วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 หลังจากเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนยื่นริเริ่มเข้าชื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนก็ได้เดินทางไปยื่นเทียบเชิญแก่หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาร่วมกิจกรรม “ส่งรักถึงสภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันปิดแคมเปญล่ารายชื่อเพื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน สำหรับวันนี้เครือข่ายยื่นเทียบเชิญให้แก่แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นคนแรกในเวลา 13.00 น. โดยมีรถ “Le Truck – รักเธอ” นำขบวน สำหรับวันนี้จะยื่นให้กับตัวแทนพรรคการเมืองสองพรรค พรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาลเป็นพรรคแรกในเวลา 13.00 น. และพรรคก้าวไกล พรรคฝ่ายค้านในเวลา 15.00 น. โดยในวันนี้สภามีการอภิปรายในญัตติด่วนของพรรคเพื่อไทย ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม
เวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย เครือข่ายฯ รวมตัวกันและนำสแตนดี้จำเลยคดีการเมืองที่ถูกคุมขังในเรือนจำมาเรียงที่ด้านหน้าทางขึ้นพรรคเพื่อไทย อานนท์ ชวาลาวัณย์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนในนามตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนระบุว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทยในวันนี้ พวกเรามาที่นี่ฉันมิตร ด้วยความปรารถนาดี
พวกเราเลือกที่จะมาหาพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแรก ไม่ใช่เพราะท่านเป็นแกนนำรัฐบาล แต่เพราะเราเห็นว่าทั้งส.ส. อดีตส.ส. รวมถึงผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยอย่างกลุ่มคนเสื้อแดง ล้วนเคยเป็นได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารทั้งในปี 2549 และปี 2557 ไม่ว่าจะเป็นการถูกดำเนินคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง หรือการถูกปราบปรามด้วยกำลังจนส่งมีให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นับการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ประเทศได้ก้าวเข้าสู่วังวนความขัดแย้งทางการเมืองแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลให้ประชาชนที่มีความคิดความเชื่อทางการเมืองแตกต่างกัน ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกทางการเมืองด้วยวิธีต่างๆ ทั้งเข้าร่วมการชุมนุม ปราศรัยหรือพูดในที่สาธารณะ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก ตลอดห้วงเวลาดังกล่าวกฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการกับการแสดงความคิดเห็นจนส่งผลให้มีคนถูกดำเนินคดีไปไม่น้อยกว่า 6,000 คน
เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนเห็นว่าการดำเนินคดีประชาชนที่เกิดจากการแสดงออกทางการเมือง ไม่เพียงสร้างผลกระทบให้กับผู้ถูกดำเนินคดี หากแต่ยังเป็นการตอกย้ำรอยร้าวและความขัดแย้งทางการเมืองยังคงอยู่ในวังวนเดิมๆต่อไป เมื่อพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หลังการเลือกตั้งปี 2566 และอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พวกเราจึงเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชนฉบับนี้ และจะใช้เวลา 14 วันนับจากนี้ในการรวบรวมรายชื่อให้มากที่สุด และเราหวังว่าเมื่อเราทำภารกิจในส่วนของเราแล้ว พรรคเพื่อไทยจะรับช่วงต่อภารกิจของเรา
ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านเคยมีส่วนร่วมในการผลักดันร่างกฎหมายฉบับสำคัญของภาคประชาชน ทั้งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ภาคประชาชนเป็นผู้เสนอทั้งสี่ฉบับ รวมถึงร่างกฎหมายยกเลิกประกาศคำสั่งคสช.ที่ขัดหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจึงหวังว่าเมื่อร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทยจะยังให้การสนับสนุนร่างกฎหมายของภาคประชาชนด้วยการออกเสียงรับหลักการให้ร่างกฎหมายนี้ได้มีโอกาสถูกนำไปพิจารณาในวาระต่อไป
โดยมีพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจมารับเทียบเชิญ ระบุว่า ขอบคุณเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เรื่องนี้ทางพรรคเพื่อไทยคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการนิรโทษกรรม ตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้ยื่นญัตติด่วนเพื่อจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน เรื่องนี้ในสังคมเราค่อนข้างมีเรื่องที่มองเห็นต่างหลายเรื่อง ทางพรรคจึงอยากให้คณะกรรมาธิการฯเป็นตัวแทนทำเรื่องความขัดแย้งที่เห็นต่างกันให้มันไปด้วยกันได้ ทางพรรคเราคิดว่า ตัวกฎหมายนิรโทษกรรมควรเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดองไม่ใช่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมา
