20 ตุลาคม 2557
นัดไต่สวนมูลฟ้อง
ที่ห้องพิจารณาคดี 9 ศาลจังหวัดภูเก็ต ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในเวลา 13.30
ในห้องพิจารณาคดีมีผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ทนายโจทก์ ทนายจำเลย มาศาล พร้อมกับชาวบ้านจากจังหวัดเลย 3 คน แต่จำเลยไม่ได้มาศาล
เนื่องจากคดีในวันนี้มีปริมาณมาก ศาลจึงย้ายไปไต่สวนมูลฟ้องที่ห้องพิจารณาคดี 1
ไต่สวน สุเทพ บุรมาน ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ให้ดำเนินคดีจำเลย
เนื่องจากสุเทพยื่นคำเบิกความเป็นเอกสารต่อศาลแล้วจึงไม่ต้องเบิกความซ้ำ ศาลจึงเพียงแต่ถามคำถามเพิ่มเติมและเริ่มให้ทนายจำเลยถามค้านได้เลย
สุเทพเบิกความต่อศาลว่า เหตุที่มาฟ้องคดีนี้ เนื่องจากจำเลยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า โจทก์ให้พนักงานเผากระท่อมและเต้นท์เพื่อป้ายความผิดให้ชาวบ้าน แต่โจทก์ไม่เคยทำเช่นนี้ การให้สัมภาษณ์เช่นนี้ทำให้โจทก์เสียหาย ศาลถามว่าได้ฟ้องคดีนี้ที่อื่นหรือไม่ สุเทพ ตอบว่า ไม่ สาเหตุที่มาฟ้องคดีที่จังหวัดภูเก็ต เพราะบริษัทโจทก์มีสำนักงานสาขาอยู่ในจังหวัดภูเก็ต
ตอบทนายจำเลยถามค้าน
สุเทพตอบคำถามทนายจำเลยว่า ปัจจุบันประกอบอาชีพนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทโจทก์ ไม่ทราบว่าโจทก์หรือผู้ใดเป็นผู้ได้รับประทานบัตรในการทำเหมืองแร่ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 มีการขนแร่ทองคำโดยรถพ่วงหลายคัน ระหว่างการขนแร่ชาวบ้านก็มาคัดค้าน แต่ไม่ทราบว่าในวันนั้นมีการทำร้ายร่างกายกันหรือไม่
สุเทพเบิกความต่อว่า โจทก์กับจำเลยและชาวบ้านในพื้นที่มีความขัดแย้งกัน มีเหตุการณ์ไฟไหม้เต้นท์ที่พักของพนักงานของบริษัท ในคืนวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร
สุเทพเบิกความต่อว่า ก่อนหน้านี้โจทก์ฟ้องคดีกลุ่มชาวบ้านที่จังหวัดเลยหลายคดี เท่าที่ทราบฟ้องที่จังหวัดเลยและที่กรุงเทพมหานคร ตนไม่ทราบว่าสัญญาณของสถานี TNN24 ส่งมาถึงจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ และไม่ทราบว่ากรรมการบริษัทที่ออกมติให้ดำเนินคดีนี้ได้มาที่จังหวัดภูเก็ตและรับรู้เรื่องการออกอากาศรายการของสถานี TNN24 หรือไม่
สุเทพตอบคำถามทนายจำเลยต่อว่า ในเทปข่าวของสถานี TNN24 ที่เป็นประเด็นในคดีนี้ไม่มีภาพจำเลยให้สัมภาษณ์ ส่วนข้อความที่อ้างว่าจำเลยพูดนั้นไม่ทราบว่าจำเลยได้พูดจริงหรือไม่
ตอบทนายโจทก์ถามติง
สุเทพตอบคำถามติงของทนายโจทก์ว่า เสียงในเทปข่าวที่กล่าวถึงคำพูดของสุรพันธุ์นั้น ผู้ประกาศข่าวของสถานีเป็นคนพูด ส่วนสถานี TNN24 ออกอากาศผ่านดาวเทียม ถึงไม่เคยเปิดดูแต่ทราบว่าสามารถรับชมได้ทั่วประเทศ และเปิดดูย้อนหลังทางอินเทอร์เน็ตได้ เหตุการณ์วันที่ 15 พฤษภาคม 2557 การขนแร่ทำโดยผู้ซื้อแร่ไม่ใช่บริษัทโจทก์ ซึ่งปกติชาวบ้านจะขวางทางเข้าออกทำให้ไม่สามารถขนแร่ได้
หลังการสืบพยาน ทนายโจทก์แถลงว่ายังติดใจขอสืบพยานอีกสองปาก คือ ปรเมศ บัณสิทธิ์ และวิชัย เชิดชีวศาสตร์ แต่นายวิชัยประชุมไม่สามารถมาในวันนี้ได้ ทนายจำเลยแถลงคัดค้านเพราะชื่อของปรเมศไม่อยู่ในบัญชีพยานแต่แรก ส่วนวิชัย เป็นกรรมการของบริษัทโจทก์ เป็นผู้ริเริ่มในการฟ้องคดี จึงควรต้องมาศาล และหากมาเบิกความในประเด็นเดียวกับพยานในวันนี้ จะทำให้จำเลยเสียเปรียบ
ศาลให้ทนายของทั้งสองฝ่ายเขียนคำแถลงมาเป็นลายลักษณ์อักษร
เวลาประมาณ 16.00 น. ศาลอ่านรายงานกระบวนพิจารณา พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้ศาลนัดล่วงหน้ากว่า 2 เดือน และโจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้ว จึงมีเวลาเตรียมการนำพยานมาไต่สวนแล้ว การอ้างว่าติดประชุมเป็นเหตุจำเป็นส่วนตัว ไม่ใช่เหตุสมควรในการขอเลื่อนการไต่สวน เพื่อไม่ให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความล่าช้าจึงให้งดสืบพยานโจทก์
เสร็จสิ้นการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 29 ตุลาคม 2557