 2558 หัวหน้าคสช.ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 ซึ่งข้อ 12 กำหนดห้ามการชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปในที่สาธารณะยกเว้นได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคสช.หรือผู้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าคสช. จำเลยทั้ง 19 คนซึ่งทราบคำสั่งดังกล่าวได้บังอาจฝ่าฝืนด้วยการจัดการแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 ที่ห้างบิ๊กซีลาดพร้าว
จำเลยส่วนหนึ่งมีพฤติการณ์สลับเปลี่ยนกันปราศรัยโจมตีรัฐบาลและอีกส่วนหนึ่งนั่งฟังอยู่ร่วมในที่เกิดเหตุ นอกจากการฟ้องคดีเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช. อัยการยังแถลงขอให้ศาลเพิ่มโทษกับจำเลยบางคนที่เคยต้องโทษจำคุกและพ้นโทษมาไม่ถึง 5 ปี นอกจากนี้จำเลยในคดีนี้บางคนก็มีคดีอาญาซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ที่ศาลอื่น อัยการทหารจึงแถลงขอให้ศาลนำโทษคดีนี้ไปนับต่อจากโทษคดีอื่นที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเหล่านั้นด้วย
หลังอ่านบรรยายฟ้อง จำเลยทั้งหมดแถลงว่าเข้าใจฟ้องและขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับจำเลยที่อัยการขอให้เพิ่มโทษทั้งจำเลยที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกจากคดีอื่นไม่ถึงห้าปี และจำเลยที่อยู่ระหว่างต่อสู้คดีในศาลอื่น ทนายจำเลยแถลงว่าจะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรส่งศาลภายใน 15 วัน เนื่องจากต้องตรวจสอบหมายเลขคดีและรายละเอียดของคดีเหล่านั้นว่าเป็นการขอเพิ่มโทษหรือขอนับโทษที่ชอบหรือไม่ ศาลอนุญาตตามคำขอ
หลังเสร็จสิ้นการสอบคำให้การ ศาลถามทนายจำเลยว่า ตามที่ใบรับรองแพทย์ของนพ.เหวงระบุว่าให้พักฟื้นถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ศาลเห็นว่าน่าจะนัดพิจารณาคดีนัดต่อไปปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายนเลยเพื่อให้จำเลยมีโอกาสพักฟื้นร่างกายอย่างเต็มที่
จตุพรจำเลยที่หนึ่งลุกขึ้นแถลงว่าโรคของนพ.เหวงเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่อาจติดต่อบุคคลอื่น จึงอยากขอให้เลื่อนไปพิจารณาต้นปีหน้าเลย
ศาลชี้แจงว่าคดีนี้ล่าช้ามานานแล้วอย่างน้อยก็น่าจะกำหนดนัดพิจารณาคดีช่วงเดือนธันวาสักหนึ่งนัดแต่จตุพรแถลงขอความกรุณาศาลให้ไปนัดเดือนมกราคมปี 2562 เลยเพื่อให้นพ.เหวงหายขาดเสียก่อน ศาลจึงอนุญาต จากนั้นคู่ความจึงนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันที่ 16 มกราคม 2562 เวลา 8.30 น. ศาลแจ้งอัยการทหารด้วยว่า ให้ไปแถลงขอสืบพยานหลังจำเลยทุกคนให้การครบแล้ว
16 มกราคม 2562
นัดสอบคำให้การเพิ่มเติม
จำเลยคดีนี้ทยอยมาถึงศาลทหารกรุงเทพตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น. โดยบริเวณหน้าศาลทหารกรุงเทพมีผู้สื่อข่าว และประชาชนประมาณ 20 คน มารอให้กำลังใจกลุ่มแกนนำที่ถูกดำเนินคดี เมื่อจำเลยแต่ละคนเดินทางมาถึงศาลได้ทักทายผู้ที่มาให้กำลังใจ และเดินขึ้นห้องพิจารณาคดีทันที
ศาลเริ่มกระบวนพิจารณาคดีในเวลาประมาณ 11.10 น. เนื่องจากรอจำเลยที่ยังมาไม่ครบ ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า วันนี้จำเลยมาศาลทั้งหมด 18 คน ขาด ศรัณย์วุฒิ จำเลยที่ห้า ซึ่งมีอาการป่วย ไม่สามารถเดินทางมาศาลทันในช่วงเช้าได้
ศาลถามทนายจำเลยว่า สามารถเลื่อนการพิจารณาคดีไปในช่วงบ่ายได้หรือไม่ ทนายจำเลยแถลงว่า ในช่วงบ่ายติดภารกิจจึงขอให้ศาลพิจารณาคดีไปก่อนในช่วงเช้านี้ ศาลเห็นว่า เหตุของการไม่มาศาลของจำเลยที่ห้าฟังขึ้น จึงดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อ
จตุพร จำเลยที่หนึ่งแถลงต่อศาลว่า
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นต่อคำร้องที่กลุ่มประชาชนร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ออกมายกเลิก คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ข้อที่ 12 แล้ว จึงไม่มีสาเหตุต้องวินิจฉัยในข้อกฎหมายข้อนี้อีก
นอกจากนี้ก็มีกรณีที่ศาลแขวงเชียงใหม่พิพากษายกฟ้องคดี "เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร" โดยให้เหตุผลว่า มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 มายกเลิก คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ข้อที่ 12 แล้ว ทำให้การกระทำตามฟ้องไม่มีความผิดรองรับ จึงให้ยกฟ้องในคดีนั้นไป จึงขอให้ศาลพิจารณาตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญ และคำพิพากษาที่มีมาแล้วก่อนหน้านี้
หลังจากจตุพรแถลงต่อศาลแล้ว ศาลถามคำให้การจำเลยที่มาศาลวันนี้อีกครั้ง และอ่านคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ออกมาให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 ที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยในคดีนี้แล้ว และมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง จึงเป็นกรณีที่ตามหลักกฎหมายที่บัญญัติภายหลังมีผลให้การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป เมื่อการกระทำของจำเลยทั้งห้าไม่มีความผิดบัญญัติไว้ จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานทั้งหมด และให้จำหน่ายคดี
ศาลยังเน้นย้ำถึงข้อความในข้อ 2 ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ว่า ในส่วนการกระทำที่ได้กระทำไปตามประกาศและคำสั่งของ คสช. ก่อนหน้านี้ไม่กระทบกระเทือนหรือไม่เสียไป
ในส่วนของ ศรัณย์วุฒิ จำเลยที่ห้าซึ่งไม่มาศาล ศาลนัดให้มาฟังคำสั่งในวันที่ 31 มกราคม 2562
หลังจากศาลพิจารณาคดีเสร็จจำเลยทั้ง 18 คน ก็เดินทางออกจากห้องพิจารณาคดี และแยกย้ายกันเดินทางกลับอย่างรวดเร็ว