“ทุกเช้าที่ตื่นมา พอเดินผ่านไปทางห้องน้ำเราชอบมองต้นไม้ที่สูงเหนือกำแพงตลอด แต่มีอยู่วันนี้ที่ต้นไม้ส่วนใหญ่ใบไม้จะร่วงบางต้นไม่มีใบไม้เหลืออยู่ การที่ใบไม้ร่วงจากต้นไม้เปรียบเสมือนวันตัดสินคดีม 112 ชั้นฎีกาทั้ง 2 คดีจะสิ้นสุดแล้วสินะพออยู่เรือนจำนานเข้าโดยไม่ได้ประกันตัวนั้นยิ่งทำให้เราอยู่นานเป็นปีๆแน่นอน”
ก้อง อุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล จำเลยคดีมาตรา 112 คดีกับโทษจำคุกรวมประมาณเก้าปี หกเดือน เขาเล่าเรื่องผ่านจดหมายกับอาร์ม-อาภัสรา ตรวจนอก เพื่อนของเขาเป็นประจำ ใจความหลักคือ เขายังหวังและรอคอยอิสรภาพ รวมถึงโอกาสการสอบอีกสามวิชาสุดท้ายเพื่อจบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ ไม่ว่าทางเขาล้วนยินดีทั้งการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปสอบที่มหาวิทยาลัย หรือการจัดสอบในเรือนจำ ก้องก็ยังเตรียมตัวอ่านหนังสืออยู่ตลอด “เอาล่ะในแต่ละวันเราก็อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ตลอดเวลา อ่านหนังสือไปแล้วมองท้องฟ้าไปด้วยได้สุนทรีย์ไปอีก”

มีกิจกรรมอื่นๆที่เพื่อนๆนักโทษการเมืองชวนกันเล่นก็คือ หมากฮอส หรือการออกกำลังกาย “และมีอีกกิจกรรมที่อยู่ๆก็กลับมาทำอีกครั้งโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะทำก็คือการออกกำลังกายยามเช้า” ก้องบอกว่า คนที่เป็นต้นเรื่องคือพี่อานนท์ [อานนท์ นำภา]ที่ถือรองเท้าแตะรอก้องทุกเช้า ก้องรู้สึกเหมือนโดนมัดมือชกเลยจำใจออกกำลังกายด้วย แต่พอทำไปเรื่อย ๆ กลายเป็นความเคยชิน สรุปทุกเช้าก้องก็เลยออกมาเดินเองเลย กิจกรรมเหล่านี้ทำให้เขาทุกข์น้อยลงกับเวลาในเรือนจำที่ยาวนานกว่าโลกภายนอก นอกจากนี้การพูดคุยกับเพื่อนนักโทษการเมืองก็ทำให้รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวน้อยลง
ก่อนหน้าการย้ายเรือนจำในวันที่ 19 มีนาคม 2568 ก้องเขียนจดหมายออกมาถึงอาร์มระบุว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักโทษคดีเด็ดขาด…ต้องย้ายออกจากเรือนจำพิเศษไปอยู่เรือนจำที่รองรับนักโทษคดีเด็ดขาด ส่วนเราก็มีโอกาสที่จะย้ายไปเรือนจำอื่นเช่นกันก็เลยกังวลในปัญหานี้อยู่เช่นกัน”
ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2568 ช่วงเที่ยง อาร์มได้รับแจ้งจากเพื่อนของเก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรงว่า มีการย้ายนักโทษการเมืองสามคน ได้แก่ ก้อง บุ๊ค-ธนายุทธและ จอย-สถาพร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไปยังเรือนจำกลางบางขวาง โดยในระหว่างนั้น มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสามได้กระทำการอารยะขัดขืน ส่งผลให้เก็ทที่พยายามเข้าช่วยเหลือทั้งสามต้องได้รับบาดเจ็บ
เมื่ออาร์มทราบข้อมูลจึงได้แจ้งไปทางพ่อแม่ ทนายความ และเพื่อนๆที่กำลังติดตามด้วยความเป็นห่วง ทนายความยืนยืนว่าก้องได้ย้ายไปเรือนจำกลางบางขวางแล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 มีนาคม 2568 ส่วนทางพ่อแม่ เมื่อทราบข่าวเรื่องการย้ายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็รู้สึกไม่สบายใจและอดเป็นห่วงก้องผู้เป็นลูกไม่ได้ “จะเป็นยังไงบ้างนะ ใจคอไม่ดีเลย ถึงว่าวันนี้รู้สึกแปลกๆ”ปลายสายน้ำเสียงของผู้เป็นแม่ มีความกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น “เขาเป็นเพื่อนกัน กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน เบียดกันจนแทบจะขี่กันแล้ว ไปจับเขาแยกกันทำไม” แม่ของเก็ทตั้งคำถามถึงการย้ายนักโทษโดยไม่สมัครใจในครั้งนี้ ขณะที่พ่อของก้องจากที่วางแผนไว้จะไปเยี่ยมก้องวันอื่นก็เปลี่ยนแปลงไปเยี่ยมในวันที่ 20 มีนาคม 2568 หรือหนึ่งวันหลังเกิดเหตุแทน
จากเหตุการณ์ครั้งนี้อาร์มร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการย้ายนักโทษโดยไม่สมัครใจและการใช้ความรุนแรงในเรือนจำ โดยมีการบรรจุในวาระพิจารณาในวันที่ 2 เมษายน 2568 ที่รัฐสภา เกียกกาย