สถานการณ์เสรีภาพเดือนมีนาคมยังคงร้อนไม่แพ้อุณหภูมิของฤดูร้อน มีการออกหมายเรียกนักกิจกรรมกลุ่มหนึ่งที่แสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับการคุมขังจตุภัทร์หรือ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ไปไต่สวนในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลที่จังหวัดขอนแก่น มีกรณีวอยซ์ ทีวี ถูกลงโทษหนัก ห้ามออกอากาศเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่รายการที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมยุยงให้มีความแตกแยกและขัดต่อพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ รวมถึงมีการดำเนินคดีกับพระวัดธรรมกายที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดีเอสไอและคดีตามมาตรา 116 กับพระที่โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องการเสียชีวิตของศิษย์วัด
“ละเมิดอำนาจศาล” กลุ่มนักกิจกรรมเรียกร้องปล่อย “ไผ่ ดาวดิน” ถูกดำเนินคดีแล้ว
วันที่ 17 มีนาคม 2560 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า พายุ นักกิจกรรมกลุ่มดาวดิน และนักกิจกรรมอีกสามคนที่ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าศาลจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ถูกศาลจังหวัดขอนแก่นออกหมายเรียกไปไต่สวนในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลจากการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่หน้าศาลจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 หลังจากนั้นในวันที่ 20 มีนาคม 2560 ก็มีรายงานว่ามีนักกิจกรรมอีกสามคนรวมทั้งสิรวิชญ์หรือจ่านิวถูกออกหมายเรียกไปรับการไต่สวนด้วย โดยศาลจังหวัดขอนแก่นนัดไต่สวนวันที่ 24 เมษายน 2560 เวลา 09:00 น.
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
การทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าศาลจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่เป็นเหตุให้เจ็ดนักกิจกรรมถูกดำเนินคดีละเมิดอำนาจศาล
กสท.ลงดาบ ระงับวอยซ์ทีวีออกอากาศทั้งช่อง
วันที่ 27 มีนาคม 2560 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีคำสั่งระงับการออกอากาศวอยซ์ ทีวีเป็นเวลาเจ็ดวัน โดยก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งว่ามีรายการของทางช่องสี่รายการที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศคสช. และพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ได้แก่
1. รายการ ใบตองแห้ง ออกอากาศวันที่ 15 มีนาคม 2560 เรื่อง จากธัมมี่ถึงทักกี้ประเทศนี้ยังปรองดองได้อยู่หรือ
2. รายการ In her View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องไล่เรียงเหตุการณ์จังหวะแห่งข่าวโกตี๋กับอาวุธพร้อมแถลงการณ์แผนลอบสังหาร
3. รายการ Over View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องกองทัพป้องทหารยันยิงทิ้งเด็กล่าหู่ถูกต้องทุกกรณี
4. รายการ Voice News ช่วง Voice News Report ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่อง วีระ สมความคิด แสดงความคิดเห็นกรณี บ่อนตาพระยา
เบื้องต้นคณะอนุกรรมการฯ มีคำสั่งระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวีเป็นเวลาสามวัน ก่อนที่ต่อมา กสท. จะมีคำสั่งระงับการออกอากาศเป็นเวลา 7 วันตามมาทีหลัง โดยให้เหตุผลว่าวอยซ์ ทีวีทำความผิดซ้ำซาก ด้วยการออกอากาศรายการขัดต่อประกาศคสช. ฉบับที่ 97 /2557และ 103/2557 ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมยุยงให้มีความแตกแยกและขัดต่อพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ มาตรา 37 กว่า 10 ครั้ง
หลังทราบคำสั่ง เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี แถลงข่าวที่สถานีโดยระบุว่า ที่ผ่านมาวอยซ์ทีวีให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทั้งคสช.และกสทช. โดยความต้องการของทั้งสองหน่วยงานคือ การนำเสนอความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายในเวลาเดียวกัน ซึ่งในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ ทางสถานีจึงแก้ปัญหาด้วยการวางกรอบรายการและแบ่งเวลาให้อยู่ในจุดสมดุลกัน เช่น รายงานข่าวที่มีการสัมภาษณ์ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดและรายการวิเคราะห์ข่าวที่นำเสนอข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง
ดูการแถลงข่าวของเมฆินทร์ ที่นี่
ดูรายงานพิเศษ นกน้อยในกรงพราง : เสรีภาพสื่อภายใต้ยุค คสช. กรณี วอยซ์ ทีวี
เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี แถลงข่าวหลังมีกสท.มีคำสั่งปิดวอยซ์ทีวีในวันที่ 27 มีนาคม 2560
แจ้งข้อกล่าวหาพระวัดธรรมกายทั้งคดี 116 – ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคสช.
ในเดือนกุมภา หัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราวพ.ศ. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 5/2560 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายและให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 5/2560 ออกคำสั่งเรียกพระวัดธรรมกายรวม 14 รูปมารายงานตัวแต่ พระทัตตชีโว และพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ ไม่เข้ารายงานตัวตามเวลาที่กำหนด ในภายหลังจึงมีการตั้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่งรายงานตัวของหัวหน้าคสช. ต่อมาในวันที่ 22 มีนาคม 2560 พระทัตตชีโวและพระมหาสมชายเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบข้อกล่าวและได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกัน
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่ >>> https://freedom.ilaw.or.th/case/778
นอกจากกรณีของพระทัตตตชีโวและพระมหาสมชายแล้ว ยังมีพระลูกวัดอีกหนึ่งรูปและโฆษกวัดอีกหนึ่งคนซึ่งถูกดำเนินคดีโดยทั้งสองถูกดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 คือ
พระสนิทวงศ์ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายจากการโพสต์ข้อความถึงกรณีที่ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายคนหนึ่งป่วยด้วยโรคหอบและเสียชีวิตในวัดเนื่องจากรถพยาบาลมารับไม่ทันเพราะติดด่านที่เจ้าหน้าตั้งขึ้นในบริเวณวัดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 ต่อมาในวันที่ 9 มีนาคม 2560 พระสนิทวงศ์เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาและได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 400,000 บาท ในวันเดียวกัน
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2560 องอาจ โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากการจัดแถลงข่าวแสดงจุดยืนและความกังวลต่อการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่และข้อพิรุธในการดำเนินคดีต่อพระธัมมชโย ในวันที่ 11 ธันวาคม 2559 เจ้าหน้าที่เห็นว่าคำแถลงขององอาจน่าจะเข้าข่ายเป็นการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวางจึงมีการร้องทุข์กล่าวโทษดำเนินคดีและออกหมายจับองอาจ องอาจเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 และได้รับการประกันตัวในวันเดียวกัน ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
เท่าที่บันทึกได้ มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกหรือการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ออกโดยหัวหน้าคสช.ในกรณีวัดธรรมการแล้วอย่างน้อยสี่คน
ความเคลื่อนไหวคดีมาตรา 112
แจ้งข้อหา ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ “แกนนำนปช.สุรินทร์” เหตุส่งข้อความทาง “ไลน์”
ในเดือนนี้มีผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาคดี 112 เพิ่มอีกหนึ่งคน คือสุริยศักดิ์ ประธานนปช.จังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในวันที่18 มีนาคม 2560 และถูกกล่าวหาว่าเป็นเครือข่ายของโกตี๋ หลังการจับกุมสุริยศักดิ์และพวกถูกนำตัวไปควบคุมที่มณฑลทหารบกที่ 11
ในวันที่ 24 มีนาคม 2560 สุริยศักดิ์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาสองข้อกล่าวหาได้แก่ข้อหาก่อการร้ายจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ในปี 2553 และข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าในวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 สุริยศักดิ์ส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มไลน์ “คนนอกกะลา” ในลักษณะที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยบัญชีไลน์ที่สุริยศักดิ์ถูกกล่าวหาว่าใช้ส่งชื่อว่า“Suriyasak” และรูปโปรไฟล์ของบัญชีไลน์ก็เป็นรูปของสุริยศักดิ์เอง
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
สุริยศักดิ์ (คนใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว) ก่อนการแถลงข่าวที่กองบังคับการปราบปรามในวันที่ 24 มีนาคม 2560
ความเคลื่อนไหว คดี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ
ออกหมายจับ มือโพสต์หมิ่น “พล.อ.ประยุทธ์”
วันที่ 7 มีนาคม 2560 ศาลอาญาออกหมายจับ “ธรรศ วันพฤหัส” ซึ่งถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีกล่าวหาว่า ใช้โปรแกรมบัญชี Twitter ชื่อ UNLIMITEDHEART @Unlimitedheart เขียนข้อความโจมตีพล.ต.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และข้อความต่อต้านการทำงานของรัฐบาลอย่างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560
’วีระ สมความคิด’ ได้หมายจับ ทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
วันที่ 9 มีนาคม 2560 ศาลอาญาออกหมายจับวีระ สมความคิดจากกรณี ทำโพลบนเฟซบุ๊กเพื่อวัดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ต่อมาในวันที่ 15 มีนาคม 2560 วีระเข้ารายงานตัวต่อกับเจ้าหน้าที่และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาก่อนได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนในวันเดียวกัน
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
กฟผ.เผยฟ้องหมิ่นประมาท/พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 15 คดี – ‘ทักษิณ’ ฟ้อง ‘เปลว สีเงิน’
วันที่ 13 มีนาคม2560 กฟผ.เปิดเผยว่าส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับพนง.สอบสวนแล้ว รวม 15 คดี โดยผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์แสดงความคิดเห็นในลักษณะที่เป็นเท็จและกระทบต่อองค์กรเช่น กล่าวหาว่าโรงไฟฟ้าของกฟผ.เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่ทำให้ผู้คนล้มป่วยและตาย หรือสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
วันที่ 30 มีนาคม 2560 ชุมสาย ศรียาภัย ทนายความของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ดำเนินคดีกับ”เปลว สีเงิน” คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา14 (1) (5)และ มาตรา 15 จากกรณีที่เขียนบทความหมิ่นประมาททักษิณเกี่ยวกับกรณีภาษีหุ้นชินคอร์ป
ความเคลื่อนไหวคดีเสรีภาพอื่นๆ
วันที่ 8 มีนาคม 2560 พนักงานสอบสวนสภ.วังสะพุงนัดชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดรวมเจ็ดคนรายงานตัวเพื่อส่งมอบตัวพร้อมความเห็นสั่งฟ้องในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ และคดีร่วมกันข่มขืนใจสมาชิก อบต.เขาหลวง เขตโซนบน 16 คน
หลังเข้าพบกับพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำชาวบ้านทั้งเจ็ดส่งตัวต่ออัยการโดยพนักงานอัยการนัดชาวบ้านฟังคำสั่งคดีในวันที่ 30 มีนาคม 2560
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559 ชาวบ้าน 150 คนรวมตัวกันที่ด้านหน้าสำนักงาน อบต. เขาหลวง เพื่อติดตามการประชุมสภาเพื่อพิจารณาว่าต่ออายุใบอนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้และ ส.ป.ก. เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท ทุ่งคำหรือไม่ โดยชาวบ้านเรียกร้องให้ยกเลิกการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าว
คดีแจกสติกเกอร์โหวตโน บ้านโป่งยังสืบพยาน 4วัน ยังไม่จบ
วันที่ 21 – 24 มีนาคม 2560 ศาลจังหวัดราชบุรีนัดสืบพยานคดีแจกสติ๊กเกอร์โหวตโนประชามติที่อำเภอบ้านโป่งระหว่างวันที่ 21 – 24 มีนาคม 2560 โดยเบื้องต้นกำหนดให้สองวันแรกเป็นการสืบพยานโจทก์และสองวันหลังเป็นการสืบพยานจำเลย อย่างไรก็ตามเนื่องจากทนายจำเลยมีประเด็นซักค้านพยานโจทก์เป็นจำนวนมากจึงสืบพยานโจทก์เสร็จเพียงสองปากเหลือปากที่สามซึ่งอัยการโจทก์ถามเสร็จแล้วแต่ทนายจำเลยยังไม่ได้ถามค้านและพยานโจทก์ปากที่สี่อีกหนึ่งปาก ศาลจังหวัดราชบุรีนัดสืบพยานโจทก์นัดต่อไปในวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ทั้งนี้ตลอดการสืบพยานทั้งสี่วัน ศาลสั่งไม่ให้ผู้ที่มาสังเกตการณ์จดบันทึกหรือรายงานเนื้อหาการสืบพยาน
ดูรายละเอียดคดี ที่นี่
จำเลยและทนายคดีสติกเกอร์โหวตโนประชามติบ้านโป่งถ่านภาพร่วมกันที่หน้าศาลจังหวัดราชบุรี วันที่ 24 มีนาคม 2560
สมาชิก ‘กลุ่มรักษ์วานรนิวาส’ รับทราบข้อหาทำผิดพ.ร.บ.ชุมนุม
วันที่ 23 มีนาคม 2560 ศตานนท์ สมาชิกกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนครเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ โดยในวันที่ 8 มีนาคม 2560 ศตานนท์เชิญประชาชนมาร่วมพิธีสืบชะตาอ่างเก็บน้ำห้วยโทง เบื้องต้นศตานนท์ให้การปฏิเสธ
