- คดีชุมนุม, ฐานข้อมูลคดี
อนุรักษ์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง : ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ห้ามชุมนุมทางการเมือง
อัปเดตล่าสุด: 29/01/2560
ผู้ต้องหา
อนุรักษ์
สถานะคดี
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
คดีเริ่มในปี
ไม่มีข้อมูล
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
ไม่มีข้อมูล
อนุรักษ์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ได้ถูกจับกุมหลังจากได้โพสต์เฟซบุ๊กชวนคนไปชุมนุม และถ่ายภาพชูสามนิ้วต้านรัฐประหาร แม้ก่อนหน้านั้นมีทหารเข้าไปเจรจาเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวแล้วก็ตาม
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว เมื่อมีเวลาว่างจะทำกิจกรรมปั่นจักรยานในนามกลุ่มเส้นทางสีแดง โดยเข้าร่วมกิจกรรมมาเป็นเวลา 4 ปี ทำกิจกรรมเดินทางไป 6 ประเทศในอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย มอบเงินให้ชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมและครอบครัวเสื้อแดงที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมปี 53
กลุ่มเส้นทางสีแดง (Red Path Group) เป็นกลุ่มนักกิจกรรมอิสระ สมาชิกประกอบด้วยอาจารย์ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เสรีชน แสดงออกถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนไทยผ่านกิจกรรมปั่นจักรยานทางไกลโดยนำความช่วยเหลือและกำลังใจไปให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในปี 2553 ทำกิจกรรมโดยมุ่งหวังให้สังคมเข้าใจขบวนการประชาธิปไตยของไทยผ่านทางกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมที่แสดงออกอย่างสันติและสร้างสรรค์ภายใต้กฏหมาย
ที่มา:บล็อคกลุ่มเส้นทางสีแดง , VOICE TV , INN
ข้อหา / คำสั่ง
ฝ่าฝืนประกาศคสช. 7/2557
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
โพสต์ชวนคนไปชุมนุมต้านรัฐประหาร และโพสต์รูปชูสามนิ้วในเฟซบุ๊ก
พฤติการณ์การจับกุม
7 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจประมาณ 20 นาย บุกไปที่บ้านของอนุรักษ์ เพื่อขอความร่วมมือให้หยุดการแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร
8 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจ มาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้ไปชุมนุมที่ห้างสยามพารากอน และมาขอรหัสเฟสบุ๊ค แต่อนุรักษ์ไม่ได้ให้ ทหารจึงเปิดคอมพิวเตอร์ที่บ้านและกรอกรหัสเอง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ ทางทหารจึงแจ้งว่าไม่ให้โพสเกี่ยวกับการต่อต้านรัฐประหาร อนุรักษ์ตอบตกลงและปฏิบัติตาม และถามกลับไปว่า พวกรูปเก่าๆต้องลบด้วยมั้ย ทางตำรวจบอกว่า ไม่ต้องลบ
9 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจนำรถมารับที่บ้าน แจ้งให้เก็บเสื้อผ้าและนำตัวขึ้นรถ โดยใช้ถุงผ้าสีเขียวเข้มคลุมศีรษะ สายพลาสติกรัดที่นิ้วทั้งสองข้าง พาไปสอบสวนที่ค่ายกองพลที่ 26 รักษาพระองค์
– ทหารมีพฤติกรรม ข่มขู่ และใช้คำพูดดูถูกเหยียมหยาม เช่น “ฆ่าคนมาแล้วหลายชาติ มีแค่คนไทยที่ยังไม่เคยฆ่า”
– ทหารให้เซ็นต์รับรองเอกสาร เป็นเอกสารที่พิมพ์ออกมาจากเฟสบุ๊คของอนุรักษ์ เช่น ข้อความ รูปภาพ โดยเอกสารชุดแรกนั้น ซึ่งอนุรักษ์ยินยอมเซ็นต์เพราะเป็นสิ่งที่พิมพ์และโพสจริงๆ แต่ เอกสารชุดที่สอง เป็นเอกสารที่เขียนว่า “เตือนครั้งที่ 1-3” ประกอบกับรูปที่แสดงการสนทนาในกล่องข้อความในเฟสบุ๊ค ว่า “ให้ลบรูปออก” 3 ครั้ง ซึ่งอนุรักษ์ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับข้อความดังกล่าว และชื่อเฟสไม่ใช่ของจน จึงเซ็นต์และเขียนกำกับเช่นนั้น
– ทหารให้เซ็นต์รับรอง รูปถ่ายที่อนุรักษ์ถ่ายไว้ที่ Terminal 21 โดยเป็นรูปที่ด้านบนของรูปมีคำว่า “District 112”
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ไม่มีข้อมูล
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ผู้ถูกกล่าวหาให้ข้อมูลว่า มีลูกชายเป็นออทิสติกอ่อนๆ กำลังรักษาที่ รพ. ซึ่งจำเป็นต้องพาลูกไปรักษาทุกอาทิตย์ การติดภาระต้องดูแลลูกชายทำให้สภาพจิตใจไม่ค่อยดี เพราะเป็นห่วงลูกชาย
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
7 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจประมาณ 20 นาย บุกไปที่บ้านของอนุรักษ์ เพื่อขอความร่วมมือให้หยุดการแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร
8 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจ มาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้ไปชุมนุมที่ห้างสยามพารากอน และมาขอรหัสเฟสบุ๊ค แต่อนุรักษ์ไม่ได้ให้ ทหารจึงเปิดคอมพิวเตอร์ที่บ้านและกรอกรหัสเอง ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ ทางทหารจึงแจ้งว่าไม่ให้โพสเกี่ยวกับการต่อต้านรัฐประหาร อนุรักษ์ตอบตกลงและปฏิบัติตาม และถามกลับไปว่า พวกรูปเก่าๆต้องลบด้วยมั้ย ทางตำรวจบอกว่า ไม่ต้องลบ
9 มิถุนายน 2557
ทหารและตำรวจนำรถมารับที่บ้าน แจ้งให้เก็บเสื้อผ้าและนำตัวขึ้นรถ โดยใช้ถุงผ้าสีเขียวเข้มคลุมศีรษะ สายพลาสติกรัดที่นิ้วทั้งสองข้าง พาไปสอบสวนที่ค่ายกองพลที่ 26 รักษาพระองค์
– ทหารมีพฤติกรรม ข่มขู่ และใช้คำพูดดูถูกเหยียมหยาม เช่น “ฆ่าคนมาแล้วหลายชาติ มีแค่คนไทยที่ยังไม่เคยฆ่า”
– ทหารให้เซ็นต์รับรองเอกสาร เป็นเอกสารที่พิมพ์ออกมาจากเฟสบุ๊คของอนุรักษ์ เช่น ข้อความ รูปภาพ โดยเอกสารชุดแรกนั้น ซึ่งอนุรักษ์ยินยอมเซ็นต์เพราะเป็นสิ่งที่พิมพ์และโพสจริงๆ แต่ เอกสารชุดที่สอง เป็นเอกสารที่เขียนว่า “เตือนครั้งที่ 1-3” ประกอบกับรูปที่แสดงการสนทนาในกล่องข้อความในเฟสบุ๊ค ว่า “ให้ลบรูปออก” 3 ครั้ง ซึ่งอนุรักษ์ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับข้อความดังกล่าว และชื่อเฟสไม่ใช่ของจน จึงเซ็นต์และเขียนกำกับเช่นนั้น
– ทหารให้เซ็นต์รับรอง รูปถ่ายที่อนุรักษ์ถ่ายไว้ที่ Terminal 21 โดยเป็นรูปที่ด้านบนของรูปมีคำว่า “District 112”
หลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองปราปราม จนครบ 7 วัน เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจควบคุมตัวนายอนุรักษ์ มายังศาลทหารเพื่อดำเนินคดี
เวลาประมาณ 16.20 น. ศาลทหารมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักประกันเงินสด 10,000 บาท
เงื่อนไขสำหรับผู้ได้รับการประกันตัว ประกอบด้วย
1. ห้ามชุมนุมทางการเมืองอันก่อให้เกิดความไม่สงบ และห้ามแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด หรือทำเป็นหนังสือเพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
2.ให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 เวลา 9.30 น. จากนั้นวันที่ 25 มิถุนายน 2557 มีนัดฟังคำพิจารณาว่าศาลจะให้ฝากขังต่อหรือไม่
25 มิถุนายน 2557
ครบกำหนดที่พนักงานสอบสวนจากกองปราบปรามขออำนาจศาลฯ ฝากขังในผลัดแรก และได้ขอเป็นผลัดที่ 2 อีก 12 วัน ซึ่งศาลได้อนุญาต เพื่อรอสอบพยานเพิ่มเติมและตรวจสอบประวัติอาชญากรของผู้ต้องหา ทั้งนี้ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักประกันเดิม คือ เงินสด 10,000 บาท
ครบกำหนดที่พนักงานสอบสวนจากกองปราบปรามขออำนาจศาลฯ ฝากขังในผลัดแรก และได้ขอเป็นผลัดที่ 2 อีก 12 วัน ซึ่งศาลได้อนุญาต เพื่อรอสอบพยานเพิ่มเติมและตรวจสอบประวัติอาชญากรของผู้ต้องหา ทั้งนี้ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว ด้วยหลักประกันเดิม คือ เงินสด 10,000 บาท
สำหรับเงื่อนไขผู้ได้รับการประกันตัว ประกอบด้วย 1. ห้ามชุมนุมทางการเมืองอันก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร และห้ามแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด หรือทำเป็นหนังสือเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน 2.ให้ผู้ต้องหามารายงานตัวในวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 เพื่อฟังคำพิจารณาว่าศาลจะให้ฝากขังผลัดต่อไปหรือไม่
7 กรกฎาคม 2557
ครบกำหนดฝากขังในผลัดที่2และได้ขอเป็นผลัดที่3อีก 12 วันทั้งนี้โดยได้รับสิทธิการประกันตัวชั่วคราวด้วยหลักประกันเดิม คือ เงินสด 10,000 บาท
สำหรับเงื่อนไขผู้ได้รับการประกันตัว ประกอบด้วย
1. ห้ามชุมนุมทางการเมืองอันก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร และห้ามแสดงความคิดเห็นด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด หรือทำเป็นหนังสือเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
2.ให้ผู้ต้องหามารายงานตัวในวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 เพื่อฟังคำพิจารณาว่าศาลจะให้ฝากขังผลัดต่อไปหรือ
8 กันยายน 2557
ที่ศาลทหารกรุงเทพ ห้องพิจารณา 3 อัยการศาลทหารกรุงเทพฟ้องอนุรักษ์จำเลยในข้อหาฝ่าฝืนประกาศห้ามชุมนุมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ศาลขึ้นบังลังก์ 10.15 น.
สืบเนื่องจากวันที่ 1 มิถุนายน 2557 เวลากลางวัน จำเลยและพวกราว 50 คน มั่วสุมทำการคัดค้านการเข้าควบคุมประเทศของ คสช.บริเวณห้างเทอร์มินอล 21 หลังจากนั้นจำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 9 – 14 มิถุนายน 2557
ดคีนี้จำเลยให้การรับสารภาพและขอรอการลงโทษจำคุก ศาลจึงพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษมาก่อน อีกทั้งคดีนี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง และเพื่อให้จำเลยมีโอกาสได้ทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล