- คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
เฉลียว: อัพคลิปลงเว็บ
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา อัยการยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษเฉลียวสถานหนัก ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้ในเวลาต่อมา ให้เพิ่มโทษจำคุกจาก 1 ปี 6 เดือน เป็น 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ เฉลียวจึงต้องรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
พฤติการณ์การจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
-112 The Series เฉลียว: กันยายนที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ
แหล่งอ้างอิง
แต่เเล้วศาลให้แยกคดีเฉลียวออกมาพิจารณาคดีที่ห้อง 809 จากนั้นเวลาประมาณ 9.55 น. ศาลสั่งให้พิจารณาเป็นการลับ โดยอนุญาตให้แค่ ทนายความ ผู้รับมอบฉันทะจากโจทก์และ เฉลียว อยู่ในห้อง ส่วนผู้สังเกตการณ์ เพื่อนและญาติของเฉลียวอีก 7 คน ที่เดินทางมาจากชัยภูมิให้รออยู่ข้างนอก
ประมาณ 45 นาทีต่อมา หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จ ทนายให้ข้อมูลว่าศาลอุทธรณ์แก้โทษ ให้จำคุกเฉลียว 5 ปี และลดเหลือ 2 ปี 6 เดือนหลังให้การรับสารภาพ ไม่รอลงอาญา
หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาเฉลียวจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ภรรยาของเฉลียวใช้หลักทรัพย์มูลค่าประมาณ 600,000 บาทยื่นขอประกันตัว ศาลอาญาส่งคำร้องของเฉลียวไปให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาออกคำสั่ง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการ ระหว่างรอคำสั่ง เฉลียวจะถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
คำพิพากษา
สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ประมาณปลายปี 2554 จำเลยหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลมคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กล่าวคือ จำเลยคัดลอกแฟ้มข้อมูลเสียง Bunpodj 1 mp3 ของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า บรรพต ซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี มาเก็บไว้ในกล่องเก็บข้อมูล (Harddisk) ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของจำเลย และนำแฟ้มข้อมูลเสียงดังกล่าวมาเผยแพร่ หรือส่งต่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในเว็บไซต์ 4Share.com ในบัญชีผู้ใช้ของจำเลย ที่ใช้ชื่อ (username) ว่า charndang@gmail ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงแฟ้มข้อมูลเสียงดังกล่าวได้ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นการกระทำให้ปรากฏซึ่งข้อความ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และเชื่อมการทำงานของอุปกรณ์ หรือชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงาน ให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูล โดยอัตโนมัติ รายละเอียดข้อมูลหรือข้อความอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 เจ้าพนักงานได้ตัวจำเลยนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนแล้ว และต่อมาเจ้าพนักงานยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) จำนวน 1 เครื่อง ชุดจอมอนิเตอร์จำนวน 1 ชุด กล่องเก็บข้อมูลความจำ (Harddisk) จำนวน 4 ชิ้น ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ หรือมีไว้ เพื่อใช้ในการกระทำความผิด เป็นของกลาง ของกลางเจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3) (5) การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน พิเคราะห์แล้วไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงอาญาไว้ มีกำหนดสองปี ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนดเวลา 1 ปี และให้จำเลยทำงานบริการสังคม และสาธารณประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ริบของกลางทั้งหมด
สรุปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3) และ (5) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุด
ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 3 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ ทุก 4 เดือน มีกำหนด 1 ปี ให้จำเลยทำงานบริการสาธารณะประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง และให้ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยเป็นลงโทษจำคุกในอัตราสูงสุด
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้จำเลยจะไม่ใช่ผู้ผลิตและบันทึกเสียงข้อมูล แแต่จำเลยก็เป็นผู้คัดลอกแฟ้มเสียงที่มีเนื้อหาเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี มาเก็บไว้ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตน แล้วนำข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อบนเว็บไซด์ ซึ่ีงแม้ว่าผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกของเว็บไซด์ที่จำเลยอัพโหลดแฟ้มเสียงไว้ จะไม่สามารถเข้าถึงแฟ้มเสียงได้ แต่ก็สามารถรับฟังได้โดยวิธีอื่น เท่ากับเป็นการทำให้ข้อมูลซึ่งเป็นเท็จแพร่ขยายไปอย่างกว้างขวาง พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยจึงมีความร้ายแรง
ที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุก 3 ปี ก่อนการลดโทษและรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วย แต่พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยก็ยังไม่ร้ายแรงจนต้องลงโทษด้วยอัตราโทษสูงสุดตามที่โจทก์ร้อง
พิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษและไม่คุมความประพฤติ นอกจากที่พิพากษาแก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น