13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 12.30 น. ที่หน้าอาคารรัฐสภา ฝั่งถนนสามเสน เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ #Conforall ยื่นหนังสือเรื่อง ขอให้ลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256 เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และรายชื่อในแคมเปญ “ผ่าน 256 สักที อยากมีสสร. เลือกตั้ง” ต่อสส.พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทยและกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ โดยมีข้อเรียกร้อง เช่น ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลควรรักษาคำพูดที่แถลงนโยบายไว้ และแสดงความจริงใจด้วยการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้งสสร. ฉบับของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาพร้อมกัน เพื่อดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลนี้ และยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งในปี 2570 (อ่านแถลงการณ์ด้านล่าง)

พริษฐ์ วัชรสินธุ์ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่อออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนเรื่องของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ความจริงเรายังมีลุ้นกันอีกในหนึ่งวันและยังหวังว่า ทางผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่เตรียมอภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญจะมีโอกาสจะฉายภาพให้ประชาชนได้เห็น เขาสรุปเหตุการณ์สภาล่มเมื่อเวลา 12:02 น. ว่า แม้ว่าจะมีบางฝ่ายพยายามจะบอกว่า สิ่งที่รัฐสภาดำเนินการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 แต่เขายืนยันว่า รัฐสภาดำเนินการเป็นไปตามคำวินิจฉัย สาระสำคัญของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคือ ชัดเจนว่ารัฐสภามีอำนาจในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “ได้” แต่มีเงื่อนไขแค่ว่า ต้องมีการทำประชามติถามประชาชนหนึ่งครั้งก่อนและเมื่อจัดทำฉบับใหม่เสร็จแล้ว ถามประชาชนอีกหนึ่งครั้ง
ซึ่งหากวันนี้รัฐสภาเดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยและมีมติรับหลักการรวมไปถึงเห็นชอบในวาระสองและสามตามมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสสร. ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันทีแต่ต้องมีการจัดทำประชามติก่อนหนึ่งครั้งเพื่อถามประชาชนว่า เห็นชอบการให้สสร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญตามที่รัฐสภาเห็นชอบหรือไม่ ดังนั้นจะเห็นว่า ทั้งหมดที่เรานำเสนอนั้นเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564
“ผมอยากทิ้งท้ายโดยการชวนทุกท่านคิดแบบนี้ว่า สิ่งที่เราเห็นกันในสภาเมื่อสักครู่นี้มันเป็นข้อถกเถียงเรื่องของความเห็นทางกฎหมายหรือมันคือข้อถกเถียงเรื่องเจตจำนงทางการเมืองกันแน่ ผมเชื่อว่า มีสมาชิกรัฐสภาบางคนที่มีความกังวลในเรื่องของข้อกฎหมายจริงๆ แล้วความจริงวันนี้พวกเราทุกคนก็เตรียมมานำเสนอเหมือนกับที่ผมได้สรุปเมื่อสักครู่ว่า ทำไมสิ่งที่เราเสนอไม่ได้ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ผมก็เชื่อเช่นกันว่า มีสมาชิกรัฐสภาบางคนที่ลึกๆแล้วไม่ได้อยากจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่ว่าก็ต้องพยายามจะหาข้อกังวลให้ได้เพื่อพยายามจะใช้ช่องทางในการยื่นศาลในการชะลอการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และดึงสังคมมาถกเถียงในเรื่องเทคนิคทางกฎหมายแทนที่จะมาถกเถียงกันเรื่องสาระสำคัญว่า ทำไมเราควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำไมรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะช่วยแก้ปัญหาการทุจริตได้ดียิ่งขึ้น ทำไมการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะช่วยส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน”
การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่แพทองธาร ชินวัตรมาแถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนกันยายน 2567 พริษฐ์ตั้งคำถามว่า “ท่านนายกฯได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นผมต้องถามกลับไปว่า ภายใต้ความเห็นต่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่เราเห็นอยู่ในวันนี้ ท่านนายกฯได้พยายามคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อประสานความเห็นต่างตรงนี้และผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างเป็นเอกภาพระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆหรือไม่ ท่านจะอ้างไม่ได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของพรรคการเมืองในเมื่อเราอยู่ในระบบรัฐสภาที่นายกฯถูกแต่งตั้งและอยู่ได้รับความไว้วางใจจากสภา และเมื่อนายกฯแถลงต่อรัฐสภามันเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง”
“และถ้าจะบอกว่า โจทย์ในการโน้มน้าวสว. ไม่ใช่เรื่องของนายกฯ ผมต้องเรียนตามตรงว่า ตอนนี้สังคมจำนวนมากก็เชื่อว่า ความเห็นต่างระหว่างสส.สว. ก็มีต้นตอเดียวกันระหว่างความเห็นต่างของพรรคร่วมรัฐบาล ดังนั้นจากวันนี้ถึงเช้าวันพรุ่งนี้ผมขอเรียกร้องไปที่ท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลผสมชุดนี้ ในฐานะคนที่มาสภาครั้งล่าสุดเพื่อมาแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาและประชาชนว่า จะเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุดให้รีบคลายข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรากำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งก็สอดคล้องกับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยมาตลอด…”
ด้านลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์และชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยมารับหนังสือจากเครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ลิณธิภรณ์กล่าวว่า “สำหรับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเราก็ยังคงยืนยันในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ…จริงๆในสมัยประชุมที่แล้ว ในสมัยรัฐบาลที่แล้วเราก็ได้เดินหน้าเรื่องนี้มาก่อน แต่เนื่องจากความกังวลของพรรคและบางส่วนของสว.เรื่องของการให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในอำนาจของประธานและความไม่แน่ชัดในเรื่องของประชามติ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยเรื่องนี้มา การเสนอญัตติด่วนของสว.ในวันนี้ก็เป็นมติที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่า จะเป็นการชะลอและเป็นการหาทางออกร่วมกันก่อนเพื่อให้มีความชัดเจน ดังนั้นในการเสนอญัตติด่วนพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการนำญัตติด่วนของสว.ไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อผลออกมาว่า ญัตติไม่ผ่านคือตกไป…”
“ทางพรรคเพื่อไทยเมื่อกี้ได้มีการแถลงไปแล้ว เราก็ยังเดินหน้าแต่ขอพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะในสถานการณ์ที่เราประเมินเรายอมรับว่า จะมีเสียงสว.ไม่ถึง 67 เสียงในการผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขฉบับนี้ หากยังฝืนเดินหน้าต่ออาจจะเป็นปัจจัยให้เราจะต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นทางพรรคคิดว่า เดี๋ยววันนี้จะมีการประชุมและมีการพูดคุยกัน สำหรับการประชุมในวันพรุ่งนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังยืนยันว่า จะยังมาสภาเพราะว่า ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราหาเสียงไว้ และนำเรียนด้วยความเคารพต่อพี่น้องประชาชน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราอยากแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ด้วยการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในหลายๆเรื่องและมาตรฐานทางจริยธรรมที่เรามองว่า เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง เราไม่ได้ละเลยต่อเรื่องนี้ขอยืนยัน แต่เนื่องด้วยวิธีการที่ความขัดแย้งและยังไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญจึงทำให้เกิดความกังวลในบางส่วน”
ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนแล้วว่า รัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้และเรื่องการทำประชามติกี่ครั้งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า สองครั้ง โดยวันที่ 12 สิงหาคม 2564 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดทำและเผยแพร่ภาพอินโฟกราฟฟิก อธิบายคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ว่ารัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ และวาดผังขั้นตอนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่แสดงว่ามีการทำประชามติทั้งหมดสองครั้ง ในข้อถกเถียงประเด็นนี้จึงชัดเจนว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชัดเจน เป็นที่ยุติแล้ว ไม่ต้องถกเถียงกันอีก (อ่านบทความ)
ไฟล์แนบ
- แถลงการณ์ Conforall (53 kB)