เลือกสว. บุรีรัมย์ พบคะแนน “ทิ้งโด่ง” เมื่อตัวเต็งสองคนของทุกกลุ่ม “ลอยลำ” ทั้งรอบเลือกกันเองและเลือกไขว้

16 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุม Convention Hall จังหวัดบุรีรัมย์ มีการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับจังหวัดของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ต่างมาถึงสถานที่เลือกกันตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้สมัครเข้ารายงานตัวในเวลา 8.00 น จนถึง 9.00 น. โดยจังหวัดบุรีรัมย์มีผู้สมัครสว. ทั้งสิ้น 1,750 แต่เข้ารอบจังหวัด 981 คน มากเป็นอันดับสองของประเทศ มีผู้มารายงานตัว 944 คน

ทุกกลุ่มมีผู้สมัครจำนวนมากจึงต้องเลือกกันเองภายในกลุ่มโดยผู้สมัครทุกคนมีคนละสองคะแนน สามารถลงคะแนนให้ตัวเองก็ได้และลงคะแนนให้คนอื่นได้อีกหนึ่งคน หรือจะลงคะแนนให้คนอื่นสองคนก็ได้ เพื่อให้เหลือคนที่ได้คะแนนสูงสุดกลุ่มละห้าคน โดยผลคะแนนในรอบเลือกกันเองมีลักษณะที่ “เสียงไม่แตก” เพราะผู้สมัครลงคะแนนไปในทิศทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด จาก 20 กลุ่มมี 17 กลุ่มที่มีผู้สมัครสองคนได้คะแนนสูงทิ้งห่างและนำโด่งจากผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ได้คะแนนเป็นลำดับต่อมาอย่างเห็นได้ชัด

Senate-OSV-BFV

เลือกกันเองในกลุ่ม ผู้สมัครจำนวนมากแต่เสียงไม่แตก

17 กลุ่มที่ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสองอันดับแรกได้รับการเทคะแนนให้จนทิ้งห่างกับผู้สมัครคนอื่นอีกสามคนที่เข้ารอบมาด้วยกัน มีดังนี้

  • กลุ่มที่ 1 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 55 คน มงคล สุระสัจจะ ได้รับคะแนน 34 คะแนนตามมาด้วย อภิชาติ งามสกล ได้รับคะแนน 26 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 6, 5 และ 5 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 2 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 52 คน ฉัตรวรรษ แสงเพชร ได้รับคะแนน 25 คะแนนตามมาด้วย ไกรสร อินไชย ได้รับคะแนน 15 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 8, 4 และ 3 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 3 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 63 คน ชายตรี อัครสุขบุตร ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย สุริยาวุธ บุญดี ได้รับคะแนน 20 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 10 และ 6 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 4 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 43 คน ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ได้รับคะแนน 22 คะแนนตามมาด้วย ฤชุ แก้วลายได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 6, 5 และ 4 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 5 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 59 คน ปวีณา สาระรัมย์ ได้รับคะแนน 33 คะแนนตามมาด้วย สำเนียง พิราญรัมย์ ได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 13 และ 4 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 6 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 59 คน สุภาพ งามเกิด ได้รับคะแนน 28 คะแนนตามมาด้วย สุพิน จันงามได้รับคะแนน 27 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 11, 9 และ 8 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 7 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 57 คน สมชาย เปียคำ ได้รับคะแนน 32 คะแนนตามมาด้วย จตุพร เรียงเงินได้รับคะแนน 23 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 12 และ 9 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 8 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 31 คน ไพรัตน์ ชื่นศรี ได้รับคะแนน 14 คะแนนตามมาด้วย ธนวิทย์ ธนมีชัยและศุภมิตร เศรษฐมาก ได้รับคะแนน 9 คะแนนเท่ากัน ส่วนอีกสองคนคนได้รับคะแนน 6 และ 4 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 9 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 55 คน ภิญญามาศ แก้วสีนอ ได้รับคะแนน 28 คะแนนตามมาด้วย วรรษมนต์ คุณแสนได้รับคะแนน 21 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 15, 12 และ 8 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 10 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 54 คน บุปผา โคตรงาม ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย อรยา ดวงพายัพ ได้รับคะแนน 20 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 12, 9 และ 8 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 11 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 41 คน ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ ได้รับคะแนน 19 คะแนนตามมาด้วย น้อย อุดดามาตร ได้รับคะแนน 18 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 9, 6 และ 4 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 14 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 56 คน สว่าง เจริญรัมย์ ได้รับคะแนน 29 คะแนนตามมาด้วย สมปอง ชึรัมย์ได้รับคะแนน 25 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 16, 13 และ 10 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 15 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 60 คน พรรณี ชะบา ได้รับคะแนน 27 คะแนนตามมาด้วย เลขา สมบัติทิพย์ ได้รับคะแนน 15 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 11, 10 และ 8 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 16 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 45 คน ปราณีต เกรัมย์ ได้รับคะแนน 25 คะแนนตามมาด้วย โกวิทย์ เจริญพจน์ ได้รับคะแนน 19 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 9 และ 7 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 17 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 62 คน ชาญชัย ไชยพิศ ได้รับคะแนน 35 คะแนนตามมาด้วย ประไม หอมเทียน ได้รับคะแนน 24 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 9 และ 8 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 18 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 29 คน ศุภชัย กิตติภูติกุล ได้รับคะแนน 12 คะแนนตามมาด้วย ผจงจิตต์ อินทราชา ได้รับคะแนน 9 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 7, 5 และ 5 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 20 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 53 คน วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ ได้รับคะแนน 31 คะแนนตามมาด้วย ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี ได้รับคะแนน 25 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 13, 12 และ 11 ตามลำดับ

มีสองกลุ่มที่มีผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด ได้คะแนน “ทิ้งโด่ง” แบบหายห่วง แต่ผู้สมัครที่ได้ลำดับที่สอง และสาม ยังมีคะแนนต่างกันไม่มาก ได้แก่

  • กลุ่มที่ 12 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 25 คน วัชระ มากกระจัน ได้รับคะแนน 12 คะแนนตามมาด้วย วิหาร สีทาและชัยวุฒิ แสงบุตรได้รับคะแนนคนละ 8 คะแนน ส่วนอีกสองคนได้รับคะแนน 7 และ 5 ตามลำดับ
  • กลุ่มที่ 19 มีผู้สมัครในรอบจังหวัด 65 คน พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ ได้รับคะแนน 36 คะแนนตามมาด้วย ประทีป ใสสดศรีได้รับคะแนน 18 คะแนน ส่วนอีกสามคนได้รับคะแนน 17, 11 และ 10 ตามลำดับ

มีเพียงกลุ่มที่ 13 เท่านั้น ซึ่งมีผู้สมัคร 18 คน ทำให้ผลการเลือกกันเองผู้สมัครมีคะแนนไล่เลี่ยกันเนื่องจาก ธีรเมศร์ สิริเกิดวรพงศ์, นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล, พรเพิ่ม ทองศรีและวัลลภ สหุนาฬุ ได้รับคะแนนคนละ 5 คะแนนตามมาด้วย ยุทธนา อนันต์ ที่ได้รับคะแนน 3 คะแนน

ปรากฏการณ์ “เสียงไม่แตก” ของจังหวัดบุรีรัมย์นี้เปรียบเทียบได้ชัดเจนกับผลการเลือกกันเองของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีผู้สมัครเข้าสู่ระดับจังหวัด 895 คน แต่ผลการเลือกในกลุ่มคะแนนเสียงจะแตก เพราะผู้สมัครจำนวนมากเลือกลงคะแนนให้แต่ละคนแตกต่างกันไม่มีใครโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น ผลการเลือกของจังหวัดเชียงใหม่กลุ่ม 6 ซึ่งมีผู้สมัคร 68 คน อันดับที่หนึ่งได้ 13 คะแนน อันดับสองได้ 10 คะแนนสองคน และอันดับสี่ได้ 9 คะแนนสองคน หรือกลุ่ม 17 ซึ่งมีผู้สมัคร 45 คน อันดับที่หนึ่งได้ 9 คะแนน อันดับสองได้ 8 คะแนนเท่ากันสามคน และอันดับสามได้ 7 คะแนน ส่วนคนดังระดับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ลงสมัครในกลุ่ม 1 มีผู้สมัคร 61 คน ก็ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มไป 20 คะแนน ไม่ได้สูงทิ้งโด่งเหมือนอันดับหนึ่งในหลายกลุ่มของจังหวัดบุรีรัมย์

พบปรากฏการณ์ “ทิ้งโด่ง” กลุ่มละสองคนรอบเลือกไขว้ อันดับสามไม่มีลุ้น

ในรอบเลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกันหรือ “เลือกไขว้” จังหวัดบุรีรัมย์มีผู้สมัครครบทั้ง 20 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีผู้ผ่านเข้ารอบจากการเลือกกันเองมากลุ่มละ 5 คน ดังนั้นใน 1 สายจะมีผู้มีสิทธิเลือก 20 คน และจะลงคะแนนเพื่อหาผู้ได้คะแนนสูงสุดกลุ่มละ 2 คน

พบว่ามี 5 จาก 20 กลุ่ม ที่มีผู้ชนะได้รับคะแนนเพียง 2 คนในแต่ละกลุ่ม ส่วนผู้สมัครคนอื่นไม่ได้คะแนนเลย ดังนี้

  • กลุ่มที่ 2 ฉัตรวรรษ แสงเพชร ได้รับคะแนน 12 คะแนน และ ไกรศร อินไชย ได้รับคะแนน 7 คะแนน 
  • กลุ่มที่ 4 ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ได้รับคะแนน 12 คะแนน และ ฤชุ แก้วลาย ได้รับคะแนน 8 คะแนน
  • กลุ่มที่ 7 สมชาย เปียคำ ได้รับคะแนน 13 คะแนน และ จตุพร เรียงเงิน ได้รับคะแนน 6 คะแนน
  • กลุ่มที่ 18 ศุภชัย กิตติภูติกุล ได้รับคะแนน 14 คะแนน และ ผจงจิตต์ อินทราชา ได้รับคะแนน 6 คะแนน 
  • กลุ่มที่ 19 พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ ได้รับคะแนน 13 คะแนน และ ประธีป ใสสดศรี ได้รับคะแนน 6 คะแนน

มี 7 กลุ่มจาก 20 กลุ่มที่มีผู้ได้รับคะแนนเพียง 3 คนในแต่ละกลุ่ม แต่ก็เป็นคะแนนที่อันดับสามถูกทิ้งห่างไม่มีลุ้น ดังนี้

  • กลุ่มที่ 1 มงคล สุระสัจจะ ได้รับคะแนน 9 คะแนน และ อภิชาติ งามกาล ได้รับคะแนน 9 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 8 ไพรัตน์ ชื่นศรี ได้รับคะแนน 12 คะแนน ตามมาด้วย ธนวิทย์ ธนมีชัย ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 9 ภิญญามาศ แก้วสีนอ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย วรรษมนต์ คุณแสน ได้รับคะแนน 6 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน
  • กลุ่มที่ 11 ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย น้อย อุดดามาตร ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน
  • กลุ่มที่ 12 วัชระ มากระจัน ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ทวี สมใจ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 16 ปราณีต เกรัมย์ ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย โกวิทย์ เจริญพจน์ ได้รับคะแนน 8 คะแนน  และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 20 วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะณี ได้รับคะแนน 8 คะแนน และผู้สมัครอีกคนหนึ่งที่ได้อีก 2 คะแนน

มี 8 กลุ่มจาก 20 กลุ่มที่มีผู้สมัคร 4 คนขึ้นไปได้คะแนนจากรอบเลือกไขว้ แต่คะแนนอันดับสามและสี่ก็ถูกทิ้งห่างไม่มีลุ้น ดังนี้

  • กลุ่มที่ 3 ชาตรี อัครสุขบุตร ได้รับคะแนน 11 คะแนน ตามมาด้วย สุริยาวุธ บุญดี ได้รับคะแนน 6 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 5 ปวีณา สาระรัมย์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย สำเนียง พิราญรัมย์ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 6 สุภาพ งามเกิด ได้รับคะแนน 9 คะแนน ตามมาด้วย สุพิน จันงาม ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 10 บุปผา โคตรงาม ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย อรยา ดวงพายัพ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 13 พรเพิ่ม ทองศรี ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล ได้รับคะแนน 3 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสามคนได้ 2, 2 และ 1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่ผู้สมัครทั้ง 5 คนมีคะแนนในรอบเลือกไขว้
  • กลุ่มที่ 14 สว่าง เจริญรัมย์ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย สมปอง ชึรัมย์ ได้รับคะแนน 7 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 2 และ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 15 พรรณี ชะบา ได้รับคะแนน 9 คะแนน ตามมาด้วย เลขา สมบัติทิพย์ได้รับคะแนน 8 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนที่ได้คนละ 1 คะแนน
  • กลุ่มที่ 17 ชาญชัย ชัยพิศ ได้รับคะแนน 10 คะแนน ตามมาด้วย ประไม หอมเทียน ได้รับคะแนน 5 คะแนน และผู้สมัครอีกคนสองคนได้ 4 และ 1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อันดับสามสูสีและได้ลุ่นมากที่สุด

ตัวเต็งรอบเลือกกันเอง ก็ลอยลำรอบเลือกไขว้

เมื่อนำผลคะแนนของรอบเลือกกันเองมาวางคู่กับผลการเลือกไขว้ ก็พบว่า ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ในรอบเลือกไขว้จากการมีคะแนนลอยลำเพียงสองคนในกลุ่มที่ 2, 4, 7, 18 และ 19 คือ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ในรอบเลือกไขว้จากการมีคะแนนเพียงสามคนในกลุ่มที่ 1, 8, 9, 11, 16 และ 20 คือผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ เช่นกัน มีเพียงกลุ่ม 12 เท่านั้นที่ผู้สมัครได้คะแนนอันดับสองในรอบเลือกกันเองแต่ ‘พลิกล็อค’ ไม่เข้าสู่เส้นชัยจากรอบเลือกไขว้ ซึ่งกลุ่ม 12 ผลคะแนนในการเลือกรอบแรก อันดับสอง สาม สี่ ห้า ก็มีคะแนนสูสีกันอยู่แล้วจึงไม่ใช่ลักษณะ “ตัวเต็ง” ที่ลอยลำมาตั้งแต่ต้น

จาก 8 กลุ่มที่รอบเลือกไขว้มีคะแนนกระจายบ้าง ได้แก่ กลุ่มที่ 3, 4, 5, 10, 13, 14, 15 และ 17 ผู้สมัครที่เข้า ‘เส้นชัย’ ยังคงเป็นผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งและสองของรอบ ‘เลือกกันเอง’ เช่นเดียวกัน มีเพียงกลุ่ม 13 ที่ผู้สมัครได้คะแนนเท่าๆ กันตั้งแต่รอบเลือกกันเอง แต่เมื่อมาถึงรอบเลือกไขว้ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดก็ทิ้งห่างจากอันดับสองอยู่อย่างเห็นได้ชัด

จากข้อมูลทั้งหมดพบว่า ในบรรดาผู้สมัครที่เข้ารอบไขว้ในจังหวัดบุรีรัมย์ทั้งหมด 100 คน มี 36 คน ที่ไม่มีคะแนนเลย ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกรอบไขว้ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีจำนวนผู้เข้ารอบในจังหวัดใกล้เคียงกันมีผู้ที่ไม่มีคะแนนเลย 9 คน

ตารางเทียบลำดับคะแนนรอบ “เลือกกันเอง” และ “เลือกไขว้”

กลุ่มที่ลำดับคะแนนรอบเลือกกันเองลำดับคะแนนรอบเลือกไขว้
11. มงคล สุระสัจจะ 
2. อภิชาติ งามสกล 
1. มงคล สุระสัจจะ 
2. อภิชาติ งามสกล 
21. ฉัตรวรรษ แสงเพชร 
2, ไกรสร อินไชย 
1. ฉัตรวรรษ แสงเพชร 
2. ไกรสร อินไชย 
31. ชายตรี อัครสุขบุตร 
2. สุริยาวุธ บุญดี
1. ชายตรี อัครสุขบุตร 
2. สุริยาวุธ บุญดี
41. ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 
2. ฤชุ แก้วลาย
1. ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 
2. ฤชุ แก้วลาย
51. ปวีณา สาระรัมย์ 
2. สำเนียง พิราญรัมย์ 
1. ปวีณา สาระรัมย์ 
2. สำเนียง พิราญรัมย์ 
61. สุภาพ งามเกิด 
2. สุพิน จันงาม
1. สุภาพ งามเกิด 
2. สุพิน จันงาม
71. สมชาย เปียคำ 
2. จตุพร เรียงเงิน
1. สมชาย เปียคำ 
2. จตุพร เรียงเงิน
81. ไพรัตน์ ชื่นศรี 
2. ธนวิทย์ ธนมีชัยและศุภมิตร เศรษฐมาก 
1. ไพรัตน์ ชื่นศรี 
2. ธนวิทย์ ธนมีชัย
91. ภิญญามาศ แก้วสีนอ 
2. วรรษมนต์ คุณแสน
1. ภิญญามาศ แก้วสีนอ 
2. วรรษมนต์ คุณแสน
101. บุปผา โคตรงาม 
2. อรยา ดวงพายัพ
1. บุปผา โคตรงาม 
2. อรยา ดวงพายัพ
111. ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ 
2. น้อย อุดดามาตร
1. ทัศน์พงษ์ ชะรุมรัมย์ 
2. น้อย อุดดามาตร
121. วัชระ มากกระจัน 
2. วิหาร สีทาและชัยวุฒิ แสงบุตร
1. วัชระ มากกระจัน 
2. ทวี สมใจ
131. ธีรเมศร์ สิริเกิดวรพงศ์, นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล,
พรเพิ่ม ทองศรีและวัลลภ สหุนาฬุ  
2. ยุทธนา อนันต์
1. พรเพิ่ม ทองศรี 
2. นิ่มนวล พฤกษ์ปัญญากุล 
141. สว่าง เจริญรัมย์ 
2. สมปอง ชึรัมย์
1. สว่าง เจริญรัมย์ 
2. สมปอง ชึรัมย์
151. พรรณี ชะบา 
2. เลขา สมบัติทิพย์ 
1. พรรณี ชะบา 
2. เลขา สมบัติทิพย์ 
161. ปราณีต เกรัมย์ 
2. โกวิทย์ เจริญพจน์
1. ปราณีต เกรัมย์ 
2. โกวิทย์ เจริญพจน์
171. ชาญชัย ไชยพิศ 
2. ประไม หอมเทียน
1. ชาญชัย ไชยพิศ 
2. ประไม หอมเทียน
181. ศุภชัย กิตติภูติกุล 
2. ผจงจิตต์ อินทราชา
1. ศุภชัย กิตติภูติกุล 
2. ผจงจิตต์ อินทราชา
191. พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ 
2. ประทีป ใสสดศรี
1. พลวรรธน์ เชื่อมรัมย์ 
2. ประทีป ใสสดศรี
201. วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 
2. ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี
1. วลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 
2. ถวัลย์ลักษณ์ วงษ์มะนี

RELATED TAGS

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage