ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. เสนอโดยประชาชน ปัดตกโดยรัฐสภา

ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 163 ประชาชนมีสิทธิเสนอกฎหมายหรือแก้ไขพระราชบัญญัติได้โดยการเข้าชื่อกัน 10,000 ชื่อ แต่กระนั้นก็ดี กฎหมายหลายฉบับที่ประชาชนพยายามจะเสนอก็ยังไม่สามารถรวบรวมรายชื่อได้ครบ หรือหากรวบรวมได้ครบก็ยังไม่เคยมีกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนฉบับไหนเลยที่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา

ขณะเดียวกัน นอกจากการเสนอกฎหมายระดับพระราชบัญญัติแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ2550 มาตรา 291 ยังให้ประชาชนมีสิทธิเสนและมีสิทธิเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยการเข้าชื่อกัน 50,000 ชื่อ ในฐานะที่รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ควรจะแก้ไขได้ยาก จึงกำหนดจำนวนรายชื่อไว้สูงกว่าการแก้ไขพระราชบัญญัติ แต่กระนั้นความพยายามของภาคประชาชนในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยอาศัยช่องทางการเข้าชื่อกัน 50,000 ชื่อนั้นก็เคยเดินหน้ารวบรวมรายชื่อจนครบมาแล้วครั้งหนึ่ง

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของ 35 องค์กร นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เก่า ทำการรวบรวมรายชื่อประชาชนซึ่ง คปพร.ระบุว่ารวบรวมได้กว่าสองแสนรายชื่อเมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2551 เพื่อประกอบในการยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ต่อประธานรัฐสภา

หลักการของร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เสนอโดยประชาชนนี้ มีเพียง การเพิ่มบทบัญญัติในมาตรา 5 กำหนดให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และในหมวด 3 ถึงหมวด 15 และบทเฉพาะกาล หรือเรียกได้ว่าทุกส่วนยกเว้นบทบัญญัติในหมวดพระมหากษัติรย์ ให้เอารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับมาใช้

จุดยืนของ คปพร.ต่อการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ได้เคยแถลงเอาไว้ว่า 1) รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นผลผลิตของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คมช.คือ ผู้กำหนดและบงการ ส.ส.ร.50 จึงเป็นรัฐธรรมนูญของระบอบเผด็จการ การลงประชามติยังทำภายใต้กฎอัยการศึกและบรรยากาศทางการเมืองแบบเผด็จการและเป็นไปในเชิงบังคับ 2)รัฐธรรมนูญ 2550 มีเนื้อหาเผด็จการตัดตอนประชาธิปไตย ควบคุมระบบรัฐสภาทำให้รัฐบาลอ่อนแอ ลดทอนอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย เช่น ระบบเลือกตั้ง 1 เขต 3 เบอร์และการแบ่งพื้นที่สัดส่วน 8 ส่วน รวมทั้งการแต่งตั้งวุฒิสมาชิก 74 คน และการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก จังหวัดละ 1 คน เนื้อหาของรัฐธรรมนูญเหล่านี้เป็นอุปสรรคขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศ 3)คปพร.ขอเรียกร้องต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ด้วยการนำรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้ เพราะเป็นการทวงคืนประชาธิปไตย จึงไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับตัดแปะ คปพร.ยังเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 และการลงประชามติด้วย

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาคัดค้านพร้อมระบุว่าเป็นความไม่จริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาล เนื่องจากร่างดังกล่าวยกฉบับปี 40 มาทั้งฉบับ ไม่มีมาตรา 237 เกี่ยวกับคดียุบพรรค และมาตรา309 เรื่องการเอาผิดคดีทุจริตของอดีตผู้นำ

นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้บรรจุญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามร่างของ คปพร. เข้าไปเพื่อพิจารณารวมการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างอื่น รวม 4 ฉบับ และเมื่อวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2553 การประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้อภิปรายประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 2 วัน ท่ามกลางการลงมติมีความวุ่นวายตลอดทั้งวัน ผลการลงมติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับของทางคปพร.ที่เสนอโดยประชาชน ด้วยวิธีการขานชื่อสส.แต่ละคนผลการลงคะแนนออกมาว่า รับหลักการ 222 เสียง ไม่รับหลักการ 235 เสียง งดออกเสียง 123 เสียง

สรุปผล คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่เสนอโดยภาคประชาชน สามารถรวบรวมรายชื่อได้ครบ หรือมากกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. เสนอโดยประชาชน ปัดตกโดยรัฐสภา

ดูร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร.ได้ตามไฟล์แนบ

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ ประชาไท และ siamintelligence

ไฟล์แนบ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage