ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจการปกครอง ปรับลดบทบาทของข้าราชการส่วนกลางและภูมิภาค กระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่น แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยยังคงต้องการเข้ามามีบทบาทในท้องถิ่นมากขึ้น เมื่อพรรคภูมิใจไทยและพรรคกล้าธรรมยื่นเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2546 เพื่อให้ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ในพื้นที่ที่ยกระดับเป็นเทศบาลเมืองแล้ว โดยอ้างความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประชาชน
เปิดข้อถกเถียง อำนาจของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตเทศบาล
เดิมทีแล้ว เมื่อท้องที่ใดยกฐานะเป็นเทศบาลแล้ว บทบาทของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ลดลง และโอนไปยังนายกเทศมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแทน ดังจะเห็นได้จากมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2546 ที่กำหนดให้
“เมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะท้องถิ่นใดเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนครแล้ว ห้ามมิให้ใช้ กฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ในส่วนที่บัญญัติถึงการแต่งตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ในท้องถิ่นนั้นและให้บรรดาบุคคลที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันพ้นจากตำแหน่งและหน้าที่เฉพาะในเขตท้องถิ่นนั้น ในเขตเทศบาลตำบลใดถ้าหมดความจำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล หรือสารวัตรกำนัน ให้รัฐมนตรีประกาศยกเลิกตำแหน่งดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา”
“มาตรา 48 เตวีสติ เมื่อพ้นกำหนดเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะ ท้องถิ่นใดเป็นเทศบาลแล้ว ให้นายกเทศมนตรีมีอำนาจหน้าที่อย่างเดียวกับอำนาจหน้าที่ของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน บรรดาที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ หรือกฎหมายอื่น ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง…”
หมายความว่า พ.ร.บ.เทศบาล ฯ ฉบับปัจจุบันกำหนดให้อาจไม่ต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้านปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ระดับเทศบาลขึ้นไป และให้กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งภายใน 1 ปีหลังจากมีประกาศยกฐานะท้องถิ่นใดเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร ส่วนเทศบาลตำบลยังคงให้มีกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ได้ แต่หากหมดความจำเป็น รัฐมนตรีสามารถประกาศยกเลิกตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ โดยอำนาจหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้นายกเทศมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบแทน เพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจ และลดการกำกับดูแลจากส่วนกลาง
แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากบางพื้นที่เปลี่ยนฐานะเป็นเทศบาลเมืองแล้ว แต่ยังคงมีการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ เนื่องจากมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 (แก้ไขเพิ่มเติม 2551) ระบุว่า
“…การยกเลิกตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันและผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้าน จะกระทำมิได้…”
ดังนั้นจึงเกิดความสับสนระหว่างการบังคับใช้กฎหมายสองฉบับว่าตกลงแล้ว กำนันผู้ใหญ่บ้านจะยังคงสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่เทศบาลเมืองได้อยู่หรือไม่ในเมื่อมีกฎหมายห้ามยุบตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ตัวอย่างกรณีของเทศบาลเมืองจอมพล คือแต่เดิมเทศบาลเมืองจอมพลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลจอมบึง (อบต.จอมบึง) อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ภายหลังกระทรวงมหาดไทยมีประกาศให้เปลี่ยนชื่อ อบต.จอมบึง เป็น อบต.จอมพล และยกฐานะพื้นที่บางส่วนของอบต.จอมบึง เป็นเทศบาลเมืองจอมพล ทำให้ ตำบลจอมบึง ถูกแยกเป็นสองหน่วยการปกครองภายในอำเภอเดียวกัน
ต่อมาเมื่ออำเภอจอมบึงประกาศให้มีการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านในอำเภอจอมบึง ปรากฏว่ามีการจัดเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของเทศบาลเมืองจอมพลด้วย ทั้งที่มาตรา 4 พ.ร.บ.เทศบาลกำหนดไว้ว่าเทศบาลเมืองห้ามนำกฎหมายการแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านมาใช้ แต่ทางนายอำเภอจอมบึงและผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีมองว่า การไม่ให้มีการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ถือว่าเป็นการยกเลิกตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านไปโดยปริยาย ขัดต่อมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 (แก้ไขเพิ่มเติม 2551) ส่วนด้านนายกเทศมนตรีจอมพลยืนกรานว่าการแต่งตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เทศบาลเมืองป็นการขัดต่อกฎหมาย มาตรา 4 พ.ร.บ.เทศบาล ฯ ส่งผลให้เกิดความสับสนและทับซ้อนกันการปฏิบัติหน้าที่ นำมาสู่การฟ้องร้องคดีไปยังศาลปกครอง
ศาลปกครองเคาะ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต้องพ้นจากตำแหน่งในเขตเทศบาล
ความขัดแย้งดังกล่าวคลี่คลายลง เมื่อศาลปกครองเพชรบุรีมีคำพิพากษา (คดีหมายเลขดำที่ 193/2565 คดีหมายเลขแดงที่ 189/2567) วินิจฉัยว่าการพ้นจากตำแหน่งของกำนันผู้ใหญ่บ้านตาม มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล ฯ เป็นการพ้นจากตำแหน่งโดยผลของกฎหมาย ไม่ใช่การถูกยกเลิกตามความหมายของ มาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองท้องที่ ฯ ดังนั้นการแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เทศบาลเมืองจอมพลจึงถือเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย มีผลทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้านที่ปฏิบัติงานอยู่ในเทศบาลเมืองจอมพลต้องพ้นจากตำแหน่งไปตามมาตรา 4 พ.ร.บ.เทศบาล ฯ
ซึ่งหลังจากมีคำสั่งศาลปกครองออกมา ทำให้เรื่องนี้มีความชัดเจนขึ้นและก่อให้เกิดความวิตกกังวลในบรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับบทบาทและอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านซึ่งอาจจะถูกลดความสำคัญลง จนนำมาสู่การเรียกร้องให้มีการยื่นเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการยื่นขอแก้ไข พ.ร.บ.เทศบาล ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านยังคงสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ในเขตเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร
พรรคภูมิใจไทย เสนอให้เทศบาลเมืองมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดูแลความสงบ ความมั่นคง
พรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดว่าสังคมไทยยังคงมีปัญหาด้านความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงที่ท้องถิ่นยังไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง เช่น ปัญหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย, ปัญหาภัยพิบัติและโรคระบาดร้ายแรง, ปัญหายาเสพติด ซึ่งต้องอาศัยการกำกับดูแลจากราชการส่วนกลาง กำนันผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยประสานงานระหว่างชุมชนและรัฐบาล เสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายจากราชการส่วนกลาง แบ่งเบาภาระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้วยแนวคิดดังกล่าวจึงนำมาสู่ข้อเสนอให้มีการแก้ไขให้เฉพาะเทศบาลเมืองที่ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลนครและกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลนครเท่านั้นที่ไม่ต้องมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ในเขตเทศบาลตำบล และเทศบาลเมืองที่ถูกยกเลิกตำแหน่งดังกล่าว ให้สามารถมีตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ โดยมีเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.เทศบาล ดังนี้
เสนอแก้ไขมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2546 โดยกำหนดให้เหลือเพียงเทศบาลนครเท่านั้นที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะพ้นจากตำแหน่งไปหลังการยกฐานะเป็นเทศบาลนครแล้ว 1 ปี ในขณะที่ชุมชนใดยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลและเทศบาลเมืองแล้วก็ยังให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้อยู่
ยกเลิกวรรคสองของ มาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล ฯ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในท้องถิ่นที่ได้เปลี่ยนแปลงเขตเป็นเทศบาลดังกล่าวสิ้นสุดอำนาจหน้าที่เฉพาะในเขตที่ได้เปลี่ยนแปลงนั้น เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลใช้บังคับเป็นต้นไป หมายความว่าหลังจากนี้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองแล้วก็ตาม อำนาจของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะไม่สิ้นสุดไปตามการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล คือยังคงมีอำนาจในพื้นที่ท้องถิ่นเหมือนเดิม ยกเว้นเขตพื้นที่เทศบาลใดที่ยกฐานะเป็นเทศบาลนคร อำนาจของกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขตนั้นก็จะสิ้นสุดลง
ยกเลิกมาตรา 48 เตวีสติ ซึ่งกำหนดว่าท้องถิ่นใดยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลแล้วให้นายกทศมนตรีมีอำนาจหน้าอย่างเดียวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นการยกเลิกมาตรานี้หมายถึงการยกเลิกอำนาจของนายกเทศมนตรี ในส่วนที่ทับซ้อนกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน
สำหรับพื้นที่เทศบาลเมืองเขตใดที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ให้เทศบาลเมืองดังกล่าวมีการเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลใช้บังคับ
พรรคกล้าธรรม เสนอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านในเทศบาลทุกระดับ
เนื้อหาการแก้ไขกฎหมายเทศบาลของพรรคกครีล้าธรรมมีฐานคิดคล้ายกับภูมิใจไทย คือมองว่าสังคมไทยยังคงต้องการการแก้ไขปัญหาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถทำได้ โดยกำหนดให้ท้องถิ่นที่ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร รวมถึงเทศบาลตำบลที่ได้ยกเลิกตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันไปแล้ว ให้สามารถมีตำแหน่งดังกล่าวได้ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ให้ยกเลิกมาตรา 4 ทั้งหมด หมายความว่าทั้งเทศบาลตำบล, เทศบาลเมือง และเทศบาลนครต้องมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านคอยปฏิบัติหน้าที่ทุกระดับ
ให้ยกเลิกวรรคสองของ มาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล ฯ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในท้องถิ่นที่ได้เปลี่ยนแปลงเขตเป็นเทศบาลดังกล่าวสิ้นสุดอำนาจหน้าที่เฉพาะในเขตที่ได้เปลี่ยนแปลงนั้นเมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่ ประกาศกระทรวงมหาดไทยเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลใช้บังคับเป็นต้นไป หมายความว่าหลังจากนี้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนครแล้วก็ตาม อำนาจของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะไม่สิ้นสุดไปตามการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล คือยังคงมีอำนาจในพื้นที่ท้องถิ่นเหมือนเดิม
ยกเลิกมาตรา 48 เตวีสติ ซึ่งกำหนดว่าท้องถิ่นใดยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลแล้วให้นายกเทศมนตรีมีอำนาจหน้าอย่างเดียวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นการยกเลิกมาตรานี้หมายถึงการยกเลิกอำนาจของนายกเทศมนตรี ในส่วนที่ทับซ้อนกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน เช่นเดียวกับร่างภูมิใจไทย
เปรียบเทียบสาระสำคัญของ พ.ร.บ.เทศบาลปัจจุบัน และร่าง พ.ร.บ.เทศบาล
สาระสำคัญ | พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2546 | ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล (พรรคภูมิใจไทย) | ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล (พรรคกล้าธรรม) |
สถานะของกำนันผู้ใหญ่บ้าน | เมื่อท้องถิ่นได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องพ้นจากตำแหน่งภายใน 1 ปี | ให้ตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คงอยู่ในเทศบาลเมืองและเทศบาลตำบลที่ถูกยกเลิกไปแล้ว (ยกเว้นเทศบาลนคร) | ให้ตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ คงอยู่ในเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร |
อำนาจของนายกเทศมนตรี | หลังจากพ้นกำหนด 1 ปี นายกเทศมนตรีมีอำนาจหน้าที่แทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ | ยกเลิกอำนาจนายกเทศมนตรีในการทำหน้าที่แทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน | ยกเลิกอำนาจนายกเทศมนตรีในการทำหน้าที่แทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน |
เงื่อนไขการพ้นตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้าน (มาตรา 4) | ห้ามใช้กฎหมายปกครองท้องที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในเทศบาลที่ได้รับการยกฐานะ | แก้ไขมาตรา 4 เปลี่ยนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ้นจากตำแหน่งเฉพาะในพื้นที่เทศบาลนคร แต่ยังคงอยู่ในเทศบาลเมืองและเทศบาลตำบล | ยกเลิกมาตรา 4 เปลี่ยนให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน คงอยู่ในเทศบาลตำบล เทศบาลเมือง หรือเทศบาลนคร |
การเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล (มาตรา 12) | เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเขตเทศบาล อำนาจของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตที่มีการเปลี่ยนแปลงจะสิ้นสุดลง ภายใน 1 ปี นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงเขต | ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังคงอยู่แม้เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลแล้ว (ยกเว้นเทศบาลนคร) | ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังคงอยู่แม้เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลแล้ว |
บทบาทนายกเทศมนตรี (มาตรา 48) | ให้นายกเทศมนตรีมีอำนาจหน้าที่แทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายปกครองท้องที่ | ยกเลิกมาตรา 48 ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีอำนาจหน้าที่ต่อไป | ยกเลิกมาตรา 48 ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีอำนาจหน้าที่ต่อไป |
สรุปเทศบาลไหนต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้านบ้าง
ประเภทเทศบาล /กฎหมายของพรรคต่าง ๆ | พ.ร.บ. เทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546 | ร่าง พ.ร.บ. พรรคภูมิใจไทย | ร่าง พ.ร.บ. พรรคกล้าธรรม |
เทศบาลตำบล | หากหมดความจำเป็นให้รัฐมนตรีประกาศยกเลิกตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ | กำหนดให้กลับมามีตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ แม้จะถูกยกเลิกไปแล้ว | กำหนดให้กลับมามีตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ แม้จะถูกยกเลิกไปแล้ว |
เทศบาลเมือง | ห้ามแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน หลังจากได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองภายใน 1 ปี | ให้มีการเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน | ให้มีการเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน |
เทศบาลนคร | ห้ามแต่งตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน หลังจากได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครภายใน 1 ปี | ไม่มีตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้าน | ให้มีการเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน |
แนวคิดของกำนันผู้ใหญ่บ้านต่อการปกครองท้องถิ่น
แม้ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะได้ชื่อว่ามาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนในพื้นที่เป็นผู้เลือกผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านจากหมู่บ้านต่าง ๆ มาร่วมกันเลือกกำนันอีกที แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านเหล่านี้ อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยข้าราชการจากกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ร่วมมือกับข้าราชการจากส่วนกลาง เช่น นายอำเภอ, ปลัดอำเภอ ในการรับนโยบายจากรัฐบาลเข้ามาปฏิบัติ ยกตัวอย่าง การรักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งของนายอำเภอ, ช่วยเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น ดังนั้น กำนันผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นตัวแทนของอำนาจรัฐบาลในการนำเอานโยบายจากส่วนกลางมาปฏิบัติบนพื้นที่ที่ยังต้องการการดูแลอยู่ เช่น พื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล, เทศบาลตำบลบางพื้นที่ การที่กฎหมายกำหนดให้ท้องถิ่นใดยกฐานะเป็นเทศบาลแล้ว ไม่ให้มีกำนันผู้ใหญ่บ้านอีกต่อไป ก็เพื่อลดการพึ่งพาอำนาจจากส่วนกลาง และเน้นจัดบริหารจัดการพื้นที่ของตัวเอง
กำนันผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจในเขตเทศบาล ภูมิใจไทย-กล้าธรรมยืนยัน อำนาจไม่ทับซ้อนกับอำนาจนายกเทศมนตรี
ข้อกังวลเกี่ยวกับการทับซ้อนกันของอำนาจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตเทศบาลเมืองและเทศบาลตำบล และนายกเทศมนตรีนั้น พรรคภูมิใจไทยและพรรคกล้าธรรมต่างยืนยันหนักแน่นผ่านเอกสารเอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกลไกสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง เช่น การปราบปรามยาเสพติด, ปัญหาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, ปัญหาภัยพิบัติและโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะแตกต่างจากการบริหารสาธารณะที่เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงเป็นคนละส่วนที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อีกทั้งยังเสริมสร้างความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
สภาพการบริหารราชการแผ่นดินของไทยจากนี้หากกฎหมายฉบับนี้ถูกบังคับใช้
ต้องยอมรับว่าแม้การเพิ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขตเทศบาล จะทำให้นโยบายจากรัฐบาลกลางอย่างกระทรวงมหาดไทย ถูกนำมาบังคับใช้ในพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชนได้มากยิ่งขึ้น แต่ข้อสังเกตคือการเพิ่มบทบาทกำนันผู้ใหญ่บ้านบนพื้นที่เทศบาล เท่ากับเป็นการลดบทบาทอำนาจของนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตามมาตรา 48 เตวีสติ และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังคงไม่มีความไว้วางใจในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดูแลจัดการในด้านนโยบายของตัวเอง เห็นได้จากการกล่าวเหตุผลที่ต้องแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ โดยเน้นไปที่ความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก ดังนั้นสภาพการบริหารราชการแผ่นดินของไทยหลังจากกฎหมายฉบับนี้ถูกใช้บังคับจะทำให้การบริหารราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นเข้ามามีอำนาจในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น และแม้ว่าทางพรรคจะออกมากล่าวว่า อำนาจของกำนันผู้ใหญ่บ้านและการจัดทำบริการสาธารณะจะเป็นงานคนละส่วนกัน แต่ก็อาจนำไปสู่ความสับสนในแง่ของความซ้ำซ้อนในการบริหารงาน และทำให้ท้องถิ่นขาดความเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอำเภอและจังหวัดอยู่แล้ว
กำนันผู้ใหญ่บ้านอำนาจนอกเหนือจากการปกครอง คือสายสัมพันธ์และบารมี
นอกเหนือจากอำนาจที่ได้รับการบังคับบัญชาโดยตรงจากข้าราชการกระทรวงมหาดไทยแล้ว กำนัน ผู้ใหญ่บ้านยังถือเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับความเคารพจากลูกบ้าน เป็นผู้มีบารมีในชุมชนและมีปากมีเสียง ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ของประชาชนในชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เชิญชวนลูกบ้านในชุมชนไปทำกิจกรรมของภาครัฐ ชวนคนไปฉีดวัคซีน ชวนคนไปส่งงานส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และสิ่งสำคัญคือการมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ โดยอาศัยความน่าเชื่อถือและศรัทธาของประชาชน ในการชี้นำหรือแนะนำผู้สมัครให้กับประชาชนได้ หรือแม้แต่การมีส่วนร่วมในการแจกจ่ายเงินเพื่อซื้อเสียงในการเลือกตั้ง เช่น กรณีที่มีการแบ่งสายเดินแจกเงินหัวละ 500 บาท ในการเลือกตั้งอบจ. เป็นต้น ดังนั้นอิทธิพลของกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้มีแต่เพียงการประสานงานเชื่อมโยงรัฐบาลกับท้องถิ่น แต่ยังมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่ พรรคการเมืองใด หรือรัฐบาลใดสามารถออกนโยบาย หรือกฎหมายให้เป็นที่ถูกใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป