- คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
อัญชัญ: คลิปบรรพต
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
อัญชัญเป็นข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งและประกอบธุรกิจขายตรงบนอินเทอร์เน็ต เธอถูกทหารพร้อมอาวุธบุกเข้าจับกุมที่บ้าน เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2558 ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อัพโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงของ "บรรพต" ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ รวม 29 ครั้ง เป็นความผิด 29 กรรม อัญชัญให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีในชั้นศาล
ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยระบุเหตุผลว่า คดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงและเป็นการกระทำผิดภายใต้กฎอัยการศึก อัญชัญถูกคุมขังอยู่ทัณฑสถานหญิงกลางอยู่เป็นเวลาสามปีกว่า ก่อนที่เธอจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัว เมื่อปลายปี 2561
ในเดือนกรกฎาคม 2562 หัวหน้า คสช .ออกคำสั่งฉบับที่ 9/2562 ให้โอนย้ายคดีของพลเรือนที่อยู่ในการพิจารณาของศาลทหารกลับไปอยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรม ศาลอาญานัดพิจารณาคดีอัญชัญนัดแรกในเดือนมกราคม 2563 ต่อมามีการกำหนดนัดสืบพยานในเดือนธันวาคม ในการสืบพยานนัดแรกอัญชัญแถลงขอเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลจึงให้ยกเลิกนัดสืบพยานทั้งหมด
วันที่ 19 มกราคม 2564 ศาลอาญาพิพากษาว่าอัญชัญมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1), (3), และ (5) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษจำคุกการกระทำกรรมละ 3 ปี รวม 29 กรรม จำคุก 87 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งลงโทษจำคุกกรรมละ 1 ปี 6 เดือน คงจำคุก 29 ปี 174 เดือน เป็นคดีมาตรา 112 ที่วางโทษสูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกได้
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
อัญชัญ เป็นข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง นอกจากงานประจำแล้วเธอยังประกอบธุรกิจขายตรงบนอินเทอร์เน็ตด้วย
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ในคำฟ้องที่อัยการศาลทหารกรุงเทพ ยื่นฟ้องอัญชัญ เป็นคำฟ้องความยาว 27 หน้า กล่าวหาอัญชัญว่า เป็นผู้นำคลิปเสียงของ “บรรพต” เข้าสู่เว็บไซต์ยูทูป 26 ครั้ง และเฟซบุ๊ก 3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ถึง 24 มกราคม 2558 รวมทั้งหมด 29 ครั้ง จึงดำเนินคดีเป็นความผิด 29 กรรม
อัยการศาลทหาร ขอให้ศาลทหารพิากษาลงโทษอัญชัญ ฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ไม่ระบุวงเล็บ จากการพร้อมขอให้ศาลสั่งริบอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ยึดไว้ทั้งหมดด้วย
พฤติการณ์การจับกุม
วันที่ 25 มกราคม 2558 อัญชัญ ถูกทหารนอกเครื่องแบบ 5 นาย และทหารในเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนอีก 5 นาย จับกุมที่บ้านพัก มีเพื่อนของอัญชัญ อยู่ที่บ้านหลายคนขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมและตรวจค้นบ้านพัก
ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทหารยึดทรัพย์สินของ อัญชัญ ไปตรวจสอบหลายรายการ ทั้งคอมพิวเตอร์ ไอแพด ไอโฟน และทรัพย์สินอื่นๆ
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
พี่ชายและอดีตลูกน้องของ อัญชัญ ให้ข้อมูลว่า อัญชัญ เคยบอกญาติว่า เฟซบุ๊กของเธอถูกแฮค และที่ อัญชัญ ถูกดำเนินคดีน่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง
แหล่งอ้างอิง
23 เมษายน 2558
อัยการศาลทหารกรุงเทพ ยื่นฟ้องอัญชัญ ต่อศาลทหารกรุงเทพ เป็นคำฟ้องความยาว 27 หน้า กล่าวหาอัญชัญว่า กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ไม่ระบุวงเล็บ จากการนำคลิปเสียงของ “บรรพต” เข้าสู่เว็บไซต์ยูปทูป รวมทั้งหมด 29 ครั้ง พร้อมขอให้ศาลสั่งริบอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ยึดไว้ทั้งหมดด้วย
ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 29 ตุลาคม 2558 อัยการยังไม่ระบุพยานบุคคลที่จะนำสืบ
29 ตุลาคม 2558
นัดสืบพยานโจทก์
ที่ศาลทหาร เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งกับทนายของอัญชัญว่า พยานโจทก์วันนี้ไม่มาศาล และอัยการขอเลื่อนสืบพยานออกไปเป็นวันที่ 4 ธันวาคม 2558
4 ธันวาคม 2558
นัดสืบพยานโจทก์
ทนายของอัญชัญเปิดเผยว่า ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนการสืบพยานออกไปอีก 1 นัด เนื่องจากยังได้รับสำเนาคำให้การพยานชั้นสอบสวนไม่ครบ ศาลถามอัยการแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานไปเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ในวันนี้ศาลยังมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนี้เป็นการลับโดยตลอดด้วย โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้อาจกระทบกระเทือนจิตใจคนในวงกว้าง
19 สิงหาคม 2559
นัดสืบพยานโจทก์
19 ตุลาคม 2559
นัดสืบพยานโจทก์
โจทก์แถลงว่า พยานที่นัดไว้ในวันนี้ไม่มาศาล เนื่องจากพยานมีงานราชการสำคัญเร่งด่วน ไม่อาจมาศาลได้ โจทก์ยังมีความประสงค์นำพยานปากนี้เข้าสืบ จึงขอเลื่อนไปสืบพยานต่อนัดหน้า ศาลให้เลื่อนการสืบพยานไปเป็นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560
27 กุมภาพันธ์ 2560
นัดสืบพยานโจทก์
อัยการทหารโจทก์ นำพยานเข้าสืบหนึ่งปาก ระหว่างการสืบพยานปากนี้ส่งเอกสารหลักฐานเพิ่ม 7 รายการ ทนายจำเลยแถลงว่า มีคำถามที่จะต้องถามค้านพยานปากนี้เป็นจำนวนมาก จึงให้เลื่อนไปถามค้านในนัดหน้า วันที่ 29 พฤษภาคม 2560
29 พฤษภาคม 2560
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์มาศาล เพื่อให้ทนายความจำเลยถามค้านต่อจากนัดที่แล้ว โจทก์แถลงว่า พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้หมดเพียงเท่านี้ ศาลจึงให้นัดสืบพยานโจทก์ปากต่อไปในวันที่ 22 สิงหาคม 2560 และนัดสืบพยานโจทก์เพิ่มอีกหนึ่งวันในวันที่ 13 กันยายน 2560
22 สิงหาคม 2560
นัดสืบพยานโจทก์
โจทก์นำพยานเข้าสืบหนึ่งปาก ตามที่นัดไว้ สืบพยานปากนี้เสร็จแล้วโจทก์แถลงหมดพยานที่นัดไว้ในวันนี้เพียงเท่านี้ นัดสืบพยานโจทก์ปากต่อไปวันที่ 13 กันยายน 2560
13 กันยายน 2560
นัดสืบพยานโจทก์
โจทก์แถลงว่า พยานโจทก์ที่นัดไว้วันนี้ไม่มาศาล เนื่องจากไม่ทราบผลการส่งหมายและเหตุขัดข้อง โจทก์ยังมีความประสงค์ที่จะนำพยานปากนี้เข้าสืบจึงขอเลื่อนการสืบพยานปากนี้ออกไปก่อน เพื่อสืบหาที่อยู่ใหม่ และส่งหมายเรียกพยานใหม่ โดยนัดหน้าขอนำพยานโจมก์ปากต่อไปเข้าสืบก่อน ศาลให้เลื่อนการสืบพยานออกไป เป็นวันที่ 25 มกราคม 2561 กับนัดสืบพยานโจทก์ต่อในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 และ 20 มีนาคม 2561 ด้วย
25 มกราคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้มาศาล โจทก์นำพยานเข้าเบิกความ และทนายความจำเลยถามค้านไปจนเวลาใกล้เที่ยง ทนายจำเลยแถลงว่า ยังมีประเด็นที่จะถามค้านพยานปากนี้อีกจำเนวนมาก จึงให้เลื่อนไปสืบพยานปากนี้ต่อในนัดหน้า ตามที่ได้นัดหมายไว้แล้ว
19 กุมภาพันธ์ 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้วันนี้มาศาล ทนายความจำเลยถามค้านพยานปากนี้ต่อจากนัดที่แล้ว เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 จนเสร็จ โจทก์แถลงว่า พยานโจทก์วันนี้มีเพียงเท่านี้ นัดหน้าขอนำพยานปากต่อไปเข้าสืบ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์คอมพิวเตอร์ ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม
20 มีนาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้มาศาล และเบิกความจนเสร็จ ทนายความจำเลยถามค้านจนถึงเวลา 11.45 น. แล้วแถลงว่า ยังมีประเด็นที่จะต้องถามพยานปากนี้อีกเป็นจำนวนมาก จึงให้เลื่อนการสืบพยานปากนี้ออกไปให้ทนายความจำเลยถามค้านต่อในนัดหน้า คือ วันที่ 13 มิถุนายน 2561 พร้อมกำหนัดวันนัดสืบพยานโจทก์ต่ออีกสองวัน คือ 19 กรกฎาคม 2561 และ 9 สิงหาคม 2561
13 มิถุนายน 2561
นัดสืบพยานโจทก์
19 กรกฎาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้มาศาลเพื่อให้ทนายความจำเลยถามค้าน การสืบพยานปากนี้เสร็จสิ้น โจทก์แถลงหมดพยานที่นัดไว้ในวันนี้เพียงเท่านี้ และนำพยานปากต่อไปมาสืบในนัดหน้า
9 สิงหาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้มาศาล โจทก์นำพยานเข้าเบิกความเสร็จในเวลา 11.30 น. ทนายจำเลยแถลงว่า ต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการถามค้านพยานปากนี้ และมีประเด็นต้องถามค้านพยานปากนี้เป็นจำนวนมาก จึงขอเลื่อนไปถามค้านในนัดหน้า ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานนัดหน้าเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 และกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์อีกสองนัด คือ วันที่ 18 ธันวาคม 2561 และ 24 ธันวาคม 2561
2 พฤศจิกายน 2561
ประชาไทรายงานว่า อัญชัญได้รับการประกันตัวโดยญาติวางหลักทรัพย์เป็นสลากออมสินและพันธบัตรรัฐบาลมูลค่ารวม 500,000 บาท ศาลทหารกรุงเทพให้เหตุผลว่า
แม้โจทก์จะคัดค้านการประกันตัว แต่เมื่อพิจารณาหลักประกันแล้วน่าเชื่อถือ และเชื่อว่าจำเลยจะไม่หลบหนี หรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัวอัญชัญได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงค่ำวันเดียวกัน
หากนับจากวันที่ 30 มกราคม 2558 ซึ่งอัญชัญถูกฝากขังต่อศาลทหารกรุงเทพจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 อัญชัญจะถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสามปีเก้าเดือนเก้าวันหรือ 1,378 วัน
18 ธันวาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานที่นัดไว้วันนี้มาศาล สืบพยานเสร็จหนึ่งปาก และเลื่อนออกไปสืบพยานปากต่อไปในนัดหน้า คือ วันที่ 24 ธันวาคม 2561 ตามที่นัดไว้เดิม
24 ธันวาคม 2561
นัดสืบพยานโจทก์
พยานที่นัดไว้ไม่มาศาล เนื่องจากติดราชการจำเป็นเร่งด่วน ฝ่ายโจทก์ยังต้องการสืบพยานปากนี้ จึงให้เลื่อนออกไปสืบพยานปากนี้ในนัดหน้า และให้เลื่อนการสืบพยานออกไปเป็นวันที่ 24 เมษายน 2562
24 เมษายน 2562
นัดสืบพยานโจทก์
พยานโจทก์ที่นัดไว้ในวันนี้ไม่มาศาล เนื่องจากไม่ทราบผลการส่งหมายเรียกพยาน ฝ่ายอัยการทหารโจกท์เห็นว่า พยานปากนี้เป็นพยานที่สำคัญ จึงขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานซ้ำไป ฝ่ายจำเลยไม่คัดค้าน ศาลบันทึกในรายงานกระบวนพิจารณาคดีว่า ขอให้โจทก์ติดตามพยานมาเบิกความต่อศาลให้ได้ เนื่องจากพยานปากนี้ไม่มาศาลหลายนัดแล้ว ไม่เป็นผลดีต่อจำเลย เพื่อการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นธรรมต่อจำเลย และให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ไปเป็นวันที่ 19 กรกฎาคม 2562
19 กรกฎาคม 2562
วันนี้ที่นัดไว้เดิม เป็นนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยและทนายความจำเลยมาศาล พยานที่นัดไว้ในวันนี้มาศาล โดยการพิจารณาคดียังคงเป็นการพิจารณาคดีลับ ในวันนี้ศาลสั่งงดการสืบพยาน เนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 9/2562 ยกเลิกการใช้ศาลทหารพิจารณาคดีพลเรือน และสั่งให้โอนคดีนี้ไปพิจารณาต่อที่ศาลพลเรือน
ในเวลาต่อมาศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนูษยชนให้ข้อมูลว่าศาลอาญากำหนดวันนัดพร้อมคดีอัญชัญแล้วเป็นวันที่ 29 มกราคม 2563 เวลา 9.00 น.
29 มกราคม 2563
นัดพร้อม
หลังคดีถูกโอนย้ายมาจากศาลยุติธรรม ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อพิจารณาว่ายังมีพยานปากใดที่ต้องนำสืบเหลืออยู่บ้างและจะนำสืบพยานดังกล่าวในประเด็นใด
17 กุมภาพันธ์ 2563
นัดตรวจพยานหลักฐาน
คู่ความและศาลนัดวันสืบพยานได้ในเดือนธันวาคม 2563
15 ธันวาคม 2563
นัดสืบพยานวันแรก อัญชัญแถลงต่อศาลขอเปลี่ยนคำให้การจากปฏิเสธเป็นรับสารภาพและขออนุญาตศาลส่งคำร้องประกอบคำรับสารภาพ ศาลอนุญาตและสั่งยกเลิกการสืบพยานทั้งหมดจากนั้นนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 มกราคม 2564
19 มกราคม 2564
นัดฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจําคุกจําเลย 29 ปี 174 เดือน ในชั้นนี้หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจําเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจําเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคําร้อง