รวมมิตรดุลพินิจสังเกตการณ์เลือกสว.อำเภอ ยังไม่มีแนวปฏิบัติชัดเจนแน่นอน

 40 คืออายุที่เป็นจุดตัดทำให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายล้านคนไม่มีสิทธิเข้าร่วมกระบวนการสมัคร-จ่ายเงินเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกกันเองเพื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ กระบวนการนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก จากสถิติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่า มีประชาชนสมัครเข้าสู่กระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 45,791 คน  เป็นจำนวนผู้สมัครมากกว่ากระบวนการตามบทเฉพาะกาลในปี 2561 ประมาณหกเท่าตัว ดังนั้นแล้วการเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมสังเกตการณ์กระบวนการเลือกจึงมีความจำเป็นเพื่อสร้างความโปร่งใสและลดข้อครหาต่อกระบวนการเลือกที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิออกเสียง

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้มีแนวทางว่าด้วยการประกันสิทธิในการสังเกตการณ์กระบวนการเลือกอย่างเป็นทางการ จากหนังสือตอบกลับไอลอว์เรื่องการสังเกตการณ์การเลือกสว.ระบุโดยกว้างว่า แจ้งให้สำนักงานกกต.จังหวัดประสานผู้อำนวยการเลือกจัดสถานที่สังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด ทำให้ในการเลือกระดับอำเภอ ผู้ปฏิบัติงานตีความอนุญาตสังเกตการณ์อย่างหลากหลายเป็นผลให้เกิดดุลพินิจที่ลักลั่น สถานที่เลือกบางแห่งกว้างขวางเพียงพอให้ผู้สังเกตการณ์เข้าไปในสถานที่เลือกได้แต่กลับเข้าไม่ได้ต้องดูจอทีวีถ่ายทอดสดที่มีแต่ภาพ จะฟังเสียงต้องเดินไปเงี่ยหูฟังใกล้ๆ ได้ศัพท์บ้างไม่ได้ศัพท์บ้าง บางแห่งลากลำโพงออกมาให้ผู้สังเกตการณ์ฟังแต่ก็ไม่ได้ชัดเจนตลอดกระบวนการ ขณะที่บางแห่งใช้ดุลพินิจให้เข้าไปได้และอำนวยความสะดวกในการเลือกตลอดกระบวนการ

หลากดุลพินิจอนุญาตสังเกตการณ์การเลือกสว.อำเภอ

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 (พ.ร.ป.สว.ฯ) และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 (ระเบียบเลือกสว. 67) ไม่ได้กำหนดเรื่องการสังเกตการณ์หรือกระบวนการขออนุญาตสังเกตการณ์ในกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีความแตกต่างกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ระเบียบคณะกรรมการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2566 กำหนดเรื่องการสังเกตการณ์การเลือกตั้งไว้ในหมวด 1 ส่วนที่ 7 เปิดช่องให้มีผู้สังเกตการณ์จากพรรคการเมือง และในทางปฏิบัติสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกล่าวต่อสาธารณะให้ประชาชนสามารถสังเกตการณ์การเลือกตั้งและถ่ายภาพประกอบได้

อย่างไรก็ตามตามพ.ร.ป.สว.ฯ มาตรา 37 เปิดช่องให้กรรมการการเลือกตั้งและผู้อำนวยการการเลือกในแต่ระดับใช้ดุลพินิจอนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าไปในสถานที่เลือกได้ ดังนั้นก่อนหน้าวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ไอลอว์จึงเตรียมการในการสังเกตการณ์ผ่านสองช่องทางหลักได้แก่

  • หนึ่ง วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ไอลอว์ส่งผู้สังเกตการณ์ผ่านช่องทางขององค์กรเครือข่ายอย่างWe watch  เข้าระบบการสังเกตการณ์ของกกต.โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้สังเกตการณ์อาจจะต้องไปอบรมกับสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดก่อนหน้าวันเลือก
  • สอง วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ไอลอว์ทำหนังสือถึงกกต.เพื่อขอให้พิจารณาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของเราเข้าไปสังเกตการณ์ได้ หวังให้กกต.กลางใช้อำนาจตามพ.ร.ป.สว. ฯ มาตรา 37 กำหนดแนวปฏิบัติให้แก่ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอและจังหวัดเปิดช่องให้ผู้สังเกตการณ์หรือประชาชนทั่วไปเข้าไปสังเกตการณ์ในสถานที่เลือกได้ต่อมาวันที่ 7 มิถุนายน 2567 กกต.ทำหนังสือตอบกลับมากว้างๆว่า แจ้งกับสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดให้เตรียมสถานที่สำหรับการสังเกตการณ์ “ใกล้ชิด” และเจ้าหน้าที่ไอลอว์ต้องยื่นแบบคำขอสังเกตการณ์ในแต่ละระดับ/สถานที่เลือกไปด้วย

ฐานะผู้สังเกตการณ์ We watch ไปอบรม มีคำสั่งแต่งตั้งแต่ยังต้องสู้ขอเข้า

ไอลอว์ส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเข้าในโครงการสังเกตการณ์การเลือกสว.ของ We watch แบ่งเป็นกรุงเทพมหานครสองคน ที่เขตสวนหลวงและสะพานสูง จังหวัดสตูลหนึ่งคน ที่อำเภอเมืองสตูล จังหวัดศรีสะเกษสามคนที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ อุทุมพรพิสัยและไพรบึง และจังหวัดบุรีรัมย์แปดคนที่อำเภอเมือง ประโคนชัย สตึก กระสัง หนองหงส์ หนองกี่ แคนดงและนางรอง โดยที่กรุงเทพมหานคร สตูลและศรีสะเกษ ผู้สังเกตการณ์เดินทางไปอบรมกับทางสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดล่วงหน้า โดยกรณีกรุงเทพมหานครและสตูลมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของไอลอว์เป็นผู้สังเกตการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการและจะต้องทำแบบฟอร์มคำถามของกกต.ด้วย

คำสั่งแต่งตั้งผู้สังเกตการณ์ของกรุงเทพมหานครระบุโดยสรุปว่า ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งมีหน้าที่สังเกตการณ์กระบวนการเลือกและสังเกตการณ์การนับคะแนน โดยการปฏิบัติหน้าที่จะต้องไม่ก้าวก่ายหรือยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ขณะที่แบบรายงานการสังเกตการณ์มีรายละเอียดที่จำเป็นต้องเข้าไปสังเกตการณ์ในสถานที่เลือกเช่น จำนวนของกรรมการประจำสถานที่เลือกและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง การชี้แจงผู้สมัครเกี่ยวกับกระบวนการเลือกและการนับคะแนนทีละหีบ อย่างไรก็ตามในวันเลือกระดับอำเภอที่เขตสวนหลวง เวลา 07.10 น. ผู้สังเกตการณ์ไปถึงหน้าสถานที่เลือกและแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นผู้สังเกตการณ์จาก We watch และเข้าอบรมกับสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดแล้ว ตอนแรกเจ้าหน้าที่จะให้อยู่ด้านหน้าสถานที่เลือกและดูจอทีวีถ่ายทอดสดที่มีเพียงภาพ ไม่มีเสียง ผู้สังเกตการณ์ต้องต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่า การนั่งหน้าห้องจะไม่สามารถทำแบบรายงานของกกต. ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้เข้าไปนั่งในสถานที่เลือกได้

เช่นเดียวกับกรณีของสตูลที่ผู้สังเกตการณ์ไปอบรมกับสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดล่วงหน้าและมีคำสั่งแต่งตั้งออกมา เมื่อถึงวันเลือกระดับอำเภอ เวลา 07.14 น. ที่หอประชุมอำเภอเมืองสตูล ผู้สังเกตการณ์ไปถึงสถานที่เลือกแต่อยู่ได้แค่ภายนอกเท่านั้น และไม่มีจอทีวีสำหรับถ่ายทอดสดออกมาด้านนอก เมื่อต่อรองจึงได้เข้ามานั่งภายในสถานที่เลือกแต่อยู่ด้านนอกแถบกั้น เจ้าหน้าที่ยังระบุด้วยว่า การฉายภาพถ่ายทอดสดจากกล้องวงจรปิดภายในสถานที่เลือกออกมาด้านนอกเป็นเรื่องผิดกฎหมายและจะบันทึกไว้ดูเองเท่านั้น  นอกจากนี้เรายังทราบว่า ผู้สังเกตการณ์จาก We watch เขตราชเทวีไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์ได้จึงแนะนำให้ทำการต่อรองจนสามารถเข้าไปในสถานที่เลือกและดูกระบวนการอย่างละเอียดได้

 ที่จังหวัดบุรีรัมย์เนื่องจากไอลอว์ส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากกรุงเทพมหานครไปสังเกตการณ์จึงไม่สะดวกที่จะอบรมล่วงหน้ากับทางสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดได้ แต่มีการประสานกันอย่างต่อเนื่องว่า ให้ยื่นแบบคำขอสังเกตการณ์ล่วงหน้าผ่านทางไลน์ ซึ่งต่อมาสำนักงานกกต.จังหวัดบุรีรัมย์มีหนังสือประสานไปยังผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอให้เตรียมบริเวณสังเกตการณ์ เมื่อถึงวันเลือกระดับอำเภอปรากฏว่า สถานที่เลือกส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์ใกล้ชิดได้ มีเพียงหนึ่งแห่งที่สามารถเข้าได้คือ ประโคนชัยเท่านั้น มีสถานที่เลือกที่ต้องต่อรองจนเจ้าหน้าที่ให้เข้าภายในสถานที่เลือกสองแห่งคือ อำเภอเมืองบุรีรัมย์และหนองหงส์ และสถานที่เลือกเปิดโล่งจนสามารถสังเกตการณ์ใกล้ชิดได้หนึ่งแห่งคือ นางรอง ขณะที่แคนดง เริ่มแรกเข้าไม่ได้ ต่อมาปลัดอาวุโสที่เป็นผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภออนุญาตให้เข้าภายในสถานที่เลือกแต่ต้องฝากโทรศัพท์ไว้กับเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อนั่งได้ประมาณห้านาที เจ้าหน้าที่จากสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์กลับเปลี่ยนดุลพินิจของปลัดอาวุโสบอกว่า ผู้สังเกตการณ์ต้องนั่งด้านนอกเท่านั้น ทำให้ผู้สังเกตการณ์ต้องออกมานั่งสังเกตการณ์ผ่านจอทีวีด้านนอก ซึ่งเห็นเป็นภาพกว้างๆ มีการลากลำโพงออกมาให้ผู้สังเกตการณ์ได้ยินเสียงไปด้วย แต่ไม่ได้มีความชัดเจนตลอดทั้งกระบวนการยกตัวอย่างเช่น การนับคะแนน ผู้สังเกตการณ์ได้ยินเสียงการขานและขีดคะแนนเบาๆ หากมีบัตรเสียก็ไม่สามารถเห็นได้ว่า เสียเพราะเหตุอะไรเพราะภาพจากจอทีวีเป็นภาพกว้างๆเท่านั้น

ฐานะผู้สังเกตการณ์ของไอลอว์ส่วนใหญ่เข้าไม่ได้ ให้ดูแค่จอทีวี ไม่มีเสียง

ตามที่ไอลอว์ได้ยื่นหนังสือขอสังเกตการณ์ต่อกกต. และสำนักงานกกต.ได้ตอบกลับมาวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ก่อนหน้าวันเลือกเพียงสองวัน เนื้อหาหนังสือตอบกลับคือ “แจ้ง” ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด “จัดบริเวณเพื่อให้สามารถสังเกตการณ์การเลือกได้อย่างใกล้ชิด โดยไม่กระทบและเป็นอุปสรรคในระหว่างการดำเนินการเลือก” ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า บริเวณที่ให้สังเกตการณ์ใกล้ชิดคือบริเวณใด และขอให้ส่งรายชื่อผู้สังเกตการณ์การเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามแบบคำขอที่มีลักษณะปรับปรุงจากแบบคำขอที่ไอลอว์ออกแบบไว้สำหรับประชาชนและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเพื่อประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป (อ่านเพิ่มเติม) แต่เนื่องจากว่า การตอบกลับของสำนักงานกกต.มีความกระชั้นชิด ไอลอว์ไม่สามารถทำหนังสือและยื่นแบบคำขอต่อสำนักงานคณะกรรมมการการเลือกตั้งจังหวัดล่วงหน้าได้ จึงจำเป็นที่จะต้องไปยื่นคำร้องในวันเลือกระดับอำเภอเลย

ไอลอว์ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์การเลือกจำนวนเก้าแห่งได้แก่ กรุงเทพมหานครที่เขตพญาไท เขตบึงกุ่มและเขตดินแดง นนทบุรีที่อำเภอเมืองนนทบุรีและอำเภอปากเกร็ด สมุทรปราการที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ ปทุมธานีที่อำเภอลำลูกกา         ชลบุรีที่อำเภอบางละมุง และจันทบุรีที่อำเภอมะขาม  โดยมีการเตรียมหนังสือรับรองการเป็นผู้สังเกตการณ์ แบบคำขอสังเกตการณ์และป้ายแสดงตัวการเป็นผู้สังเกตการณ์ เจ้าหน้าที่ของไอลอว์สามารถเข้าสังเกตการณ์ได้เพียงสามแห่งคือ ที่เขตบึงกุ่ม อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรีและอำเภอมะขาม จันทบุรี ทั้งสามแห่งนี้ไม่ต้องต่อสู้ต่อรองใดๆก็สามารถเข้าไปสังเกตการณ์ได้ เห็นได้ว่า การสังเกตการณ์ภายในจังหวัดเดียวกันยังมีแนวปฏิบัติที่ต่างกัน 

กรณีของสถานที่เลือกที่ไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์ภายในได้ ผู้สังเกตการณ์ทำได้เพียงนั่งดูจอทีวีที่ฉายภาพถ่ายทอดสดจากในสถานที่เลือกออกมา เป็นภาพมุมกว้าง ไม่เห็นรายละเอียดของกลุ่มที่เลือกหรือการนับคะแนน ทั้งยังไม่มีเสียง ตัวอย่างเช่น

  • เขตดินแดง สถานที่กว้างใหญ่แต่ไม่เปิดให้เข้าสังเกตการณ์

การเลือกสว.ระดับอำเภอ เขตดินแดง กรุงเทพมหานครจัดที่อาคารกีฬาเวศน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งมีพื้นที่สนามสำหรับการจัดกระบวนการเลือกขนาดใหญ่และมีพื้นที่อัฒจันทร์ เขตดินแดงมีจำนวนผู้สมัคร 50 คนใน 16 กลุ่มอาชีพ เวลาประมาณ 7.00 น. ผู้สังเกตการณ์ไปถึงสถานที่เลือกยื่นหนังสือรับรองการเป็นผู้สังเกตการณ์และแบบคำขอต่อเจ้าหน้าที่ ต่อมาผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ เขตดินแดงออกมาพูดคุยและให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อธิบายลำดับขั้นตอนอย่างละเอียด แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถให้เข้าภายในสถานที่เลือกได้ ให้สังเกตการณ์ผ่านทีวีถ่ายทอดสดที่ติดตั้งออกมาด้านหน้าสถานที่เลือก ภาพจากจอแบ่งเป็นสี่ช่อง เป็นภาพกว้างๆเห็นเพียงคนตัวเล็กๆเดินไปเดินมาเท่านั้น ไม่มีสามามารถเห็นการนับคะแนน ไม่สามารถเห็นบัตรเสียที่มีสัญลักษณ์หรือจำนวนมากผิดสังเกต ประกอบกับไม่มีเสียงผ่านจอทีวี ทำให้เมื่อพยายามอยากติดตามสถานการณ์ต้องให้ผู้สังเกตการณ์คนหนึ่งวิ่งไปเงี่ยหูฟังใกล้ๆและอีกคนหนึ่งดูภาพประกอบ ซึ่งเสียงก็ฟังได้ศัพท์บ้าง ไม่ได้ศัพท์บ้าง เนื่องจากมีการใช้ลำโพงขนาดเล็ก 

  • อำเภอบางละมุง ชลบุรี มีจอทีวีไร้เสียงให้ผู้สังเกตการณ์

การเลือกสว.ระดับอำเภอ อำเภอบางละมุง ชลบุรีจัดที่ศาลาประชาคม อำเภอบางละมุง ชั้นหนึ่ง ที่ว่าการอำเภอบางละมุง ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้สังเกตการณ์ไม่ว่าสังกัดใดไม่สามารถเข้าไปภายในห้องสถานที่เลือก สว. ได้ แต่สามารถนั่งดูจอถ่ายทีวีถอดสดภาพในห้องเลือกได้ โดยมีการจัดเก้าอี้หน้าห้องสถานที่เลือกสำหรับประชาชนทั่วไปและผู้สังเกตการณ์ไว้ให้ สำหรับผู้สังเกตการณ์ มีการจัดเก้าอี้ ติดป้ายระบุข้อความว่า “ที่นั่งผู้สังเกตการณ์” ไว้โดยเฉพาะ จอถ่ายทอดสดภาพในสถานที่เลือก สว. ถ่ายทอดเฉพาะภาพเท่านั้น ไม่มีเสียง และห้องสถานที่เลือกเป็นห้องกระจก เคลือบสีดำ เมื่อปิดประตูห้องแล้ว ผู้สังเกตการณ์ที่นั่งอยู่หน้าห้องไม่ได้ยินเสียงจากภายในห้องเลย

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

บทความยอดนิยม

วิดีโอแนะนำ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage