16 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุม Convention Hall จังหวัดบุรีรัมย์ มีการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับจังหวัดของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ต่างมาถึงสถานที่เลือกกันตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้สมัครเข้ารายงานตัวในเวลา 8.00 น จนถึง 9.00 น. โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีผู้สมัครสว. ทั้งสิ้น 1,750 แต่เข้ารอบจังหวัด 981 คน มากเป็นอันดับสองของประเทศ มีผู้มารายงานตัว 944 คน
ทุกกลุ่มมีผู้สมัครจำนวนมากจึงต้องเลือกกันเองภายในกลุ่มโดยผู้สมัครทุกคนมีคนละสองคะแนน สามารถลงคะแนนให้ตัวเองก็ได้และลงคะแนนให้คนอื่นได้อีกหนึ่งคน หรือจะลงคะแนนให้คนอื่นสองคนก็ได้ เพื่อให้เหลือคนที่ได้คะแนนสูงสุดกลุ่มละห้าคน โดยผลคะแนนในรอบเลือกกันเองมีลักษณะที่ “เสียงไม่แตก” เพราะผู้สมัครลงคะแนนไปในทิศทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด จาก 20 กลุ่มมี 17 กลุ่มที่มีผู้สมัครสองคนได้คะแนนสูงทิ้งห่างและนำโด่งจากผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ได้คะแนนเป็นลำดับต่อมาอย่างเห็นได้ชัด
เลือกกันเองในกลุ่ม ผู้สมัครจำนวนมากแต่เสียงไม่แตก
17 กลุ่มที่ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสองอันดับแรกได้รับการเทคะแนนให้จนทิ้งห่างกับผู้สมัครคนอื่นอีกสามคนที่เข้ารอบมาด้วยกัน มีดังนี้
- กลุ่มที่ 1 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 55 คน มงคล สุระสัจจะ ได้รับคะแนน 34 คะแนนตามมาด้วย อภิชาติ งามสกล ได้รับคะแนน 26 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 6, 5 และ 5 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 2 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 52 คน ฉัตรวรรษ แสงเพชร ได้รับคะแนน 25 คะแนนตามมาด้วย ไกรสร อินไชย ได้รับคะแนน 15 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 8, 4 และ 3 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 3 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 63 คน ชายตรี อัครสุขบุตร ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย สุริยาวุธ บุญดี ได้รับคะแนน 20 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 10 และ 6 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 4 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 43 คน ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ได้รับคะแนน 22 คะแนนตามมาด้วย ฤชุ แก้วลายได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 6, 5 และ 4 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 5 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 59 คน ปวีณา สาระรัมย์ ได้รับคะแนน 33 คะแนนตามมาด้วย สำเนียง พิราญรัมย์ ได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 13 และ 4 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 6 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 59 คน สุภาพ งามเกิด ได้รับคะแนน 28 คะแนนตามมาด้วย สุพิน จันงามได้รับคะแนน 27 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 11, 9 และ 8 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 7 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 57 คน สมชาย เปียคำ ได้รับคะแนน 32 คะแนนตามมาด้วย จตุพร เรียงเงินได้รับคะแนน 23 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 12 และ 9 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 8 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 31 คน ไพรัตน์ ชื่นศรี ได้รับคะแนน 14 คะแนนตามมาด้วย ธนวิทย์ ธนมีชัยและศุภมิตร เศรษฐมาก ได้รับคะแนน 9 คะแนนเท่ากัน ส่วนอีกสองคนคนได้รับคะแนน 6 และ 4 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 9 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 55 คน ภิญญามาศ แก้วสีนอ ได้รับคะแนน 28 คะแนนตามมาด้วย วรรษมนต์ คุณแสนได้รับคะแนน 21 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 15, 12 และ 8 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 10 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 54 คน บุปผา โคตรงาม ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย อรยา ดวงพายัพ ได้รับคะแนน 20 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 9 และ 8 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 11 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 41 คน ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ ได้รับคะแนน 19 คะแนนตามมาด้วย น้อย อุดดามาตร ได้รับคะแนน 18 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 9, 6 และ 4 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 14 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 56 คน สว่าง เจริญรัมย์ ได้รับคะแนน 29 คะแนนตามมาด้วย สมปอง ชึรัมย์ได้รับคะแนน 25 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 16, 13 และ 10 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 15 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 60 คน พรรณี ชะบา ได้รับคะแนน 27 คะแนนตามมาด้วย เลขา สมบัติทิพย์ ได้รับคะแนน 15 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 11, 10 และ 8 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 16 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 45 คน ปราณีต เกรัมย์ ได้รับคะแนน 25 คะแนนตามมาด้วย โกวิทย์ เจริญพจน์ ได้รับคะแนน 19 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 9 และ 7 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 17 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 62 คน ชาญชัย ไชยพิศ ได้รับคะแนน 35 คะแนนตามมาด้วย ประไม หอมเทียน ได้รับคะแนน 24 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 9 และ 8 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 18 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 29 คน ศุภชัย กิตติภูติกุล ได้รับคะแนน 12 คะแนนตามมาด้วย ผจงจิตต์ อินทราชา ได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 7, 5 และ 5 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 20 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 53 คน วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี ได้รับคะแนน 25 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 12 และ 11 ตามลำดับ
มีสองกลุ่มที่มีผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด ได้คะแนน “ทิ้งโด่ง” แบบหายห่วง แต่ผู้สมัครที่ได้ลำดับที่สอง และสาม ยังมีคะแนนต่างกันไม่มาก ได้แก่
- กลุ่มที่ 12 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 25 คน วัชระ มากกระจัน ได้รับคะแนน 12 คะแนนตามมาด้วย วิหาร สีทาและชัยวุฒิ แสงบุตรได้รับคะแนนคนละ 8 คะแนน ส่วนอีกสองคนได้รับคะแนน 7 และ 5 ตามลำดับ
- กลุ่มที่ 19 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 65 คน พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ ได้รับคะแนน 36 คะแนนตามมาด้วย ประทีป ใสสดศรีได้รับคะแนน 18 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 17, 11 และ 10 ตามลำดับ
มีเพียงกลุ่มที่ 13 เท่านั้น ซึ่งมีผู้สมัคร 18 คน ทำให้ผลการเลือกกันเองผู้สมัครมีคะแนนไล่เลี่ยกันเนื่องจาก ธีรเมศร์ สิริเกิดวรพงศ์, นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล, พรเพิ่ม ทองศรีและวัลลภ สหุนาฬุ ได้รับคะแนนคนละ 5 คะแนนตามมาด้วย ยุทธนา อนันต์ ที่ได้รับคะแนน 3 คะแนน
ปรากฏการณ์ “เสียงไม่แตก” ของจังหวัดบุรีรัมย์นี้เปรียบเทียบได้ชัดเจนกับผลการเลือกกันเองของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีผู้สมัครเข้าสู่ระดับจังหวัด 895 คน แต่ผลการเลือกในกลุ่มคะแนนเสียงจะแตก เพราะผู้สมัครจำนวนมากเลือกลงคะแนนให้แต่ละคนแตกต่างกันไม่มีใครโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น ผลการเลือกของจังหวัดเชียงใหม่กลุ่ม 6 ซึ่งมีผู้สมัคร 68 คน อันดับที่หนึ่งได้ 13 คะแนน อันดับสองได้ 10 คะแนนสองคน และอันดับสี่ได้ 9 คะแนนสองคน หรือกลุ่ม 17 ซึ่งมีผู้สมัคร 45 คน อันดับที่หนึ่งได้ 9 คะแนน อันดับสองได้ 8 คะแนนเท่ากันสามคน และอันดับสามได้ 7 คะแนน ส่วนคนดังระดับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ลงสมัครในกลุ่ม 1 มีผู้สมัคร 61 คน ก็ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มไป 20 คะแนน ไม่ได้สูงทิ้งโด่งเหมือนอันดับหนึ่งในหลายกลุ่มของจังหวัดบุรีรัมย์
พบปรากฏการณ์ “ทิ้งโด่ง” กลุ่มละสองคนรอบเลือกไขว้ อันดับสามไม่มีลุ้น
ในรอบเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกันหรือ “เลือกไขว้” จังหวัดบุรีรัมย์มีผู้สมัครครบทั้ง 20 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีผู้ผ่านเข้ารอบจากการเลือกกันเองมากลุ่มละ 5 คน ดังนั้นใน 1 สายจะมีผู้มีสิทธิเลือก 20 คน และจะลงคะแนนเพื่อหาผู้ได้คะแนนสูงสุดกลุ่มละ 2 คน
พบว่ามี 5 จาก 20 กลุ่ม ที่มีผู้ชนะได้รับคะแนนเพียง 2 คนในแต่ละกลุ่ม ส่วนผู้สมัครคนอื่นไม่ได้คะแนนเลย ดังนี้
- กลุ่มที่ 2 ฉัตรวรรษ แสงเพชร ได้รับคะแนน 12 คะแนน และ ไกรศร อินไชย ได้รับคะแนน 7 คะแนน
- กลุ่มที่ 4 ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ได้รับคะแนน 12 คะแนน และ ฤชุ แก้วลาย ได้รับคะแนน 8 คะแนน
- กลุ่มที่ 7 สมชาย เปียคำ ได้รับคะแนน 13 คะแนน และ จตุพร เรียงเงิน ได้รับคะแนน 6 คะแนน
- กลุ่มที่ 18 ศุภชัย กิตติภูติกุล ได้รับคะแนน 14 คะแนน และ ผจงจิตต์ อินทราชา ได้รับคะแนน 6 คะแนน
- กลุ่มที่ 19 พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ ได้รับคะแนน 13 คะแนน และ ประธีป ใสสดศรี ได้รับคะแนน 6 คะแนน
มี 7 กลุ่มจาก 20 กลุ่มที่มีผู้ได้รับคะแนนเพียง 3 คนในแต่ละกลุ่ม แต่ก็เป็นคะแนนที่อันดับสามถูกทิ้งห่างไม่มีลุ้น ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 มงคล สุระสัจจะ ได้รับคะแนน 9 คะแนน และ อภิชาติ งามกาล ได้รับคะแนน 9 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 8 ไพรัตน์ ชื่นศรี ได้รับคะแนน 12 คะแนน ตามมาด้วย ธนวิทย์ ธนมีชัย ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 9 ภิญญามาศ แก้วสีนอ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย วรรษมนต์ คุณแสน ได้รับคะแนน 6 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน
- กลุ่มที่ 11 ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย น้อย อุดดามาตร ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน
- กลุ่มที่ 12 วัชระ มากระจัน ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ทวี สมใจ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 16 ปราณีต เกรัมย์ ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย โกวิทย์ เจริญพจน์ ได้รับคะแนน 8 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 20 วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะณี ได้รับคะแนน 8 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน
มี 8 กลุ่มจาก 20 กลุ่มที่มีผู้สมัคร 4 คนขึ้นไปได้คะแนนจากรอบเลือกไขว้ แต่คะแนนอันดับสามและสี่ก็ถูกทิ้งห่างไม่มีลุ้น ดังนี้
- กลุ่มที่ 3 ชาตรี อัครสุขบุตร ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย สุริยาวุธ บุญดี ได้รับคะแนน 6 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 5 ปวีณา สาระรัมย์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย สำเนียง พิราญรัมย์ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 6 สุภาพ งามเกิด ได้รับคะแนน 9 คะแนน ตามมาด้วย สุพิน จันงาม ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 10 บุปผา โคตรงาม ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย อรยา ดวงพายัพ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 13 พรเพิ่ม ทองศรี ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล ได้รับคะแนน 3 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสามคนได้ 2, 2 และ 1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่ผู้สมัครทั้ง 5 คนมีคะแนนในรอบเลือกไขว้
- กลุ่มที่ 14 สว่าง เจริญรัมย์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย สมปอง ชึรัมย์ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 15 พรรณี ชะบา ได้รับคะแนน 9 คะแนน ตามมาด้วย เลขา สมบัติทิพย์ได้รับคะแนน 8 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนที่ได้คนละ 1 คะแนน
- กลุ่มที่ 17 ชาญชัย ชัยพิศ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ประไม หอมเทียน ได้รับคะแนน 5 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 4 และ 1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อันดับสามสูสีและได้ลุ่นมากที่สุด
ตัวเต็งรอบเลือกกันเอง ก็ลอยลำรอบเลือกไขว้
เมื่อนำผลคะแนนของรอบเลือกกันเองมาวางคู่กับผลการเลือกไขว้ ก็พบว่า ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ในรอบเลือกไขว้จากการมีคะแนนลอยลำเพียงสองคนในกลุ่มที่ 2, 4, 7, 18 และ 19 คือ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ในรอบเลือกไขว้จากการมีคะแนนเพียงสามคนในกลุ่มที่ 1, 8, 9, 11, 16 และ 20 คือผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ เช่นกัน มีเพียงกลุ่ม 12 เท่านั้นที่ผู้สมัครได้คะแนนอันดับสองในรอบเลือกกันเองแต่ ‘พลิกล็อค’ ไม่เข้าสู่เส้นชัยจากรอบเลือกไขว้ ซึ่งกลุ่ม 12 ผลคะแนนในการเลือกรอบแรก อันดับสอง สาม สี่ ห้า ก็มีคะแนนสูสีกันอยู่แล้วจึงไม่ใช่ลักษณะ “ตัวเต็ง” ที่ลอยลำมาตั้งแต่ต้น
จาก 8 กลุ่มที่รอบเลือกไขว้มีคะแนนกระจายบ้าง ได้แก่ กลุ่มที่ 3, 4, 5, 10, 13, 14, 15 และ 17 ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ยังคงเป็นผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ เช่นเดียวกัน มีเพียงกลุ่ม 13 ที่ผู้สมัครได้คะแนนเท่าๆ กันตั้งแต่รอบเลือกกันเอง แต่เมื่อมาถึงรอบเลือกไขว้ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดก็ทิ้งห่างจากอันดับสองอยู่อย่างเห็นได้ชัด
จากข้อมูลทั้งหมดพบว่า ในบรรดาผู้สมัครที่เข้ารอบไขว้ในจังหวัดบุรีรัมย์ทั้งหมด 100 คน มี 36 คน ที่ไม่มีคะแนนเลย ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกรอบไขว้ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีจำนวนผู้เข้ารอบในจังหวัดใกล้เคียงกันมีผู้ที่ไม่มีคะแนนเลย 9 คน
ตารางเทียบลำดับคะแนนรอบ “เลือกกันเอง” และ “เลือกไขว้”
กลุ่มที่ | ลำดับคะแนนรอบเลือกกันเอง | ลำดับคะแนนรอบเลือกไขว้ |
1 | 1. มงคล สุระสัจจะ 2. อภิชาติ งามสกล | 1. มงคล สุระสัจจะ 2. อภิชาติ งามสกล |
2 | 1. ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2, ไกรสร อินไชย | 1. ฉัตรวรรษ แสงเพชร 2. ไกรสร อินไชย |
3 | 1. ชายตรี อัครสุขบุตร 2. สุริยาวุธ บุญดี | 1. ชายตรี อัครสุขบุตร 2. สุริยาวุธ บุญดี |
4 | 1. ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 2. ฤชุ แก้วลาย | 1. ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 2. ฤชุ แก้วลาย |
5 | 1. ปวีณา สาระรัมย์ 2. สำเนียง พิราญรัมย์ | 1. ปวีณา สาระรัมย์ 2. สำเนียง พิราญรัมย์ |
6 | 1. สุภาพ งามเกิด 2. สุพิน จันงาม | 1. สุภาพ งามเกิด 2. สุพิน จันงาม |
7 | 1. สมชาย เปียคำ 2. จตุพร เรียงเงิน | 1. สมชาย เปียคำ 2. จตุพร เรียงเงิน |
8 | 1. ไพรัตน์ ชื่นศรี 2. ธนวิทย์ ธนมีชัยและศุภมิตร เศรษฐมาก | 1. ไพรัตน์ ชื่นศรี 2. ธนวิทย์ ธนมีชัย |
9 | 1. ภิญญามาศ แก้วสีนอ 2. วรรษมนต์ คุณแสน | 1. ภิญญามาศ แก้วสีนอ 2. วรรษมนต์ คุณแสน |
10 | 1. บุปผา โคตรงาม 2. อรยา ดวงพายัพ | 1. บุปผา โคตรงาม 2. อรยา ดวงพายัพ |
11 | 1. ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ 2. น้อย อุดดามาตร | 1. ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ 2. น้อย อุดดามาตร |
12 | 1. วัชระ มากกระจัน 2. วิหาร สีทาและชัยวุฒิ แสงบุตร | 1. วัชระ มากกระจัน 2. ทวี สมใจ |
13 | 1. ธีรเมศร์ สิริเกิดวรพงศ์, นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล, พรเพิ่ม ทองศรีและวัลลภ สหุนาฬุ 2. ยุทธนา อนันต์ | 1. พรเพิ่ม ทองศรี 2. นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล |
14 | 1. สว่าง เจริญรัมย์ 2. สมปอง ชึรัมย์ | 1. สว่าง เจริญรัมย์ 2. สมปอง ชึรัมย์ |
15 | 1. พรรณี ชะบา 2. เลขา สมบัติทิพย์ | 1. พรรณี ชะบา 2. เลขา สมบัติทิพย์ |
16 | 1. ปราณีต เกรัมย์ 2. โกวิทย์ เจริญพจน์ | 1. ปราณีต เกรัมย์ 2. โกวิทย์ เจริญพจน์ |
17 | 1. ชาญชัย ไชยพิศ 2. ประไม หอมเทียน | 1. ชาญชัย ไชยพิศ 2. ประไม หอมเทียน |
18 | 1. ศุภชัย กิตติภูติกุล 2. ผจงจิตต์ อินทราชา | 1. ศุภชัย กิตติภูติกุล 2. ผจงจิตต์ อินทราชา |
19 | 1. พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ 2. ประทีป ใสสดศรี | 1. พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ 2. ประทีป ใสสดศรี |
20 | 1. วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 2. ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี | 1. วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 2. ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี |