- คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
โอภาส: เขียนผนังห้องน้ำ คดีที่สอง
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
ในเดือนตุลาคม 2558 โอภาสให้การรับสารภาพ ศาลทหารพิพากษาจำคุกโอภาสเป็นเวลาสามปีแต่ลดโทษเหลือหนึ่งปีหกเดือนเพราะโอภาสรับสารภาพ สำหรับโทษในคดีที่สองจะเริ่มนับหลังโอภาพรับโทษในคดีแรกครบ เมื่อรวมโทษตามคำพิพากษาทั้งสองคดี โอภาสจะต้องรับโทษเป็นเวลา สองปี สิบสองเดือน
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
คำฟ้องลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 ของอัยการทหาร ระบุว่า จำเลยเป็นบุคคลพลเรือนได้กระทำผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทหาร
ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2557 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด อันเป็นวันและเวลาที่อยู่ในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร จำเลยบังอาจหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อบุคคลที่สาม โดยจำเลยได้ใช้ปากกาเขียนข้อความให้ปรากฏแก่บุคคลทั่วไป ที่บานประตูห้องน้ำชายชั้นหนึ่ง ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ สาขาศรีนครินทร์ ว่า “ไอ้เหล่ ประยุทธ์ จันทร์หอเจี๊ยะ แหลว่าปฏิรูปประเทศไทย ต่อไปก็อนุรักษ์นิยม จารีตนิยม แล้วก็อำนาจนิยม ทหารเสือพระราชินี – ไอ้ขี้ขลาด – ชุดทหาร ท่อนล่างก็เป็นกระโปรงสิวะ งานนี้ไอ้เหล่กับ xxxxxxxxx คนไทยก็สนุกกับการดูข่าวสองทุ่มต่อไป xxxx – รับทรัพย์ รับทอง xxx เดินสายสอบอ่านไทย – รับทรัพย์ xxxxxx มากกว่า 10 ปี แล้ว น่าเวทนานะ มีเงินฝากในสวิส 5,000 ล้าน USD = 150,000 บาท (เศรษฐกิจพอเพียงไง) คนไทยคลานต่อไป – กราบตีนต่อไป เรียกตัวเองว่าขี้ฝุ่นใต้ส้นตีนต่อไป!”
ซึ่งข้อความดังกล่าวมีความหมายเป็นการใส่ความ อันเป็นการละเมิดและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยประการที่น่าจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติคุณ และทรงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยเจตนาจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ
ขณะนี้จำเลยอยู่ระหว่างต้องโทษจำคุก ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ มีกำหนดโทษ 1 ปี 6 เดือน ตามคำพิพากษาคดีแดง 99 ก. / 2558 ของศาลทหารกรุงเทพ ยังไม่พ้นโทษ
คำขอท้ายฟ้อง การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในตอนต้นนั้น โจทก์ถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กับขอศาลได้โปรดนับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีแดงก่อนหน้านี้ของศาลทหารกรุงเทพ และขอไม่ให้หักวันคุมขังจำเลย ที่ทับซ้อนกับโทษจำคุกในคดีก่อน ออกจากโทษจำคุกในคดีนี้ด้วย
พฤติการณ์การจับกุม
โอภาสได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่สั่งฟ้องในคดีที่สอง กระทำผิดตามมาตรา 112 หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ในขณะรับโทษจำคุกจากคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯคดีแรก