ถอดบทเรียนแกะรอยโกง การเลือก สว. 67

วุฒิสภาชุดที่มาจากระบบการเลือกกันเอง เข้ามาทำหน้าที่สำคัญต่อบ้านเมือง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ ท่ามกลางคำถามถึงความถูกต้องและชอบธรรมในกระบวนการคัดเลือกที่มาของพวกเขา ซึ่งมีความผิดปกติตลอดกระบวนการ ตั้งแต่เปิดรับสมัครไปจนถึงการเลือกกันเองระดับประเทศ 

จากความผิดปกติเหล่านี้ทางเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ หรือ CALL จึงจัดวงเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “แกะรอยโกง การเลือก สว.67” เพื่อชี้ให้เห็นปัญหาของระบบการเลือก สว. แบบใหม่ รวมถึงมองหาความเป็นไปได้ที่จะมีการปฏิรูปกระบวนการได้มาซึ่ง สว. ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 19.00 – 21.00 น. รับชมย้อนหลังได้ทางเพจเฟซบุ๊ค CALL – เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ

ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเสวนา ได้แก่

  • จีรนุช เปรมชัยพร อดีตผู้สมัคร สว. 67 กลุ่ม18 สื่อมวลชน
  • ศรีไพร นนทรีย์ อดีตผู้สมัคร สว. 67 กลุ่ม 7 ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน
  • ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการ iLaw
  • ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ซึ่งดำเนินรายการโดย ณัชปกร นามเมือง และ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล จาก CALL

ค่าตอบแทนจ่ายกันสะพัดตั้งแต่ระดับอำเภอยันระดับประเทศ

ศรีไพร นนทรีย์ เล่าประสบการณ์ลงสนามการเลือกสว.ในกลุ่มแรงงานให้ฟังว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะลงสมัครแต่เห็นเพื่อนลงและอ่านข่าวมาเห็นความแปลกของระบบ จึงตัดสินใจลงสมัครสว. และไปชวนคนอื่นๆ ให้สมัครด้วย เขาเล่าต่อว่าเมื่อได้ลงในสนามได้พบเจอกับเหตุการณ์มากมายแต่เรื่องที่เด่นชัดที่สุดคือเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนที่เห็นได้ชัดเจน

ค่าตอบแทนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เป็นเงินเท่านั้น บางพื้นที่ให้เป็นการอำนวยความสะดวกในรูปแบบอื่น เช่น อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ได้รับข่าวจากเพื่อนที่ลงสมัครมาว่า มีร้านถ่ายรูปบางร้าน เมื่อมีคนไปถ่ายรูปสมัครสว. ร้านจะถามเลยว่ากลุ่มไหน? ถ้าบอกกลุ่มได้ไม่ต้องเสียเงินค่าถ่ายรูป ซึ่งมองว่าผิดปกติ และน่าจะมีคนมาจ่ายเงินไว้ให้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

ต่อมาในระดับอำเภอ กลุ่มสีเสื้อของผู้สมัครชัดเจนขึ้นอย่างเห็นได้ มีบางคนได้รับข้อความเข้ามือถือว่า หากเลือกให้บุคคลนี้จะได้รับค่าตอบแทนหนึ่งหมื่นบาท เรื่องนี้มีหลักฐานยืนยันได้ แม้ว่าจะพบเหตุการณ์ความผิดปกติแต่ไม่มีผู้สมัครคนใดกล้ารายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเลย เพราะมีอิทธิพลการเมืองในท้องถิ่นเข้ามาจับตาอยู่ และเชื่อได้ว่า มีการเตรียมคนเตรียมการจ่ายเงินล่วงหน้ากันมาเป็นปีแล้ว

ประเด็นนี้พบได้หลายจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี อ่างทอง ต่อมาในการเลือกระดับประเทศค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินและได้แปรเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นมากมายอาทิ การใส่เสื้อสีเหลืองและใส่สูทที่เหมือนสั่งมาจากร้านเดียวกัน แฟ้มเอกสารที่ใส่มาเหมือนกัน ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในวันนั้น

ศรีไพร ได้ไปสัมผัสประสบการณ์ตรงกับปัญหาหลายอย่าง เช่น ค่าสมัครที่แพงเกินไป ทำให้คนที่ทำงานใช้แรงงาน กลุ่มลูกจ้าง ที่เป็นลูกจ้างระดับล่างจริงๆ ไม่สามารถสมัครเข้าแข่งขันได้ มีแต่ลูกจ้างระดับผู้บริหารเงินเดือนสูงๆ ที่ไปสมัครได้ ระเบียบการสมัครที่ไม่มีความแน่นอน การทำงานของเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เหตุการณ์แลกคะแนนกันเปิดเผยและการใส่เสื้อสีเหลืองเหมือนกันของกกต. และผู้สมัครในการเลือกระดับประเทศ เป็นต้น 

ระบบที่มั่วและไร้ประสิทธิภาพทำให้เกิดการทุจริต

จีรนุช เปรมชัยพร บอกว่า ระบบการเลือกสว.ครั้งนี้เป็นระบบที่มั่วและไม่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งดำเนินการแบบ “อะนาล็อก” ทำทุกอย่างเป็นเอกสารกระดาษ ทั้งที่เอกสารหลักฐานในการสมัครบางส่วนสามารถจัดการได้ผ่านระบบดิจิทัลเลย เช่น หลักฐานว่าทำงานมานานกี่ปีแล้ว หลักฐานว่าเคยมีที่อยู่ในอำเภอนั้นๆ หรือไม่ หากทำให้สะดวกขึ้นเชื่อว่าจะสามารถทำให้ประชาชนสามารถสมัครเข้ามาในระบบการเลือกสว. ได้เกินแสนคนแน่นอน 

แม้ว่าระบบจะมีปัญหาแต่สิ่งที่น่าสนใจจากการที่ได้ไปร่วมลงสมัครสว.ในครั้งนี้พบว่า ส่วนหนึ่งก็มีผู้สมัครที่ตื่นตัวทางการเมืองเข้ามาสมัครเป็นจำนวนไม่น้อย สิ่งที่เขาเห็นคือการทำให้ระบบที่ไม่ชอบธรรมในการเลือกสว.เดินไปได้ยากขึ้น เพราะพวกเขาไม่ได้เพียงเข้ามาร่วมเลือกแต่ยังคอยจับตากระบวนการเลือกด้วย

สำหรับในสนามการเลือกสว. จีรนุชไม่ได้เจอใครมาเสนอทาบทามตัว เพราะเธอเองก็เป็นคนที่เปิดเผยจุดยืนทางการเมืองมาตลอด แต่ได้ยินเรื่องการทุจริตมาก็พอสมควร จากคำบอกเล่าของผู้สมัครกลุ่มอื่นที่มาเล่าให้เขาฟังว่า กลุ่มเขาได้มีการจัดหาคนเข้ามาร่วมเลือกสว.ในครั้งนี้และมีค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทจ่ายให้เมื่อทำการสมัครสว.เรียบร้อยแล้ว

ในการเลือกระดับอำเภอก็พบว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ให้มีการพูดคุยแนะนำตัวกัน แต่พอพักเที่ยงพบว่าผู้สมัครยืนพูดคุยแลกคะแนนกันอย่างโจ่งแจ้งแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทำอะไร เหตุการณ์แบบนี้พบเจอในหลายพื้นที่ทั้งในและนอกกรุงเทพ ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนเข้าไปเพื่อโหวตให้กับ “ตัวจริง” ที่วางไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

ตรวจสอบยาก ภาคประชาชนมีส่วนร่วมลำบาก

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ในฐานะภาคประชาชนที่ร่วมสังเกตการณ์เล่าว่า การทำงานการจับตาตรวจสอบการเลือกสว.เป็นการทำงานเป็นไปอยากยากลำบาก โดยเฉพาะตอนระดับประเทศทางกกต.ได้จัดพื้นที่สังเกตการณ์ไว้ไกลจนไม่สามารถมองเห็นได้ อีกทั้งไม่เปิดโอกาสให้ผู้สังเกตการณ์ได้เข้าไปจับตาในพื้นที่การเลือกสว.แบบใกล้ๆได้ด้วย ทำให้ทางทีมต้องใช้ความพยายามเกินกว่าปกติในการตรวจสอบการเลือกในครั้งนี้ทั้งการจดผลคะแนนดิบ และการสังเกตพฤติกรรมของผู้สมัคร เป็นต้น

ซึ่งความผิดปกติยังพบอยู่อีกมากทั้งในส่วนของการลงคะแนนและสัดส่วนของผู้สมัครที่ได้เข้ามา สามารถอ่านต่อได้ที่นี่

รวมกันเราอยู่ แยกหมู่กันเราเป็น สว. : แกะรอยคะแนน 8 จังหวัดนำในรอบเลือกกันเอง

สว. 67: ปรากฏการณ์ สว. หกอันดับแรกคะแนนล้นกระดานในระดับประเทศ

สว.67 : เกษตรกรและผู้รับจ้างทั่วไปลงสมัครกลุ่ม “อุตสาหกรรม” ในจังหวัดบ้านใหญ่สีน้ำเงิน

สัญญาณเตือนว่าระบบมีปัญหา สนช.พูดมาตั้งแต่ตอนร่าง

ปุรวิชญ์ วัฒนสุขบอกว่า ระบบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ฉบับ 2560 นี้เป็นระบบที่มีปัญหาหลายประการได้แก่ ประการแรกไม่สามารถหาหลักการและเหตุผลใดมารองรับความชอบธรรมของระบบนี้ได้เลย ประการที่สองระบบการเลือกแบบนี้มองว่าเป็นระบบที่เละเทะและเอื้อให้เกิดการสมยอมกัน ประการที่สามจากสองเหตุผลข้างต้น เรื่องนี้ได้มีการทักท้วงจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วตั้งแต่ตอนยกร่างกฎหมาย

ปุรวิชญ์ เปิดบันทึกจากเอกสารการประชุมสนช. ครั้งที่ 68/2560 30 พฤศจิกายน 2560 วาระเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. (พ.ร.ป.สว.ฯ) ในวาระที่ 1 รับหลักการ มีสมาชิก สนช. แสดงความกังวลว่าการออกแบบให้เลือกสว. 20 กลุ่มอาจไม่ประสบความเร็จ อาจต้องทดลองก่อนนำมาใช้จริงและการแบ่งเป็น 20 กลุ่มนี้อาจทำให้เกิดการทุจริตได้ง่าย ตัวอย่างเช่น

กิตติ วะสีนนท์ สมาชิกสนช.ชี้ว่า การแบ่ง 20 กลุ่มอาชีพอาจไม่ประสบความสำเร็จเพราะฐานอาชีพและสังคมยังมีความแตกต่างอยู่มาก อาจทำให้โอกาสในการรับสมัครของบุคคลอาจไม่เท่ากัน แนวโน้มแบ่งเช่นนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกครั้งแรก ซึ่งยังต้องมีการทดลองและปรับปรุงในครั้งต่อไปเพื่อให้ร่างกฎหมายการเลือกสว.มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นหรืออาจทำเป็นเอกสารแนบท้ายเพื่อความยืดหยุ่นและสะดวกในการแก้ไขในอนาคต

กล้าณรงค์ จันทิก สมาชิกสนช. ให้ความเห็นว่า จากระบบการเลือกสว.ที่มีทั้งการเลือกในกลุ่มตัวเองและแบบไขว้ เมื่อคำนวณแล้วจะได้ผู้ได้รับคัดเลือกอย่างมาก 3,080 คน หากมีคนที่ต้องการทุจริตก็สามารถประสานงานติดต่อกับผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งหมดหรือ 770 คนในห้าสายจากทั้งหมด 20 สายอาชีพ ก็สามารถรับเลือกเป็นสว.ได้ ในอีกทางอาจทำการทุจริตโดยการส่งผู้แทนสมัครให้ได้รับเลือกใน 39 จังหวัดหรือส่งผู้แทนสมัครให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของแต่ละสายอาชีพ ก็สามารถเป็นสว.เหมือนกัน ในตัวระบบเองอาจทำให้เกิดการซื้อเสียงและบล็อกโหวตได้ง่ายด้วย

สมชาย แสวงการ อีกหนึ่งสมาชิกสนช. บอกไว้ว่า จากการเลือก สสร. 2550 ทำให้เห็นว่าเกิดการบล็อกโหวต คาดว่าเป็นการปูทางให้พรรคการเมืองสามารถส่งผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจากศักยภาพของพรรคการเมืองสามารถส่งบุคคลเข้าสมัครได้จำนวน 100-300 คนและสามารถควบคุมการเลือกได้ตั้งแต่ระดับอำเภอ จึงมีคำถามว่าร่างกฎหมายการเลือกสมาชิกวุฒิสภาฉบับนี้จะป้องกันการบล็อกโหวตได้อย่างไร

ฉะนั้นปัญหาการคัดเลือกสว. จึงไม่ได้เป็นประเด็นที่ภาคประชาชนเพิ่งพูดถึงในปี 2567 หลังการเลือกผ่านไปแล้วเท่านั้น แต่ถูกตั้งคำถามมานานแล้วตั้งแต่สมัยการยกร่างระบบนี้

ท้ายที่สุดเมื่อผ่านการพิจารณาของสนช. จึงมีการปรับเปลี่ยนเอากลุ่มอาชีพ 20 กลุ่มและการเลือกไขว้ออก แต่เมื่อส่งไปถามความเห็นของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กลับไม่เห็นด้วยกับโดยอ้างว่า จะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะจะเปิดโอกาสให้เกิดการฮั้วกันได้มากขึ้น จึงเปลี่ยนกลับมาให้เป็น 20 กลุ่มตามเดิม และให้มีเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม ซึ่งผลลัพธ์ความล้มเหลวก็ได้แสดงออกมาให้เห็นในตอนการเลือกสว.2567

เขียนรัฐธรรมนูญใหม่คือทางออก ขอภาคประชาชนเข้าไปร่วมตรวจสอบพร้อมกับกกต.

ปุรวิชญ์ให้ความเห็นเรื่องทางออกของปัญหาสว.2567 เอาไว้ว่า ระบบแบบนี้ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้เพราะการวางระบบผิดมาตั้งแต่แรกเริ่ม และไม่ตอบโจทย์ต่อระบบผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย ด้านจีรนุชมองว่า หากจะปล่อยให้ระบบการเลือกสว. แบบนี้ยังคงอยู่ต่อไปอาจทำให้ระบบการเมืองเลวร้ายลงไปอีก ฉะนั้นทางออกที่ควรจะเป็นคือการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจึงสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

ศรีไพรเสริมว่า การตรวจสอบการเลือกสว.ครั้งนี้ ประชาชนมีความเคลือบแคลงสงสัยการทำงานของกกต. เกรงว่าการตรวจสอบโดยกกต.ฝ่ายเดียวอาจไม่พอ เสนอว่ากกต.ควรเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนเข้าไปตรวจสอบด้วย

RELATED TAGS

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

วิดีโอแนะนำ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage
Trending post