ตามคาด! สภาล่มต่อวันที่สอง ไม่ได้เริ่มแก้รัฐธรรมนูญ ตั้ง สสร. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่

14 กุมภาพันธ์ 2568 รัฐสภาถกซ้ำประเด็นการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญสองฉบับที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย โดยสาระสำคัญของร่าง คือ การปลดล็อกรัฐธรรมนูญ 2560 ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้งทำหน้าที่ในการรางรัฐธรรมนูญใหม่ ในวันแรกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อเริ่มประชุมไปได้เพียงสองชั่วโมงครึ่ง การประชุมก็ต้องจบลงเพราะ “สภาล่ม” และนัดประชุมใหม่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น.

Untitled Artwork

ห้องสุริยันเปิดประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. ทว่าจำนวนสมาชิกรัฐสภาไม่ครบตามจำนวนองค์ประชุมจึงรอไปจนถึงเวลา 09.44 น. ผลการแสดงตนปรากฏว่า มียอดรวมผู้มาประชุม 538 คน จากจำนวน สมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 692 คน แบ่งเป็น สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 177 คน และ สส. 361 คน

ดังนั้น วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดประชุมรัฐสภาและแจ้งว่าองค์ประชุมครบแล้ว ด้านวรวงศ์ วรปัญญา สส. พรรคเพื่อไทยขอให้รอสมาชิกคนอื่นๆ ก่อน เนื่องจากสมาชิกกำลังเดินทางมา และประธานรัฐสภาชี้แจงว่ามีเวลาอภิปราย 19 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นประธานที่ประชุมหนึ่งชั่วโมง สว. หกชั่วโมง สส. พรรคร่วมรัฐบาลหกชั่วโมง สส. พรรคฝ่ายค้านหกชั่วโมง

ชลน่าน ศรีแก้ว สส. พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นหารือ แต่ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. พรรคประชาชนเสนอว่าเมื่อเข้าวาระแล้วควรให้ผู้เสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญได้นำเสนอก่อน จากนั้นชลน่าน ศรีแก้วจึงประท้วงต่อประธานรัฐสภา โดยกล่าวว่าการประชุมไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบด้วยระเบียบวาระ วันมูหะมัดนอร์ มะทาจึงชี้แจงว่าเมื่อลงชื่อครบแล้วก็ย่อมครบองค์ประชุมแล้ว

เวลา 09.57 น. ประธานรัฐสภา วินิจฉัยให้เสียบบัตรนับองค์ประชุมอีกครั้ง ด้าน สว. นันทนา นันทวโรภาส ลุกขึ้นเสนอแนะให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ ก่อนที่ชลน่าน ศรีแก้ว จะขึ้นมาอธิบายต่อประธานรัฐสภา ว่าข้อบังคับกำหนดให้การออกเสียงต้องใช้การเสียบบัตรแสดงตน แต่การขานชื่อที่ประชุมสภาต้องอนุมัติ ดังนั้นก่อนจะอนุมัติที่ประชุมต้องนับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตรแล้วค่อยขานชื่อ

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ลุกขึ้นกล่าวโดยมีใจความว่าในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านวันนี้ไม่ได้มีการประสานงานระหว่างวิปทุกฝ่าย จึงขอให้พักการประชุมและให้วิปทั้งสองฝ่ายมาประชุมร่วมกัน บรรยากาศในห้องประชุมมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยกมือขออภิปรายจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งในเวลา 10.10 น. ประธานรัฐสภา วินิจฉัยให้พักการประชุม 20 นาที

หลังพักการประชุม วัชระพล ขาวขำ สส. พรรคเพื่อไทย เสนอให้พิจารณาญัตติของชลน่าน ที่ขอนับองค์ประชุมก่อน และญัตติ สว. นันทนา ที่ขอนับองค์ประชุมด้วยการขานออกเสียง เมื่อนับองค์ประชุมเพื่อจะพิจารณาญัตติดังกล่าว พบว่ามีผู้มาเสียบบัตรแสดงตน 176 คน องค์ประชุมไม่ครบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาซึ่งต้องการ 346 คน ประธานรัฐสภาจึงสั่งปิดการประชุมเวลา 10.47 น. หลังใช้เวลาคุยกันไปแค่หนึ่งชั่วโมงเศษๆ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage
Trending post