- คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
นิคม: ตัดต่อธนบัตร
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
พฤติการณ์การจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แหล่งอ้างอิง
(ข้อมูลจากศาลอาญา) วันที่ 23 พฤษภาคม 2550 ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ปอ.ม.112 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตาม ปอ.ม.91ให้ลงโทษจำคุก 2 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษตาม ปอ.ม.78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 3 ปี หลังเกิดเหตุจำเลยทำหนังสือขอพระราชทานอภัยผ่านทางราชเลขาธิการ อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในความผิดที่กระทำ และรับว่าจะไม่กระทำการ รวมทั้งดูแลไม่ให้เกิดการกระทำเยี่ยงนี้อีก ประกอบกับจำเลยประกอบอาชีพโดยสุจริตตลอดมาและไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน หากจำเลยต้องถูกจำคุกแล้วย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวจำเลยและประเทศชาติ เมื่อพิจารณาถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา สุขภาพ ภาวะแห่งจิต อาชีพ พฤติการณ์แห่งความผิดและเหตุอันควรปรานีแล้ว เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตาม ปอ.ม.56 ส่วนเครื่องประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บภาพธนบัตรที่มีการแก้ไข ดัดแปลง ตกแต่งพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยของกลางนั้น เป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบเสีย/.