แฮรี่: คนเขียนนิยาย
อัปเดตล่าสุด: 09/07/2564
ผู้ต้องหา
แฮรี่ น.
สถานะคดี
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
คดีเริ่มในปี
ไม่มีข้อมูล
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด
แฮรี น.ผู้ประพันธ์นิยายเรื่อง"Verisimilitude" ถูกตัดสินจำคุก6ปีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯเพราะหนังสือมีเนื้อพาดพิงเชื้อพระวงศ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษหลังถูกคุมขังมา 6 เดือน
ภูมิหลังผู้ต้องหา
แฮรี่ น. อายุ 41 ปี เป็นออสเตรเลียเชื้อสายกรีก จบการศึกษาจาก La Trobe University ในปี 2531 ก่อนถูกจับกุมมีอาชีพเป็น นักเขียน และ ครูสอนภาษาอังกฤษ
แฮรี่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2547 โดยทำงานเขียนหนังสือและเป็นบล็อกเกอร์ เขาเคยเขียนคอลัมน์เล่าถึงผู้หญิงทำงานบาร์ และเขียนบทความเกี่ยวกับภาพโป๊เด็ก เขาบรรยายตัวเองว่าเป็น ""คนๆ หนึ่งที่ประสบความสำเร็จโดยอาศัยพรสวรรค์ล้วนๆ และความมั่นคงพากเพียร""
นอกจากงานเขียนหนังสือ เขาเคยสอนภาษาอังกฤษระยะสั้นๆ รวมทั้งเคยช่วยแปลบทบรรยายสารคดีเฉลิมพระเกียรติของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้า หลวง จ.เชียงรายด้วย
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
แฮรี่ น. ถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2551
หนังสือที่เป็นปัญหาในคดีนี้และเป็นเหตุให้เขาถูกจับกุมคือนิยายชื่อ "verisimilitude"ที่เขาเขียนขึ้นเมื่อปี 2548 ซึ่งตีพิมพ์ออกมาประมาณไม่เกิน 50 เล่ม และขายออกไปเพียง 10 เล่ม ในหนังสือดังกล่าว มีเนื้อความกล่าวถึง ‘ข่าวลือ' เรื่อง ‘โรแมนติก' ของเชื้อพระวงศ์โดยไม่ได้ระบุชื่อ อยู่ประมาณ 1 ย่อหน้า
ก่อนตีพิมพ์นิยายเล่มดังกล่าว แฮรี่ส่งเนื้อหาให้สำนักพระราชวังพิจารณาพร้อมสอบถามว่าข้อความเช่นนี้หมิ่นเหม่หรือไม่ แต่ไม่มีการตอบกลับ จนกระทั่งเขาถูกจับกุมที่สนามบิน ในความผิดตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา
พฤติการณ์การจับกุม
แฮรี่ระบุว่า เขาทราบในภายหลังว่ามีการออกหมายจับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 ระหว่างนั้นจนถึงวันที่ถูกจับ ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 5 เดือน เขาสามารถเดินทางเข้าออกประเทศไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหลายครั้งโดยไม่มีปัญหาใดๆ จนกระทั่งวันที่ 31 สิงหาคม 2551 ขณะเดินทางกลับออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมเขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งกรณีนี้ไม่ปรากฏเป็นข่าวในประเทศไทยแต่อย่างใด
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
อ.4550/2551
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
กรณีแฮรี่ นิโคไลดส์. LM Watch Blogspot. 16 เมษายน 2552 (เข้าถึงเมื่อ 19 มิถุนายน 2556)
แฮรี่ นิโคไลดส์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ. ประชาไท 21 กุมภาพันธ์ 2552 (เข้าถึงเมื่อ 19 มิถุนายน 2556)
3 กันยายน 2551
สำนักข่าวเอบีซีนิวส์รายงานทางเว็บไซด์ว่า แฮรี น. ถูกปฏิเสธการประกันตัวและถูกส่งกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ สำนักข่าวเอบีซียังให้ข้อมูลไว้ท้ายข่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพรุนแรงที่สุดในโลกด้วย ทั้งนี้สำนักข่าวเอบีซีนิวส์เป็นสื่อของออสเตรเลียสำนักแรกที่รายงานข่าวของแฮรี่ น.
พฤศจิกายน 2551
สำนักข่าวเอบีซี นำเสนอคดีของแฮรี่ น.ทางโทรทัศน์ โดยมีสัมภาษณ์แหล่งข่าวอย่างหลากหลาย พี่ชายและทนายความของแฮรี่ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียขอให้พวกเขาอยู่เงียบๆ ไม่เปิดเผยข้อมูลคดี ทว่ากระทรวงการต่างประเทศเองกลับล้มเหลวในการให้ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยตัวแฮรี่ สิ่งที่ครอบครัวของแฮรี่เรียกร้องต่อรัฐบาลออสเตรเลียคือ การให้ข้อมูลว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตจะระบุว่าได้พบกับแฮรี่แล้วไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง และกระทรวงการต่างประเทศก็ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง แต่คำถามคือ ""ทางการออสเตรเลียได้ยื่นเรื่องอะไรต่อรัฐบาลไทย และเจราจาเรื่องนี้กับใครในรัฐบาลไทย"" ฟอร์ด น. พี่ชายของเขาตั้งคำถาม
ต่อมา พ่อแม่ของแฮรี่ น. ได้รวบรวมรายชื่อชาวออสเตรเลียเชื้อสายกรีกจากชุมชนกรีกในเมลเบิร์นจำนวนหลายพันรายชื่อยื่นต่อสถานทูตไทยและรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกชาย ขณะเดียวกันก็ปรากฏการรณรงค์ออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ http://www.bringharryhome.com ซึ่งเรียกร้องให้ปล่อยตัวแฮรี่ และดำเนินการต่อคดีของเขาอย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ยังมีสื่อต่างๆ รวมทั้งบล็อกเกอร์จำนวนมากที่เขียนถึงกรณีของเขา และวิพากษ์วิจารณ์บทบาทอันอ่อนเปลี้ยของรัฐบาลออสเตรเลียต่อเรื่องดังกล่าว
19 มกราคม 2552
ที่ห้องพิจารณาคดีเลขที่ 811 ศาลอาญารัชดา ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดี หมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระหว่างพนักงานอัยการโจทก์ และนายแฮรี่ น.โดยจำเลยให้การรับสารภาพ และโจทก์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน
ทั้งนี้ มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศให้ความสนใจติดตามคดีนี้เป็นจำนวนมาก อาทิ รอยเตอร์ เอพี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งรายงานแบบ real time และนำเสนอวีดีโอ สารคดีสั้นๆ ของคดีดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ www.abc.net.au/news/
เวลา 14.15 น. ศาลพิพากษาว่า จำเลยเขียนหนังสือชื่อ Verisimilitude ซึ่งมีข้อความเป็นการหมิ่นประมาทและหมิ่นพระเกียรติพระมหากษัตริย์และพระบรมราชกุมาร จึงตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 ปี จำเลยสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง (3 ปี) ทั้งนี้ จำเลยเป็นผู้แต่งหนังสือซึ่งเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไป พฤติการณ์เป็นความผิดร้ายแรงไม่สมควรรอลงอาญา
หลังการพิพากษา ผู้สื่อข่าวสอบถามทนายความของแฮรี่ น. ว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ทนายปฏิเสธที่จะให้คำตอบ โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาและครอบครัวต้องตัดสินใจ
9 กุมภาพันธ์ 2552
ฌอง ฟรองซัวส์ จูลิอาร์ด เลขานุการขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนเตรียมยื่นฎีกาต่อพระมหากษัตริย์ไทย โดยหวังจะได้กราบบังคมทูลถึงการเซ็นเซอร์และการจับกุมที่เกิดขึ้นในนามของพระองค์ พร้อมกันนี้ได้เปิดเว็บไซต์เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตร่วมลงชื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแฮรี่ น. ส่วนหนังสือฎีกาดังกล่าวได้เปิดให้ลงชื่อออนไลน์ ที่ http://www.rsf.org/freeharry/ ผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนยังเผยแพร่คำพิพากษาของในคดีของแฮรี่ น.ด้วย
19 กุมภาพันธ์ 2552
แฮรี่ น. ได้รับการปล่อยตัวในคืนวันที่19กุมภาพันธ์หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ
20 กุมภาพันธ์ 2552
หลังได้รับการปล่อยตัว ในคืนวันที่19กุมภาพันธ์ แฮรี่ น.ถูกส่งตัวกลับประเทศออสเตรเลียอย่างเร่งด่วนในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 20กุมภาพันธ์
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล