NCPO Entertainment : 4 ปี คสช. ความบันเทิงครบวงจรที่(บังคับ)ให้คนดู

นับตั้งแต่มีการรัฐประหารในปี 2557 ภาพของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือภาพของทหาร ได้ถูกนำเสนอผ่านสื่อหลายรูปแบบ รวมถึงผลิตสื่อออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบทเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” รายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์พร้อมกัน ภายใต้ประกาศ คสชฉบับที่ 97/2557 ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการสื่อทุกช่องต้องออกอากาศเนื้อหาสาระของ คสชนอกจากนี้ คสชยังได้สนับสนุนสื่อบันเทิงประเภทอื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและกองทัพ เช่น ละครภาพยนตร์ รวมทั้งประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ของรัฐ มาดูกันว่าสี่ปีที่ผ่านมานี้ คสชผลิตและสนับสนุนการเผยแพร่สื่ออะไรไปแล้วบ้าง 

ผลงานเพลงฮิตติดหูจากพลเอกประยุทธ์

เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา” เนื้อเพลงยอดฮิตติดหูคนไทย เพลงดังกล่าวมีชื่อว่า “คืนความสุขให้ประเทศไทย” เผยแพร่เมื่อ 6 มิถุนายน 2557 ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสังคมออนไลน์ นับจากนั้นมีการเผยแพร่เพลงขึ้นมาอีกหลายบทเพลง ทั้งหมดแต่งโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช

 
เพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย 
 
เนื้อเพลงท่อนฮุค เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา
 
เผยแพร่ 6 มิถุนายน 2557
 
เพลง เพราะเธอคือประเทศไทย 
 
เนื้อเพลงท่อนฮุค 
แต่มีเพียงสองมือ กับหนึ่งลมหายใจ พลังคงไม่พอจะสร้างฝันให้เป็นไป แต่หากเราร่วมมือ ต่อเติมลมหายใจ วันที่หวังนั้นคงไม่ไกล เพื่อประเทศไทยของทุกคน
 
เผยแพร่ 22 ธันวาคม 2558
 
เพลง ความหวัง ความศรัทธา
เนื้อเพลงท่อนฮุค ขอเพียงจริงใจ ขอเพียงสามัคคี ตั้งมั่นในความดีตลอดไป
 
เผยแพร่ 26 ตุลาคม 2559
 
เพลง สะพาน
เนื้อเพลงท่อนฮุค ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามไป ปลายทางที่ฝัน จะพาถึงฝั่ง ดั่งที่ตั้งใจ
เผยแพร่ 4 มกราคม 2560
 
เพลง ใจเพชร
เนื้อเพลงท่อนฮุค ทำใจให้เป็นเพชรแท้ ไม่แพ้อะไรเสียอย่าง วันนี้มีเราเคียงข้าง อุปสรรคก็ไร้ความหมาย
เผยแพร่ 9 กุมภาพันธ์ 2561
 
เพลง สู้เพื่อแผ่นดิน
เนื้อเพลงท่อนฮุค เธอจะมองอย่างไร แต่หัวใจฉันยังซื่อตรง ยังมั่นคงไม่มีวันทอดทิ้งเธอ 
เผยแพร่ 10 เมษายน 2561
 

ภาพยนตร์สารคดีพิเศษชุด “ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน” เสริมสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ

17 กรกฎาคม 2557 พล...ปิติ วัลยะเพ็ชร์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานจัดทำสารคดี ร่วมกับผู้แทน 7 กระทรวงฝ่ายสังคมจิตวิทยา แถลงข่าวจัดทำภาพยนตร์สารคดีพิเศษชุด ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน” เสริมสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติทั้งหมด 7 ตอน ได้แก่ การสร้างที่กลับมาศรัทธาและเหตุผลกำลังใจเคลื่อนที่เร็วตามหา..จิตวิญญาณไทยชีวิตใหม่..ที่เชื่อมโยงรากแก้วของต้นไม้ใหญ่ และ น้ำเดียวกัน ความยาวตอนละ 15 นาที นำเสนอเนื้อหาบริบทของสังคมหลังความขัดแย้ง เพื่อร่วมมือกันสร้างความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศชาติ หลังความขัดแย้งผ่านพ้นไป ภายใต้พลังความรัก สามัคคี ร่วมกันเดินหน้าได้ต่อไปด้วยการนำเรื่องราวต่างๆ มาสร้างกำลังใจให้แก่สังคมไทยในปัจจุบัน ใช้บทเพลงก้าวข้ามตามฝัน และเพลงธงชาติ ประกอบภาพยนตร์สารคดี โดยแจกจ่ายสารคดีทั้ง 7 ตอนไปตามสถานีวิทยุโทรทัศน์ ออกอากาศตอนแรกในวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2557[1]

นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ด้วย คือเพลง “ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน” และ “ธงชาติ” เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติเพื่อประเทศชาติของ สชและเพื่อรวบรวมพลังทุกภาคส่วนของประเทศเพื่อนำพาประเทศฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการไปให้ได้

 

 : https://www.youtube.com/watch?v=8okl4IuGKRk

 

เพลง ก้าวข้ามเพื่อตามฝัน เนื้อร้องโดย ..ทองย้อย แสงสินชัย เรียบเรียงดนตรีโดย พล...ณัฐ รัชกุล..ณรงค์ แสงบุศย์ ขับร้องโดย ..สันติ ลุนเผ่ป๊อ โมเดิร์นด็อกโป่ง เดอะซัน,น้องพินต้า และนักร้องประสานเสียงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรเลงดนตรีโดย วงดุริยางค์ราชนาวี

 

เพลง ธงชาติ เนื้อร้องและทำนองโดย ปรมินทร์ รังษีธรรม หรือ ลง ลงลาย เรียบเรียงดนตรีโดย นาวาตรี ตระกูล บุญสร้าง ขับร้องโดย ..สันติ ลุนเผ่ ปรมินทร์ รังษีธรรม คณะนักร้องประสานเสียง Wattana Little Angels โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย รรเลงดนตรีโดย วงดุริยางค์ราชนาวี

คืนความสุขให้คนในชาติเดินหน้าประเทศไทย รายการที่บังคับให้ทุกสื่อต้องออกอากาศ 

 “คืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ..2557 โดยออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.15 . (ภายหลัง 13 ตุลาคม ..2559 เปลี่ยนชื่อเป็นรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบันรายการนี้จัดขึ้นเพื่อสื่อสารให้ประชาชนทราบถึงเหตุผลของการรัฐประหารครั้งนี้ การบริหารราชการแผ่นดิน การแก้ไขปัญหาประเทศชาติ รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล รวมถึงใช้เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลให้ประชาชนทราบ

ต่อมาพลเอกประยุทธ์ ได้สั่งปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติเฉพาะกิจ” ออกอากาศวันที่ 15 เมษายน 2559 มีความยาวประมาณ 50 นาที ส่วนรูปแบบรายการจากเดิมที่พลเอกประยุทธ์ยืนพูดที่โพเดียม ปลี่ยนมาเป็นการนั่งสนทนา โดยมี ..หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ นอกจากนี้ ในช่วงหนึ่งของรายการเป็นการตอบเรื่องที่ประชาชนได้ส่งเรื่องร้องเรียนมาถึงนายกรัฐมนตรี ละเป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์เป็นผู้เลือกมาตอบ[2]

ในปี 2560 ได้มีการปรับลดเวลารายการดังกล่าวเหลือ 20 นาที โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2560 พลเอกประยุทธ์ กล่าวบรรยายพิเศษและเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมสัมมนา “มิติการศึกษาพัฒนาพื้นที่พิเศษ เดินหน้าประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ในตอนหนึ่งว่า

 “ขอโทษที่บางครั้งพูดจาไม่ค่อยสุภาพเท่าไรกับสื่อเองก็พูดไม่ค่อยไพเราะ ไม่รู้จะพูดไปทำอะไรเหมือนกัน มันไม่จริงใจ ถ้าพูดจริงใจต้องพูดแบบตน วันศุกร์ก็อย่าลืมดูด้วยเพราะลดเวลาเหลือแค่ 20 นาทีแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่เลิกรายการแน่นอน เพราะถ้าไม่พูดแล้วใครจะพูดไม่ใช่อยากจะพูดอยากจะเก่ง พูดเพราะต้องการให้ทุกคนคิดแบบตน ที่พูดมาก็ต้องมีส่วนดีบ้างไม่เช่นนั้นจะอยู่มาได้ 3 ปีหรือ[3]

 

เดินหน้าประเทศไทย ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 โดยออกอากาศทุกวัน เวลา 18.00-18.30 ยกเว้นวันศุกร์ ในช่วงปีแรกรายการมีความยาวเพียง 15 นาที ส่วนเนื้อหารายการเกี่ยวกับการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของรัฐบาล คสช.

จนกระทั่ง 29 พฤษภาคม 2558 พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้มีการเพิ่มเวลารายการ “เดินหน้าประเทศไทย” จาก 15 นาที เป็น 30 นาที เพราะเห็นว่าเวลา 15 าทีน้อยเกินไปที่จะชี้แจงรายละเอียด ซึ่งจะให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้าน นำประเด็นที่สำคัญนำเสนอในรายการ โดยวันจันทร์ เป็นเรื่อง ความมั่นคงวันอังคาร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพุธ เป็นเรื่องเศรษฐกิจวันพฤหัสบดี เป็นเรื่องสังคมวันเสาร์ เป็นเรื่องต่างประเทศวันอาทิตย์ เป็นเรื่องกฎหมาย เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2558 พลตรีสรรเสริญยังกล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขอให้มองถึงความจำเป็นของการพัฒนาประเทศด้วย ส่วนวันอังคาร ที่ไม่มี เพราะจะเป็นช่วงเวลาของการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่วันศุกร์ มีรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี อยู่แล้ว[4] 

ต่อมาในปี 2561 ได้มีการปรับปรุงรายการให้ทันสมัยเข้าถึงเยาวชนไทยได้มากขึ้น ใช้ชื่ออว่ารายกา “เดินหน้าประเทศไทย วัยทีน” อกอากาศ 25 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งมีพิธีกรเป็นวัยรุ่นสองคน มาสอนใช้การแสกน QR Code ในรายการ แต่เมื่อถูกเผยแพร่ออกไปรายการดังกล่าวได้รับการวิจารณ์จากสังคมว่าล้าสมัยและไม่ทันโลก

The matter รายงานค่าจ้างทำรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ใช้งบประมาณปีละ 18 ล้านบาท เฉลี่ยตอนละ 50,000 บาท

 

รายการและเพลงของ คสชถูกเผยแพร่ผ่านสื่อทุกช่องพร้อมกันหมด าเหตุมาจากการออกอากาศเนื้อหาสาระที่มาจาก คสชได้ถูกกำหนดไว้ในประกาศ คสชฉบับที่ 97/2557  เรื่อง “การให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ” ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557

โดยข้อ 3 ระบุว่า “ผู้ประกอบกิจการและผู้ให้บริการด้านสื่อมวลชนทุกประเภททั้งที่เป็นของราชการ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิจิตอลและโทรทัศน์อินเตอร์เน็ต หนังสือพิมพ์วารสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งผู้บริการด้านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทอันรวมถึงการสื่อสารทางสังคมสื่อออนไลน์ มีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

หากฝ่าฝืนไม่ยอมออกอากาศตามที่ได้รับแจ้งจาก คสชในข้อ 5 กำหนดโทษเอาไว้ว่า “ในกรณีที่ปรากฏว่าบุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 หรือ ข้อ 3 ให้ระงับการจําหน่าย จ่าย แจก หรือเผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้งการออกอากาศของรายการดังกล่าวโดยทันที และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่กําหนดความผิดฐานนั้นดําเนินการตามกฎหมาย

หลังออกประกาศฉบับนี้ มีเสียงคัดค้านจากผู้ประกอบวิชาชีพสื่อจำนวนมาก กระทั่ง คสชต้องออกประกาศฉบับที่ 103/2557 มาแก้ไขบทลงโทษ ซึ่งระบุว่า “ในกรณีที่ปรากฏว่าบุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 หรือข้อ 3 พนักงานเจ้าหน้าที่อาจส่งเรื่องให้องค์กรวิชาชีพที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกดําเนินการสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ

นอกจากกำหนดให้สื่อต้องการออกอากาศรายการตามที่ คสชต้องการทุกครั้งแล้ว ประกาศทั้งสองฉบับนี้ยังห้ามสื่อนำเสนอข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือความขัดแย้ง ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ห้ามวิจารณ์ คสชโดยไม่สุจริตด้วยข้อมูลเท็จ ฯลฯ ทำให้สามารถสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ตรงข้ามกับ คสช. ได้ กล่าวคือ คสชใช้ช่องทางวิทยุและโทรทัศน์ทุกช่องในการเผยแพร่ข้อมูล/เนื้อหาสาระของตัวเอง แต่หากมีสื่ออื่นๆ ที่นำเสนอเนื้อหาสาระในเชิงตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสชสื่อนั้นอาจถูกระงับออกอากาศ อย่างเช่น วอยซ์ทีวี พีซทีวี ทีวี24 ซึ่งอาจเป็นการทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว

จัดชมภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ฟรี 160 โรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศ

ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคที่ 5 ยุทธหัตถี” ภาพยนตร์โดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล โดยมี “พันโทวันชนะ สวัสดี” หรือ “ผู้พันเบิร์ด” เป็นนักแสดงนำสวมบทบาท “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” และพันเอกวินธัย สุวารี ร่วมแสดงในบทบาท “สมเด็จพระเอกาทศรถ

ด้าน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า คสชได้มีการจัดให้ฉายภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคที่ 5 ยุทธหัตถี ในวันที่ 15 มิถุนายน 2557 รอบ 11.00 โดยมีโรงภาพยนตร์ที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 160 จุดทั่วประเทศ  โดยมุ่งหวังให้เป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน และเป็นการปลูกจิตสำนึกรักชาติ รักสถาบัน

อย่างไรก็ตาม “สหมงคลฟิล์ม” ออกมาเผยถึงการจัดชมภาพยนตร์ฟรีในครั้งนี้ว่า คสชไม่ได้ใช้เงินภาษีประชาชนจ่าย แต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน เพื่อให้ประชาชนมีความสุขร่วมกันในช่วงเวลานี้

สนับสนุนอาวุธกำลังพล ละครหลังข่าวชุด “ภารกิจรัก

ละครชุด “ภารกิจรัก” ออกอากาศทางโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ควบคุมการผลิตโดยบริษัท พอดีคำ เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพล ออกอากาศทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นละครแนวแอคชั่ โรแมนติก ดราม่า เนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักระหว่างการรบ จาก 4 เหล่าทัพ ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และตำรวจ ซึ่งดัดแปลงมาจากชุดนิยายภารกิจรัก ประกอบไปด้วยนิยาย 4 เรื่องคือ เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน โดย อักษรา,ราชนาวีที่รัก โดย เฟื่องนครยึดฟ้าหาพิกัดรัก โดย ทองหลาง และ มือปราบเจ้าหัวใจ โดย อัคนี

ธงชัย ประสงค์สันติ ผู้บริหารบริษัท พอดีคำ จำกัด ให้สัมภาษณ์ผ่าน Spring News เมื่อวันที่30 มิถุนายน 2560 ว่า “บริษัทได้ทุ่มงบประมาณอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด ในส่วนการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมนั้น เป็นการสนับสนุนเช่น การเอื้อเฟื้อสถานที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องยศตำแหน่ง เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งบางเรื่องก็เป็นความลับของทางราชการ ไม่สามารถที่จะนำมาเปิดเผยในละครได้ทั้งหมด

กระแสออเจ้านักแสดงละครดัง ‘บุพเพสันนิวาส’ เยือนทำเนียบฯ เข้าพบพลเอกประยุทธ์

เมษายน 2561 วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำนักแสดงเเละผู้จัดละคร “บุพเพสันนิวาส” เข้าพบพลเอกประยุทธ์ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานรณรงค์ส่งเสริมภาพยนตร์และละครที่เกี่ยวกับการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และภาพยนตร์ ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ยังขอให้ผู้จัดละครหารือกับวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงการผลิตละครย้อนยุ เพราะวิษณุมีความสามารถทางด้านนี้ เหมือนกับที่ได้เขียนหนังสือเรื่องข้ามสมุทร จึงขอให้ผู้จัดลองไปอ่านดู แม้อาจต้องใช้เวลาอ่านเป็นปีก็ตาม เพราะหนังสือเล่มใหญ่ แต่เป็นหนังสือขายดี

ต้องสอนสังคมผู้หญิงมีความรักนวลสงวนตัว รักษาประเพณีที่ดีงามของไทย และยังฝากให้ผู้ผลิตได้สร้างละครที่เกี่ยวกับงานของรัฐบาล โดยให้ประสาน รมว.วัฒนธรรมรมว.การท่องเที่ยวและกีฬารม.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาร่วมกัน” พลเอกประยุทธ์กล่าว

กระแสจับมือนักร้องดัง-BNK48 เยือนทำเนียบฯ เข้าพบพลเอกประยุทธ์

24 เมษายน 2561 ตัวแทนศิลปิน BNK48 “เฌอปราง” เฌอปราง อารีย์กุลจนนิษฐ์ โอ่กระเสริฐ, “จ๋า” ณปภัช วรพฤทธานนท์, “ไข่มุก” วรัทยา ดีสมเลิศ, “มิวสิค” แพรวา สุธรรมพงษ์, “เนย” กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, “เปี่ยม” รินรดา อินทร์ไสง และ ซัทจัง” สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์เดินทางมาเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์สถานีวิทยุเพื่อครอบครัว “Happy Family Radio F.M.105 MHz. : วิทยุเพื่อครอบครัว” ของกรมประชาสัมพันธ์ ตามแนวทางที่พลเอกประยุทธ์มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัวให้เหมาะกับทุกช่วงวัย เน้นให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

โดยตัวแทน BNK48 ได้จับมือพร้อมกล่าวให้กำลังใจพลอเอกประยุทธ์ ขอให้มีชีวิตที่มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง เป็นแฟนคลับติดตามลุงตู่มานาน ขอบคุณที่ช่วยบริหารประเทศ ถ้าเหนื่อยขอให้เปิดดูคลิปเพลงของพวกเรา[5]

#Missอนาคตโฆษณายุทธศาสตร์ชาติ

คลิปสั้นที่มีชื่อว่า Miss อนาคตอบคำถามรอบ final “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ถูกเผยแพร่ทาง Youtube เมื่อวันที่ 7 ฤษภาคม 2561 โดยใช้ชื่อว่า #Missอนาคต เป็นคลิปสั้นๆ ที่จำลองเหตุการณ์ตอบคำถามการประกวดนางงาม โดยมีคำอธิบายใต้คลิปว่า “Miss อนาคตตอบคำถามรอบ final  “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี”  ยังไงถึงได้มง ?? หากประเทศพัฒนาได้ตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ เป้าหมายที่ว่าประเทศ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คงไม่ไกลเกินเอื้อม

อีกหนึ่งคลิปที่เผยแพร่ในวันเดียวกันมีชื่อว่า Miss อนาคตตอบคำถาม แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านจากสื่อ โดยอธิบายใต้คลิปว่า “แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ประกาศใช้แล้วนะคะ ร่าง ...แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศเป็ 1 ในกฎหมายสำคัญที่ต้องออกตามรัฐธรรมนูญ ควบคู่ไปกับร่าง ...ยุทธศาสตร์ชาติ เราจะติดตามร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าสาระเป็นอย่างไรกับ Miss อนาคต

น่าสังเกตว่าไม่พบหน่วยงานใดของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโฆษณาดังกล่าวโดยตรง แต่ได้ถูกเผยแพร่บนพื้นที่โฆษณาตามสถานีรถไฟฟ้า นอกจากนี้ #Missอนาคต ยังมีช่องทางการติดต่อทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์  

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2561 มติชนออนไลน์ เผยแพร่ภาพอินสตาแกรมของนักแสดงโฆษณาดังกล่าว คือ ณัฐมน กฤษณตคุปต์ โพสต์ขอบคุณ คสช.  แต่เมื่อไอลอว์ได้เข้าไปในอินสตาแกรมของนักแสดงคนดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าได้มีการเปลี่ยนคำบรรยายใต้ภาพ จากคำว่า คสช. เป็น คศช. 

จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจะเห็นว่ารูปแบบของสื่อต่างๆ ที่ คสชเผยแพร่หรือสนับสนุนให้ประชาชนรับชมนั้น ได้ครอบคลุมอุตสาหกรรมบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เพลง มิวสิควิดีโอเพลง รายการวิทยุและโทรทัศน์ ละคร ภาพยนตร์ โฆษณา 

อย่างไรก็ดี การนำสื่อบันเทิงต่างๆ มาใช้ในทางการเมืองปรากฏให้เห็นในหลายประเทศและหลากหลายรูปแบบ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้นำเผด็จการอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ก็นำภาพยนตร์มาใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda film) ของนาซี ส่วนสหรัฐอเมริกาเองซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับฮิตเลอร์ ก็ใช้ภาพยนตร์ต่อต้านนาซีเช่นกั หรือแม้กระทั่งการใช้ภาพยนตร์ Hollywood เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลก การผลิตสื่อเพื่อใช้ครอบงำทางความคิดถูกทำให้เนียบเนียนมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งมองแทบไม่เห็นว่าเป็นการครอบงำหรือใช้อำนาจได้อย่างไร (soft power)

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการช่วงชิงพื้นที่ทางความคิดในสนามการเมืองก็คือ “ช่องทาง” (channel) ในการสื่อสารหรือเผยแพร่สื่อนั้นๆ ไปสู่ประชาชน นักคิดชาวอิตาลี่นาม อันโตนิโย กรัมชี (Antonio Gramsci) ได้พูดถึงแนวคิดเรื่องการช่วงชิงพื้นที่ทางความคิดว่า การช่วงชิงเพื่อยึดอำนาจรัฐอย่างเดียวไม่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนได้ แม้ว่าจะได้อำนาจของรัฐมาแล้วก็ตาม ดังนั้นการช่วงชิงในอีกด้านหนึ่งคือเป้าหมายในการยึดความคิดและวัฒนธรรมของประชาชน หรือที่กรัมชีเรียกว่า war of position 

สงครามการช่วงชิงพื้นที่ทางความคิดอาจเทียบได้กับการเข้าไปยึดพื้นที่หรือช่องทางการสื่อสาร ใครก็ตามที่สามารถยึดครองช่องทางการสื่อสารได้ ก็จะสามารถปิดกั้นความคิดชุดอื่นๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในการรัฐประหาร สิ่งแรกที่คณะทหารที่ยึดอำนาจมักทำก่อนก็คือ การยึดสถานีและวิทยุโทรทัศน์ทุกแห่ง เพื่อเป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของตนสู่ประชาชนได้เพียงทางเดียว[6]

หากการสื่อสารเหล่านี้ถูกใช้โดยผู้มีอำนาจทางการเมือง แม้แต่สื่อบันเทิงที่มักถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อาจกลายมาเป็นอำนาจแห่งความไร้สาระที่สอดแทรกเนื้อหาอย่างมีเป้าหมาย เพื่อครอบงำความคิดของคนที่อยู่ใต้อำนาจนั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่รัฐบาลสามารถควบคุมช่องทางการสื่อสารได้ทุกรูปแบบ

 

อ้างอิง

[1] ไทยรัฐออนไลน์. คสช.’ จัดสร้างหนังสารคดี 7 ตอน เตรียมฉายจอแก้ 25 ..: https://www.thairath.co.th/content/437010

[2] ไทยรัฐออนไลน์. ปรับโฉม ‘รายการคืนความสุข’ ให้ นายกฯ นั่งตอบปัญหาปชช.ประเดิม 15 เม.ย.: https://www.thairath.co.th/content/605869

[3] โพสต์ทูเดย์. นายกฯ ลดเวลา “คืนความสุข” เหลือ 20 นาที ถามไม่ดีจริงจะอยู่ได้ถึง 3 ปีเหรอ?: https://www.posttoday.com/politic/news/516758

[4] วอยซ์ทีวี. เพิ่มเวลา ‘เดินหน้าประเทศไทย’ เป็น 30 นาที ให้รองนายกฯแจง: https://www.voicetv.co.th/read/211767

กรุงเทพธุรกิจ. ‘BNK48’ เข้าพบ ‘ประยุทธ์’ ครั้งแรก ตัวใหญ่ใจดีกว่าที่คิด: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/799757

[6] กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวิมาน. (2560). สายธารแห่งนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองกับสื่อสารศึกษา.181-182

 

 

 

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage