หน่วยงานรัฐประสานเสียง “ไม่ยกเลิก” คำสั่ง คสช. ที่ให้สร้างโรงงานโดยยกเว้นผังเมือง เหตุกลัวเอกชนฟ้อง

ช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในทุกวันพฤหัสบดี คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน (กมธ.คำสั่งคสช.ฯ) มีนัดประชุมในวาระที่สองเพื่อพิจารณาคำสั่งหัวหน้า คสช. อย่างน้อยสามฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะกรรมาธิการจะต้องรับฟังข้อมูลและพิจารณาว่าจะยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. เหล่านี้ตามที่มีการเสนอมาหรือไม่ และถ้าหากให้ยกเลิกจะมีมาตรการป้องกันความเสียหายอย่างไร ซึ่งทั้งสามฉบับ ได้แก่

  1. คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎหมาย ว่าด้วยการผังเมืองและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตาม “มาตรา44” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกเว้นการใช้ผังเมืองรวม กฎหมายเรื่องการควบคุมอาคาร ในเขตเศรษฐกิจพิเศษรวม 10 แห่งที่เพิ่งตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุน โดยการลดข้อจำกัดทางกฎหมายเรื่องพื้นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม
  2. คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 เรื่องการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท ฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตาม “มาตรา44” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “เปิดไฟเขียว” ให้เดินหน้ากิจการที่เกี่ยวข้องการผลิตพลังงานและการจัดการขยะของเสียสิ่งปฏิกูลทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยลดข้อจำกัดทางกฎหมาย แม้ว่าเดิมพื้นที่เหล่านั้นจะเป็นพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมหรือเพื่ออนุรักษ์ชนบท ก็ให้ยกเว้นผังเมืองเพื่อสร้างโรงงานผลิตพลังงานได้ 
  3. คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ฉบับลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตาม “มาตรา44” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ปิดเหมืองทองคำ” ที่จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ เพราะเห็นว่า กิจการดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ซึ่งต่อมาถูกผู้ประกอบการ คือ บริษัทคิงส์เกต ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยให้ชดใช้ค่าเสียหาย 25,000 ล้านบาท

กมธ.คำสั่งคสช.ฯ เคยมีการกำหนดวาระการประชุมในประเด็นของคำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้งสามฉบับหลายสัปดาห์ แต่ละครั้งยังหาข้อสรุปไม่ได้เพราะมีความเห็นแตกต่างกันว่าจะยกเลิกหรือไม่ จึงมีการเชิญตัวแทนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคำสั่งเหล่านี้ให้มาชี้แจง และแสดงความเห็น ซึ่งหลายหน่วยงานไม่เห็นด้วยกับการยกเลิก หรือแสดงความกังวลว่า เนื่องจากหลังคำสั่งหัวหน้าคสช. บังคับใช้ก็มีการดำเนินการในทางปฏิบัติไปแล้ว จึงเกรงว่าการยกเลิกอาจส่งผลกระทบตามมา

ยังทำผังเมืองใหม่ไม่เสร็จ ถ้ายกเลิก 3/2559 กลัวจะเกิดสุญญากาศ

ในการประชุมวันที่ 9 มกราคม 2568 มีตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งานคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2559 ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำผังเมืองในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษทั้งสิบเขตซึ่งยังไม่เสร็จ หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 จะส่งผลให้ไม่มีกฎหมายควบคุมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่อยู่ระหว่างการจัดทําผังเมือง จะทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่อย่างไร้ทิศทาง อาจทำให้พื้นที่สีเขียวสำหรับการเกษตรถูกใช้เป็นโรงงานได้ จึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิก

ผู้แทนกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ชี้แจงสรุปว่า หากมีการยกเลิกคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 แล้วการดําเนินกิจการของเอกชนและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษไม่สามารถดําเนินกิจการต่อไปได้อาจส่งผลให้กรมธนารักษ์ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ได้รับสิทธิการเช่าที่ไม่สามารถดําเนินกิจการในพื้นที่เช่าได้ 

ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงสรุปว่าหากการยกเลิกคําสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 จะไม่มีผลกับการดําเนินกิจการที่ได้ทําไปแล้ว การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยย่อมไม่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแล้ว อย่างไรก็ตาม อาจจะส่งผลกระทบต่อการตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอื่นในอนาคต

ขณะที่ตัวแทนภาคประชาชนซึ่งติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมชี้แจงว่า หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 แล้วก็สามารถใช้กฎหมายว่าด้วยการผังเมืองและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารตามระบบกฎหมายปกติได้ การยกเลิกคําสั่งดังกล่าวไม่ส่งผลย้อนหลัง และการยกเลิกคําสั่งดังกล่าวจะทําให้สามารถจัดทําผังเมืองได้อย่างอิสระไม่ถูกจํากัด โดยในช่วงเวลาที่ยังไม่มีการจัดทําผังเมืองใหม่ สามารถนําผังเมืองเดิมมาใช้ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้ ควรมีการทบทวนการจัดทําผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยการจัดทําผังเมืองนอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแล้ว ควรต้องพิจารณาเรื่องอื่นๆ ประกอบด้วย รวมทั้งควรเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือชุมชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 

ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติชี้แจงว่า คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติได้ มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ดำเนินการวางผังเมือง ซึ่งรวมถึงการทำผังเมืองในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้วย แต่เนื่องจากการดำเนินการจัดวางผังเมืองยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่ควรยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 เพราะหากยกเลิกจะทำให้เกิดภาวะสุญญากาศเนื่องจากไม่มีกฎหมายควบคุมผังเมือง แม้จะกำหนดให้นำผังเมืองรวมของจังหวัดมาใช้บังคับเป็นการชั่วคราว แต่มีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการจัดทำผังเมือง

หน่วยงานรัฐประสานเสียง “ไม่ยกเลิก” คำสั่ง คสช. ที่ให้สร้างโรงงานโดยยกเว้นผังเมือง เหตุกลัวเอกชนฟ้อง

กมธ. ประสานเสียงไม่ยกเลิก 3/2559 แต่ให้เพิ่มข้อสังเกตเท่านั้น

ในการประชุมวันที่ 9 มกราคม 2569 เอกสิษฐ์ อัครศักดิ์กีรติ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า กล่าวว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2559 มีเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค กลไกของคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 กำหนดให้มีการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อให้สามารถกำหนดรายละเอียดต่างๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละท้องที่ ดังนั้น หากยกเลิกย่อมส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นต่อไปได้ จึงควรคงคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับดังกล่าวไว้จนกว่าจะดำเนินการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้แล้วเสร็จ 

ด้านก่อแก้ว พิกุลทอง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง กล่าวว่า การยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 อาจทำให้ไม่สามารถจัดทำผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ บริเวณชายแดน จึงเห็นควรคงคำสั่งฉบับนี้ไว้ และหากจะกำหนดกรอบเวลาให้เร่งจัดทำข้อบัญญัติท้องถิ่นโดยเร็วก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการกดดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากเกินไป และการจัดทำผังเมืองต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก

พลตำรวจตรี คมกฤษ ไวสืบข่าว กรรมาธิการ กล่าวว่า ควรคงคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 ไว้ เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถจัดทำกฎกระทรวง เพื่อบังคับใช้ผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง หรือออกกฎกระทรวงและข้อบัญญัติท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จได้อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาต ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว

จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการกล่าวว่า ความเห็นที่เสนอให้กำหนดมาตรการเร่งรัดการจัดทำผังเมืองใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วนั้น ควรจัดทำเป็นข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2559 อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการออกกฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติท้องถิ่น จึงเห็นว่า ควรคงคำสั่งฉบับนี้ไว้จนกว่าหน่วยงานจะดำเนินการจนแล้วเสร็จ

ยกเลิก 4/2559 กิจการเดิมก็ยังเดินต่อได้ แต่ยังหวั่นกระทบโครงการด้านพลังงาน

ผู้แทนภาคประชาสังคม ชี้แจงว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 ที่ให้ยกเว้นการบังคับใช้ผังเมืองในการก่อสร้างโรงงานด้านกิจการพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก เนื่องจากไม่มีกลไกการประเมินศักยภาพของแต่ละพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมต่อการประกอบกิจการตามที่มีการขออนุญาตหรือไม่ จึงเห็นควรให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับนี้

เลขานุการคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 มีผู้ประกอบกิจการพลังงานมายื่นขอใบอนุญาตต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเพื่อขอยกเว้นไม่ต้องใช้ผังเมือง จำนวน 210 ราย หมายความว่า หากมีการยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวจะยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่ประเด็นที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือ โครงการด้านพลังงานลำดับที่ 211 ถึงลำดับที่ 416 เป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 จะส่งผลให้ไม่ได้รับยกเว้นผังเมืองและต้องกลับไปใช้ผังเมืองเดิม ทั้งนี้ หากคณะกรรมาธิการสามารถยกเลิกคำสั่งดังกล่าวได้ โดยมีบทบัญญัติรองรับผู้ประกอบกิจการ จำนวน 210 ราย แต่ไม่สามารถเขียนบทบัญญัติรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ผู้อำนวยการกองนิติการ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ปัจจุบันยังมีผังเมืองที่ได้รับการยกเว้นโดยอาศัยอำนาจคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 ซึ่งไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติการผังเมือง อยู่ทั้งสิ้น 164 ผังเมือง จากผังเมืองทั้งหมดในประเทศไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน 306 ผังเมือง หากโครงการต่างๆ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนจนได้รับใบอนุญาตแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอาศัย อำนาจของคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 อีกต่อไป หากโครงการใดได้รับอนุญาตภายในวันที่ 20 มกราคม 2560 ย่อมได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562

ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า จำเป็นต้องอาศัยอำนาจของคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 เพื่อยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวง ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม เพื่อเปิดโอกาสให้อาคารธุรกิจรวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมสามารถใช้พลังงาน ทดแทนและพลังงานทางเลือกได้โดยการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (solar cell rooftop) 

ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน กระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 มีผู้ประกอบกิจการที่เข้าข่ายเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานมายื่นขอใบอนุญาตเพื่อขอยกเว้นการใช้บังคับผังเมือง 210 ราย และมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน 29 โครงการ ซึ่งคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงานได้ออกใบอนุญาตแล้ว 4 โครงการ อยู่ระหว่างการดําเนินการ 25 โครงการ หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 อาจกระทบกับโครงการดังกล่าว แม้ว่าการยกเลิกจะไม่มีผลย้อนหลัง แต่อาจกระทบกับโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนที่อยู่ระหว่างการจัดทํารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อประกอบการขอใบอนุญาต อาจจะทําให้โครงการดังกล่าวไม่สามารถดําเนินการต่อไปได้และอาจทําให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายฟ้องร้องหน่วยงานภาครัฐ

ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ยังมีความจำเป็นต้องคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 ในการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำเขื่อนสิรินธรจำนวนสอง โครงการ หากมีการยกเลิกคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากต้องมีการปรับแก้ไขผังเมืองรวมเฉพาะบริเวณซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการตามขั้นตอน

เจ้าของโรงงานชี้ ผังเมืองปกติไม่อัพเดท จำเป็นต้องยกเว้นเพื่อติด Solar Cell

ในการประชุมวันที่ 16 มกราคม 2568 กมธ.คำสั่ง คสช. ยังเชิญตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการพลังงานและคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 เข้าชี้แจงต่อ โดยเชิญตัวแทนภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบกิจการพลังงานและได้รับใบอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 เข้าให้ข้อมูลด้วย

ผจญ ศรีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ทเทิร์น ไบโอแก๊ซ จำกัด ชี้แจงว่า ในอดีตประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมการจัดเขตผังเมืองจึงประกอบด้วยเขตพื้นที่สีขาว ซึ่งเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์และการเกษตรกรรม และเขตพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นเขตพื้นที่ชนบทและการเกษตรกรรม เพื่อการสงวนรักษาสภาพทางธรรมชาติเท่านั้น ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมเกษตร ทำให้ต้องมีการจัดตั้งโรงงานบางส่วนในเขตพื้นที่สีขาวทแยงเขียวหรือสีเขียว จึงจำเป็นต้องมีการยกเว้นกฎหมายผังเมือง ในการจัดตั้งโรงผลิตไฟฟ้าก๊าซชีวภาพต้องว่าจ้างที่ปรึกษาในการจัดทำการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม 500,000-1,000,000 บาทเพื่อประกอบการขออนุญาต หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 ย่อมส่งผลกระทบแน่นอน การต่อใบอนุญาตและการขยายกำลังการผลิตอาจไม่สามารถทำได้ จึงควรมีบทรองรับที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของประเทศ

นริศา วงษ์จันทร์เพ็ญ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด ชี้แจงว่า กฎหมายผังเมืองเดิมกำหนดให้การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์เป็นการประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้า ทำให้ไม่สามารถนำแผงเซลล์แสงอาทิตย์มาติดตั้งเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย บางทีต้องขออนุญาตใช้เวลานาน จึงต้องใช้คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 มายกเว้นให้ และไม่เห็นด้วยกับการยกเลิก

สุรชิต อิศรางค์กูล ณ อยุธยา ที่ปรึกษา บริษัท เกรียงไกร สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยมีเจตนา เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทำให้ต้องมีการขอออกใบอนุญาตใช้เวลาสองปี ใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หากยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. 4/2559 อาจทำให้โรงงานที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ถูกตีความว่าเป็นโรงผลิตไฟฟ้าที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ 

กมธ.เสียงแตก ยกเลิก 4/2559 แล้วจะต้องคุ้มครองผู้ประกอบการอย่างไร

ในการประชุมวันที่ 9 มกราคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ โฆษกคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีโรงงาน ลำดับที่ 105 โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยกหรือฝังกลบสิ่งปฎิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และโรงงานลำดับที่ 106 ประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ดังนั้น ควรยกเลิกคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 แล้วกลับไปใช้กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในอนาคต

ก่อแก้ว พิกุลทอง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง กล่าวว่า หากจะยกเลิกคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 จะเห็นว่าโครงการที่ได้รับผลกระทบจะเป็นโครงการด้านพลังงาน โดยในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ การผลิตติดตั้งหนึ่งเมกะวัตต์จะใช้เงินลงทุนประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าการลงทุนในโครงการด้านพลังงานแต่ละโครงการมีจำนวนการลงทุนที่สูง ดังนั้น การจะยกเลิกคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 โดยไม่มีความชัดเจน อาจทำให้เกิดปัญหากับผู้ประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานของรัฐได้ 

พลตำรวจตรี ธรรมนูญ มั่นคง ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ คนที่สอง กล่าวว่า คําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2559 ทำให้เกิดการยกเว้นการใช้บังคับผังเมืองซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดิน ไม่ตรงตามการแบ่งสีของที่ดิน ดังนั้น จึงควรยกเลิกเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่ตรงตามการแบ่งสีของที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองในอนาคต และกลับมาใช้ผังเมืองตามกฎหมาย ส่วนกรณีกิจการที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้นก็ให้เขียนบทบัญญัติรองรับให้ยังคงมีอยู่เท่าที่จำเป็นและควบคุมให้การใช้ประโยชน์ที่ดินกลับเข้าสู่ระบบกฎหมายปกติด้วย 

จาตุรนต์ ฉายแสงประธานคณะกรรมาธิการกล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า โครงการด้านพลังงานที่ได้ดำเนินการไปแล้วย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่โครงการด้านพลังงานที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานแล้วแต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต รวมถึงโครงการด้านพลังงานที่อยู่ระหว่างการพิจารณารับรอง จะต้องพิจารณาว่า จะเขียนบทบัญญัติรองรับสำหรับผู้ประกอบกิจการที่อยู่ระหว่าง การเตรียมการโครงการหรือผู้ประกอบการที่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตไว้ก่อนหรือไม่ และกรณีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตแล้วต้องการขยายกิจการจะดำเนินการอย่างไร

มติที่ประชุมจากการประชุมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 โดยให้เลขานุการยกร่างบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองผลกระทบต่อผู้ประกอบการมานำเสนอในที่ประชุมต่อไป

อัยการหวั่น หากยกเลิกคำสั่งปิดเหมืองทอง รัฐไทยอาจแพ้คดี

ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กมธ.คำสั่งคสช.ฯ มีนัดพิจารณาคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 ที่สั่งให้มีการ “ปิดเหมืองทองคำ” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการ จึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล อานันท์ ฟักสังข์ รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากกรณีที่มีข้อคัดค้านและข้อร้องเรียนว่าเหมืองแร่ทองคำส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน จึงได้มีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบ

หลังจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับนี้ ทำให้เกิดประเด็นข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติออสเตรเลีย ที่ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลไทยต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ (คณะตุลาการที่ไม่ใช่ศาลของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่คู่กรณีตกลงร่วมกันให้ตั้งขึ้นเพื่อชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างกัน) อานันท์ ชี้แจงว่า ได้มีหนังสือหารือไปยังที่ปรึกษากฎหมายถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกคำสั่ง ได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นว่าอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม ควรยกเลิกหลังจากประเด็นข้อพิพาทยุติแล้วซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า

สุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า กรมสนธิสัญญาและกฎหมายเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายให้ ดำเนินการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้น และมีหน้าที่ดูแลเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างประเทศไทยกับประเทศออสเตรเลีย ขอสนับสนุนความเห็นของผู้แทนกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ว่าให้ยกเลิกหลังข้อพิพาทต่างๆ ยุติแล้ว 

จันทิมา ธนาสว่างกุล อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายในการระงับและชะลอการดำเนินการเหมืองแร่ เพื่อให้มีการกำหนด มาตรการควบคุมที่เหมาะสม และเพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น การจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าว เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและอาจทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีและการเจรจา หากต้องการจะยกเลิกก็ควรต้องมีการยกร่างบทบัญญัติรองรับการดำเนินคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาล การเจรจาข้อพิพาทในชั้นอนุญาโตตุลาการ รวมทั้งผลของการกระทำทั้งหลายที่เกิดขึ้นจากคำสั่งฉบับนี้

พัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทขึ้นต่อสู้คดี โดยได้รับการชี้แนะจากอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศว่าควรเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน โดยประเทศไทยได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด จำนวนมาก จนกระทั่งบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาประกอบกิจการใหม่แล้ว อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 อาจส่งผลกระทบต่อการต่อสู้คดีเพราะบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ยกข้อต่อสู้ว่าการสั่งระงับการประกอบกิจการของรัฐไทยไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายปกติ (Due Process of Law) ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้ต่อสู้คดีว่าการสั่งระงับการประกอบกิจการเนื่องจากเกิดวิกฤติการณ์ที่เป็นปัญหาระดับชาติ กระบวนการทางกฎหมายปกติไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น หากมีการยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 อาจส่งผลต่อรูปคดีได้ เนื่องจากจะขัดแย้งกับแนวทางการต่อสู้คดีที่ผ่านมา

เมื่ออนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัย ชี้ขาดแล้ว หากรัฐไทยไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยจะต้องขอเพิกถอนคำวินิจฉัยต่อศาลในต่างประเทศ หรือ หากไม่ขอเพิกถอนคำวินิจฉัย อีกฝ่ายก็จะไปขอบังคับให้เป็นไปตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อไป ซึ่งการดำเนินกระบวนการข้างต้นอาจใช้ระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี จึงจะได้ข้อยุติ ดังนั้น การจะยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับนี้หรือไม่ ต้องพิจารณาให้รอบคอบมากที่สุด

กมธ. เสียงแตก ถ้ายกเลิก 72/2559 จะแพ้คดีจริงหรือไม่ ประธานสรุปเสียงส่วนใหญ่ให้คงไว้

ในการประชุมวันที่ 23 มกราคม 2568 รังสิมันต์ โรม กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงเพียงว่าการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อการต่อสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ แต่ไม่มีการให้รายละเอียดว่าส่งผลกระทบอย่างไร ทำให้ขาดความชัดเจน และการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงสามารถยกเลิกได้ การไม่ยกเลิกอาจเพื่อต้องการคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้หรือผู้ออกคำสั่ง ซึ่งเห็นว่า เมื่อมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ก็ควรที่จะดำเนินการกับผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นด้วย

ผศ. จันทจิรา เอี่ยมมยุรา กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่จะมีผลต่อรูปคดี คือ การที่กระทรวงอุตสาหกรรมอนุญาตให้ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) กลับมาดำเนินกิจการ เพราะสิ่งนี้คือการยืนยันว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายปกติ ส่วนกรณีการยกเลิกคำสั่งเห็นว่า จะไม่ส่งผลต่อรูปคดี

พลตำรวจตรี คมกฤษ ไวสืบข่าว กรรมาธิการ กล่าวว่า ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดได้แสดงความห่วงกังวลในเรื่องการชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ โดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอนุญาโตตุลาการจะพิจารณาชี้ขาดเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อรัฐบาลไทย แต่เห็นว่าการคงคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 ไว้จะเป็นคุณกับรัฐบาลไทย ในการต่อสู้คดีมากกว่า หากรัฐบาลไทยแพ้คดีจะทำให้ค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เพิ่มมากขึ้น 

ก่อแก้ว พิกุลทอง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง กล่าวว่า คดีนี้มีค่าความเสียหายสูง ประกอบกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติออสเตรเลียเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ย่อมต้องสู้คดีเพื่อปกป้องผลประโยชน์อย่างเต็มที่ ดังนั้น หากมีข้อเท็จจริงใหม่ที่อาจจะส่งผลต่อคดี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ย่อมต้องยกเรื่องดังกล่าวมาเป็นข้อต่อสู้ ประกอบกับผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดมีความห่วงกังวลว่า การยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 อาจส่งผลต่อรูปคดี ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย จึงเห็นว่าต้องคงไว้

ในการประชุมวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 หลังฟังความเห็นผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้ง จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานในที่ประชุมได้ขอให้กรรมาธิการทุกคนแสดงความเห็น โดยไม่ได้ลงมติ เพราะเห็นว่า หากมีการยกเลิกคำสั่งฉบับนี้ คณะกรรมาธิการและสภาผู้แทนราษฎรอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คู่กรณีอีกฝ่ายมีข้อต่อสู้ จนนำไปสู่การแพ้คดีหรือไม่ ส่วนการไล่เบี้ยค่าเสียหายหากรัฐไทยแพ้คดีนั้นหัวหน้า คสช. ผู้ออกคำสั่งจะไม่มีทางถูกไล่เบี้ยให้ชำระค่าเสียหายได้เลยเพราะมีรัฐธรรมนูญมาตรา 279 คุ้มครองไว้แล้ว จากนั้นกรรมาธิการแต่ละคนจึงแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เช่น

พลตำรวจตรี ธรรมนูญ มั่นคง ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ คนที่สอง กล่าวว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 ในปัจจุบันไม่มีผลใช้บังคับต่อไปในอนาคต ดังนั้น การคง คำสั่งไว้ย่อมไม่มีผลเสียหายแต่อย่างใด

ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า จากข้อห่วงใยของผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐไทยในการต่อสู้คดี ควรให้คณะผู้แทนไทยได้มีเครื่องมือในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และหากยกเลิกคำสั่งฉบับนี้แล้วมีผลต่อการต่อสู้คดี คณะกรรมาธิการย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกรณีดังกล่าว จึงควรคงคำสั่งฉบับนี้ไว้

นัจมุดดีน อูมา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม กล่าวว่า ในช่วงการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมกับสส.พรรคภูมิใจไทยได้ร่วมกันเสนอให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 หากคณะกรรมาธิการรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านแล้วเห็นว่า จำเป็นต้องคงคำสั่งฉบับใดไว้ พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ติดใจแต่อย่างใด

จากนั้นประธานในที่ประชุมจึงสรุปว่า เสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมาธิการเห็นว่าให้คงคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 72/2559 ไว้

*หมายเหตุ* กรณีของการปิดเหมืองแร่ทองคำ ตัวแทนของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ยังกล่าวถึงประเด็นการฟ้องร้องและการต่อสู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ ซึ่งขอให้เรื่องของคดีเป็นความลับและไม่ปรากฏในบันทึกการประชุม ด้านสำนักงานอัยการได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด กับราชอาณาจักรไทย เพื่อให้คณะกรรมาธิการพิจารณา โดยขอให้เป็นข้อมูลความลับที่ไม่อาจนำไปเปิดเผยนอกห้องประชุมได้

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

วิดีโอแนะนำ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage
Trending post