บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ พบผู้สมัครสว. รู้จักกันมาด้วยกัน และพบบัตรเสียจำนวนมาก

ในการเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในปี 2567 มีผู้สมัครน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือ ประมาณ 48,000 คน หลังตรวจสอบคุณสมบัติแล้วเหลือผู้สมัครประมาณ 46,205 คน ซึ่งเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครคาดหมายได้ว่าจะมีผู้สมัครจำนวนมาก แต่กลับไม่ใช่มากที่สุด เมื่อเปิดสถิติผู้สมัครสว. ทั้งหมดแล้วพบว่า จังหวัดที่มีผู้สมัครสูงสุด คือ 2,674 คน อันดับสอง คือ กรุงเทพมหานคร 2,439 คน อันดับสาม คือ เชียงใหม่ 1,902 คน และอันดับสี่ คือ ศรีสะเกษ 1,785 คน

เมื่อเทียบจากจำนวนประชากรแล้ว พบว่า จังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ มีความโดดเด่นที่มีจำนวนผู้สมัครสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นและอำเภออื่นๆ ในการเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ไอลอว์และ We Watch จึงส่งอาสาสมัครเข้าสังเกตการณ์การเลือกสว. ที่จังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษเกือบทุกอำเภอ เพื่อติดตามดูสถานการณ์และดูบรรยากาศการเลือกในอำเภอที่มีผู้สมัครจำนวนมาก

ประเด็นหลักที่อาสาสมัครเดินทางไปเพื่อเรียนรู้และเก็บข้อมูล คือ สังเกตการณ์ลักษณะของผู้สมัครว่ามีลักษณะการจับกลุ่มก้อนกันหรือไม่ เดินทางมาด้วยกันหรือไม่ แต่งกายมาเลือกสว. ด้วยเครื่องแต่งกายที่เหมือนกันหรือมีสัญลักษณ์เหมือนกันหรือไม่ และสังเกตผลการนับคะแนนว่ามีลักษณะเทคะแนนให้บุคคลใดอย่างน่าผิดสังเกต หรือมีการทำบัตรเสียจนน่าผิดสังเกตหรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ว่า ปรากฏการณ์ที่มีผู้สมัครจำนวนมากนั้นเกิดจากความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนทั่วไปในพื้นที่นั้น หรือเป็นเพราะมีขบวนการจัดตั้งพาคนมาสมัครให้เยอะเพื่อออกเสียงลงคะแนน

รู้จักกัน แต่งตัวเหมือนกัน เป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ทั่วไป

ระหว่างที่อำเภอหรือเขตส่วนใหญ่ที่มีผู้สมัครจำนวนไม่มาก ผู้สมัครจะรู้จักกันน้อยมากหรือแทบไม่รู้จักกันเลย เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่อาจจะสมัครมาด้วยตัวคนเดียวและเดินทางมาเลือกด้วยตัวเองเพื่อมาทำความรู้จักกันผู้สมัครคนอื่นๆ ในกระบวนการเลือกเท่านั้น หรือหากมีคนที่รู้จักกันมาก่อนหรือชวนกันมาสมัครก็เพียงกลุ่มละ 2-3 คน และทุกคนก็จะระมัดระวังการแสดงออกว่า รู้จักหรือสนิมสนมกัน แต่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ ผู้สมัครจำนวนมากแสดงออกชัดเจนว่ารู้จักกันหรือเดินทางมาด้วยกัน รวมทั้งรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่จัดกระบวนการเลือกด้วย 

ที่อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงเช้าประมาณ 7.15 น. ผู้สังเกตการณ์พบว่า มีบุคคลที่น่าจะเป็นผู้สมัครสว. ประมาณเจ็ดถึงแปดคนนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่ม้าหินด้านนอกหอประชุม โดยคนในกลุ่มดังกล่าวสวมเสื้อสีม่วงลวดลายเดียวกัน หรือเสื้อสีม่วงแต่ลวดลายคล้ายกัน มีหญิงสองคนวัยประมาณ 50 ปี สวมเสื้อสีม่วงลายเดียวกัน นั่งรถจักรยานยนต์คันเดียวกันเข้ามา และยังมีผู้สมัครอีกสองคนที่เดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน ซึ่งจากการดูภาพในกล้องวงจรปิด ช่วงเวลาประมาณ 15.00 – 15.30 ผู้สมัครสองคนดังกล่าวตกรอบเลือกไขว้ เดินออกมาจากหอประชุมและเดินทางกลับพร้อมกันด้วยจักรยานยนต์คันเดียวกัน

ที่อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สังเกตการณ์พบว่า มีผู้สมัครประมาณสี่ถึงห้าคนรวมตัวกันบริเวณศาลาตรงข้ามหอประชุมอำเภอกระสังซึ่งเป็นสถานที่เลือก ขณะที่เข้าไปพูดคุย กลุ่มคนดังกล่าวกำลังกรอกเอกสารกันอยู่ ผู้สังเกตการณ์สอบถามกลุ่มคนดังกล่าวว่าเป็นผู้สมัครหรือไม่ ก็มีชายใส่เสื้อสีขาวซึ่งอยู่ในกลุ่มดังกล่าวตอบว่าเป็นผู้สมัครกันทั้งหมด ผู้สังเกตการณ์จึงแจ้งว่าใกล้หมดเวลารายงานตัวแล้ว ก่อนที่คนกลุ่มดังกล่าวจะเข้าไปรายงานตัวมีผู้สมัครคนหนึ่งในกลุ่มพูดทำนองว่าไม่ต้องรีบเข้าไป เพราะเข้าแล้วจะออกมาไม่ได้ ระหว่างการเลือก พบว่ามีผู้สมัครอีกกลุ่มหนึ่งประมาณสี่คนเดินมาเข้าห้องน้ำพร้อมกันถึงสองสามครั้ง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เดินมาด้วย และพบว่าหลังจากนั้นกลุ่มคนกลุ่มเดิมมาเข้าห้องน้ำด้วยกันอีกสองถึงสามครั้ง โดยลักษณะทุกคนน่าจะรู้จักกันหมดที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ 

ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้สมัครบางคนใส่เสื้อทีมฟุตบอลทีมหนึ่งมาเหมือนกัน โดยระหว่างการเลือกผู้สมัครจะนั่งอยู่แต่ในกลุ่มตัวเอง แม้ก่อนการเลือกไขว้ก็ไม่ไปคุยกับผู้สมัครกลุ่มอื่นเพื่อทำความรู้จักและตัดสินใจออกเสียงเลือก มีผู้สมัครชายอายุประมาณ 40-50 ปี คนหนึ่ง เดินทางมาถึงสถานที่รายงานตัวไม่ทันทำให้เสียสิทธิ เมื่อสอบถามว่าทราบข่าวการสมัครจากไหน คนดังกล่าวก็รีบตอบว่า “ผมมาสมัครเองครับ” เมื่อถามว่า สมัครเพื่อจะโหวตหรือเพื่อจะเป็น คนดังกล่าวตอบทันทีว่า “ผมอยากเป็นเองครับ” 

ที่อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีผู้สมัครถึง 179 คน ผู้สังเกตการณ์พบเห็นผู้สมัครบางคนนั่งรถเก๋งคันเดียวกันมาด้วยกัน และพบเห็นผู้สมัครหลายคนจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มๆ มีผู้สมัครหลายคนใส่เสื้อยืดโปโลที่เป็นเครื่องแบบของกลุ่มต่างๆ หรือเสื้อสีเหลืองมีตราสัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์ มีพ่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยของสถานที่เลือกมาเป็นผู้สมัครด้วย

ที่อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้สังเกตการณ์เล่าว่า ผู้สมัครหลายคนไม่ได้เลือกตัวเอง และคนที่ตกรอบเดินออกจากสถานที่เลือกดูหน้าตามีความสุข พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คล้ายอยากจะรีบเดินทางกลับบ้าน

คะแนนเทผิดปกติ บัตรเสียผิดปกติ

ระหว่างที่อำเภอหรือเขตส่วนใหญ่ที่มีผู้สมัครจำนวนไม่มาก ผู้สมัครจะออกเสียงได้โดยไม่มีความผิดพลาดเพราะหมายเลขที่ต้องเขียนก็มีจำนวนไม่มาก มีคนไม่มากที่มีโอกาสลงคะแนนแล้วเลือกที่จะไม่ลงคะแนนเลย เพราะไม่เห็นว่ามีใครควรได้รับคะแนนเลย แต่หากมีกรณีที่ผู้สมัครจำนวนมากทำบัตรเสียพร้อมๆ กัน เช่น ในรอบการเลือกไขว้ หากผู้สมัครจำนวนมากไม่ลงคะแนนเลือกกลุ่มอื่นเลย หรือลงคะแนนผิดไปเลือกหมายเลขที่ไม่มีอยู่พร้อมๆ กันหลายคน ก็จะเป็นเรื่องน่าสงสัยคล้ายกับมีการตกลงหมายเลขกันมาก่อนแล้วแต่จับสลากได้กลุ่มที่ไม่มีหมายเลขเหล่านั้นอยู่

ที่อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ในขั้นตอนการเลือกไขว้มีบัตรเสียเนื่องจากลงคะแนนให้ผู้ไม่มีสิทธิเยอะผิดปกติ แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถระบุได้ว่า บัตรเสียในกลุ่มใดบ้างและจำนวนเท่าใดเพราะถูกจัดไว้ให้นั่งในที่เฉพาะ ไม่สามารถเดินไปดูการนับคะแนนได้ทุกกลุ่ม และเมื่อเลือกเสร็จแล้ว ผู้สังเกตการณ์ได้ยินผู้สมัครที่เดินออกมาด้านนอกจับกลุ่มคุยกันทำนองว่าเขียนบัตรผิดใบ

ที่อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สังเกตการณ์เห็นว่ามีคนแต่งตัวด้วยเสื้อทีมฟุตบอลทีมหนึ่งเดินมาด้วยกันประมาณสองถึงสามคู่ และพบคนใส่เสื้อสีเหลืองห้าถึงหกคน ผลการลงคะแนนมีการลงคะแนนของกลุ่ม 10 และกลุ่ม 20 ในลักษณะการเทคะแนนไปให้ผู้สมัครในกลุ่มคนหนึ่ง โดยกลุ่ม 10 มีลักษณะการเทคะแนนให้ผู้สมัครหมายเลขเบอร์ 1 โดยในอำเภอนี้มีผู้สมัครคนหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้กว้างขวาง เมื่อเข้ามาในสถานที่เลือกก็มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดข้าราชการในหน่วยมาไหว้หลายคน 

ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พบบัตรเสียในรอบเลือกไขว้จำนวนมาก สาย ข กลุ่มที่ 7 มีผู้มีสิทธิลงคะแนนสี่คน บัตรเสีย 10 ใบบัตรดีหกใบ กลุ่มที่ 11 มีผู้มีสิทธิลงคะแนนห้าคน บัตรดีเจ็ดใบบัตรเสีย 13 ใบ กลุ่มที่ 14 มีผู้มีสิทธิลงคะแนนสามคน บัตรดีหกใบบัตรเสียหกใบ สาย ง กลุ่มที่ 8 มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนสองคนบัตรเสียสี่ใบบัตรดีสี่ใบ แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถมองเห็นได้ว่า สาเหตุที่มีบัตรเสียจำนวนมากเป็นเพราะเหตุใดเนื่องจากไม่สามารถเข้าไปสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดได้ จากการสอบถามผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอได้ข้อมูลว่า ส่วนใหญ่ที่บัตรเสียเนื่องจากไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดเลย

ที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบบัตรเสียในรอบเลือกไขว้ที่สาย ข กลุ่มที่ 9 มีผู้มีสิทธิลงคะแนนห้าคน มีบัตรดี 9 ใบ บัตรเสีย 11 ใบ แต่ที่สายอื่นและกลุ่มอื่น ไม่พบบัตรเสียอีกเลย

ประสบการณ์จากการสังเกตการณ์ที่จังหวัดบุรีรัมย์และศรีษะเกษ เมื่อทราบว่ามีบัตรเสียจำนวนมาก และมีผลการเทคะแนนให้ผู้สมัครบางคน จึงยิ่งเห็นความจำเป็นที่ต้องมีผู้สังเกตการณ์ที่สามารถมองเห็นการนับคะแนนและมองเห็นพฤติกรรมการลงคะแนนของผู้สมัครในอำเภอนั้นๆ ได้ เพื่อจะได้ข้อมูลมากขึ้นที่จะชี้ให้เห็นว่า ผู้สมัครมีการจัดเตรียมกันมาลงคะแนนหรือไม่อย่างไร

RELATED TAGS

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage