เปิดชื่อ 19 สว. 67 เคยประกาศจุดยืนเห็นด้วย “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ” ต้องการอีกอย่างน้อย 48 เสียง ถึงจะผ่าน!

สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน จากระบบแบ่งกลุ่ม –  เลือกกันเอง เป็นคีย์แมนสำคัญของเส้นทางการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 วางเงื่อนไขให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะผ่านด่านแรกไปได้ ต้องใช้เสียง สว. โหวต “เห็นชอบ” หนึ่งในสาม หรือ 67 เสียง โดยวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภาจะพิจารณาข้อเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน วาระนี้เป็นนัดสำคัญที่จะส่งผลให้การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เริ่มต้นเดินหน้าได้ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าในปี 2570 และเป็นวาระพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญครั้งแรก ของ สส. และ สว. ชุดนี้

ย้อนกลับไปช่วงแนะนำตัวผู้สมัคร สว. 2567 ก่อนกระบวนการเลือกกันเอง เว็บไซต์ https://senate67.com เปิดให้ผู้สมัครแนะนำตัว-ประกาศจุดยืนในหลากประเด็น หนึ่งในนั้นคือจุดยืนเรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดย สสร. จากการเลือกตั้งโดยประชาชน มี สว. อย่างน้อย 19 คน ที่เคยแสดงจุดยืนว่าต้องการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ได้แก่

  1. ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กลุ่ม 3 การศึกษา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
  2. วีระพันธ์ สุวรรณนามัย กลุ่ม 4 สาธารณสุข จากอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
  3. ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ กลุ่ม 7 ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน จากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
  4. แล ดิลกวิทยรัตน์ กลุ่ม 7 ลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงาน จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
  5. เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน จากอำเภอเมืองสมุทรปราการ  จังหวัดสมุทรปราการ 
  6. นรเศรษฐ์ ปรัชญากร กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการ SMEs จากเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
  7. นิคม มากรุ่งแจ้ง กลุ่ม 10 ผู้ประกอบกิจการอื่น จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
  8. ประทุม วงศ์สวัสดิ์ กลุ่ม 11 ท่องเที่ยว โรงแรม จากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
  9. มานะ มหาสุวีระชัย กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จาก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
  10. วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีจากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
  11. ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา กลุ่ม 15 ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น จากอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
  12. ชวพล วัฒนพรมงคล กลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 
  13. ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
  14. อังคณา นีละไพรจิตร กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
  15. ประภาส ปิ่นตบแต่ง กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
  16. เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
  17. นันทนา นันทวโรภาส กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภอพระนคร กรุงเทพมหานคร
  18. สุนทร พฤกษพิพัฒน์ กลุ่ม 19 อาชีพอิสระ จากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 
  19. เอกชัย เรืองรัตน์ กลุ่ม 20 อื่นๆ จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 

หลังจบกระบวนการเลือกกันเอง และ สว. เริ่มทำหน้าที่ในสมัยประชุมแรก ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 ตุลาคม 2567 ผลงานของ สว. ในประเด็นเกี่ยวกับการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดคือ พิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 (พ.ร.บ. ประชามติฯ) โดยเสียงข้างมากของ สว. ชุดนี้ “แผลงฤทธิ์” พลิกกลับแนวทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่าย สส. เห็นว่าต้องยกเลิกเงื่อนไขเสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) และเปลี่ยนไปใช้เงื่อนไขเสียงข้างมากธรรมดาแทน เพื่อให้การทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อมาถึงชั้น สว. ก็ถูกพลิกมติกลับให้ไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) เหมือนเดิม สุดท้ายร่างพ.ร.บ. ประชามติฯ ก็ถูกยับยั้งไว้ 180 วัน

เมื่อสำรวจว่า สว. ที่เคยแสดงจุดยืนว่าว่าต้องการเห็นรัฐธรรมนูญใหม่ 19 คน โหวตอย่างไรในประเด็นเสียงข้างมากธรรมดา-เสียงข้างมากสองชั้น พบว่า สว. เหล่านี้ มีแนวทางลงมติการลงมติแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่ 10 คน ยังยืนยันหลักการให้ใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวก็พอเพื่อให้ประชามติทำได้ง่าย ขณะที่อีกหกคน แนวโน้ม “ไหลตาม” สว. ส่วนใหญ่ คือ โหวตพลิกกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้น มีสองคนที่งดออกเสียง และหนึ่งคนที่ไม่ได้มาลงมติ

สว. ที่ไม่เห็นชอบ ยืนยันให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากธรรมดาก็พอ

  1. แล ดิลกวิทยรัตน์ กลุ่มที่ 7 ลูกจ้าง จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
  2. เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ กลุ่ม 8 สิ่งแวดล้อม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน จากอำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 
  3. นรเศรษฐ์ ปรัชญากร กลุ่ม 9 ผู้ประกอบการ SMEs จากเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 
  4. ประทุม วงศ์สวัสดิ์ กลุ่ม 11 ท่องเที่ยว โรงแรม จากอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 
  5. ประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ 
  6. อังคณา นีละไพรจิตร กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 
  7. ประภาส ปิ่นตบแต่ง กลุ่ม 17 ประชาสังคม จากอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 
  8. เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม 
  9. นันทนา นันทวโรภาส กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน นักเขียน จากเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 
  10. สุนทร พฤกษพิพัฒน์ กลุ่ม 19 อาชีพอิสระ จากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 

สว. ที่เห็นชอบให้พลิกมติกลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แก่

  1. วีระพันธ์ สุวรรณนามัย กลุ่มที่ 4 สาธารณสุข จากอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
  2. ปิยพัฒน์ สุภาวรรณ กลุ่มที่ 7 ลูกจ้าง จากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
  3. มานะ มหาสุวีระชัย กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
  4. วุฒิพงษ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. กลุ่ม 13 วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี จากอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
  5. ยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา กลุ่ม 15 ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื่น จากอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
  6. ชวพล วัฒนพรมงคล กลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

สว. ที่งดออกเสียงในประเด็นการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯ

  1. ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ กลุ่มที่ 3 การศึกษา จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
  2. นิคม มากรุ่งแจ้ง กลุ่ม 10 ผู้ประกอบกิจการอื่น จากอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

สว. ที่ไม่ได้มาร่วมลงมติในวาระการแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติฯ

  1. เอกชัย เรืองรัตน์ กลุ่ม 20 อื่นๆ จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

ผลการลงมติในวาระสำคัญในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นตัวชี้วัดว่า สว. 67 ทั้ง 19 คน รวมถึง สว. คนอื่นทั้งที่เคยแสดงจุดยืน และไม่เคยแสดงจุดยืนประเด็นดังกล่าว จะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางไหน

ชวนติดตามประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดสำคัญครั้งนี้ ว่า สว. ชุดแรกของระบบ “เลือกกันเอง” ที่ประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามาโดยตรง จะลงมติ “เห็นด้วย” หรือไม่ กับข้อเสนอปูทางไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

วิดีโอแนะนำ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage