ประเด็นที่กำลังพูดถึงในปลายปี 2566 เกี่ยวกับการเขียนรัฐธรรมนู
จากการศึกษารัฐธรรมนูญตั้งแต่
ม.5 รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด/ไม่มีรัฐธรรมนูญให้ใช้ประเพณีการปกครอง
ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 5 มีเนื้อหาสองส่วน คือส่วนที่ระบุว่ารัฐธรรมนูญเป็
“มาตรา ๕ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุ
เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรั
หน้าที่ของมาตรา 5 คือการบอกถึงสถานะของรัฐธรรมนู
แก้รัฐธรรมนูญ 2560 ม.5 ถูกแก้ตามข้อสังเกตพระราชทาน
ย้อนกลับไปในยุครัฐบาลทหาร คสช. มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนู
“มาตรา ๕ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุ
เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรั
เมื่อมีกรณีตามวรรคสองเกิดขึ้น ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญจัดให้มี
ในการประชุมร่วมตามวรรคสาม ให้ที่ประชุมเลือกกันเองให้
การวินิจฉัยของที่ประชุมร่วมให้
คำวินิจฉัยของที่ประชุมร่วมให้
เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่
เริ่มแรกรัฐธรรมนูญไทย กำหนดหลักการรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูดสุดเท่านั้น
ในธรรมนูญการปกครองฉบับชั่
โดยมีเนื้อความว่า “บทบัญญัติ
หลังจากนั้นรัฐธรรมนูญฉบับถัด ๆ มา ก็บัญญัติสิ่งนี้อยู่ในรั
เพิ่ม “การวินิจฉัยตามประเพณีการปกครอง” ครั้งแรกหลังรัฐประหารจอมพลสฤษดิ์
หลังจากที่มีการรัฐประหารรั
“ในเมื่อไม่มีบทบัญญั
ประชา
ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่มี
โดยเฉพาะนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2534 มาตรานี้เริ่มถูกเขียนให้อยู่
เหตุการณ์ขับไล่ทักษิณ เรียกร้องนายกพระราชทาน
ประเด็นประเพณี
“มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรั
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนายกพระราชทาน หรือ นายกมาตรา 7 ต้องยุติไป เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสในประเด็นดั
“…. ยืนยันว่า มาตรา 7 นั้น ไม่ได้หมายถึงให้มอบให้
….เขาอ้างถึงเมื่อครั้งก่อนนี้
กปปส. ไล่ยิ่งลักษณ์ ขอนายกพระราชทาน
ต่อมาความพยายามฟื้
อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากฝ่ายรัฐบาล ณ ขณะนั้น คือ ชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็เคยเสนอให้ใช้มาตรา 7 เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย เพราะรัฐบาลไม่มีทางออก จากกรณี