ย้อนที่มาการอดอาหารเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของขนุน-สิรภพ จำเลยม. 112

1 มีนาคม 2568 เข้าสู่วันที่เก้าของการอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวและยุติการนำมาตรา112 มาใช้ในทางการเมืองของขนุน-สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังระหว่างการอุทธรณ์คดีมาตรา 112 จากการปราศรัยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ขณะนี้เขาถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อติดตามอาการระหว่างการอดอาหาร ขนุนถือเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองคนที่ 19 ที่อดอาหารระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ ชวนรู้จักขนุนและที่มาของการอดอาหารครั้งนี้

ใครคือขนุนสิรภพ

ขนุน เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองอายุ 24 ปี ช่วงที่คสช.ทำการรัฐประหารในปี 2557 เขากำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมฯปีที่สาม ไม่ได้มีความเข้าใจทางการเมืองนัก จุดเปลี่ยนที่ทำให้ขนุนสนใจการเมืองคือ การร่วมงานรัฐศาสตร์แฟร์และพบกับนักกิจกรรมอย่างแฟรงค์-เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ทำให้เขาเริ่มมีความสนใจและเสาะแสวงหาความรู้มากขึ้น จากนั้นขนุนเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ในคลื่นการชุมนุมปี 2563 ขนุนเริ่มเป็นที่รู้จักจากการชุมนุม “เสียดสี” กรณีที่มีการจัดสวนที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยปิดกั้นการใช้พื้นที่ทางประวัติศาสตร์แสดงออกเรียกร้องประชาธิปไตย วันดังกล่าวเขาในนามตัวแทนของกลุ่ม “มศว คนรุ่นเปลี่ยน” กล่าวย้ำข้อเรียกร้องสามข้อของเยาวชนปลดแอก ได้แก่ การยุบสภา หยุดคุกคามประชาชนและร่างรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมทั้งตะโกนว่า สวนสวยจริงๆ เพื่อเสียดสีการจัดสวนจำกัดพื้นที่เสรีภาพ

เหตุแห่งคดีมาตรา 112

ขนุนเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาและนักเคลื่อนไหว เขาไม่ใช่นักปราศรัยแต่เมื่อแกนนำราษฎรจำนวนมากถูกคุมขังหลังการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 14-15 ตุลาคม 2563 ขนุนจึงตัดสินใจขึ้นปราศรัยเป็นครั้งแรก ๆ เดือนถัดมาที่ประชุมร่วมของรัฐสภามีวาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ราษฎรนัดหมายชุมนุมที่หน้ารัฐสภาแต่ต้องเผชิญกับการปราบปรามอย่างรุนแรงของตำรวจและการปะทะกับฝ่ายปกป้องสถาบันกษัตริย์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้มีการนัดชุมนุมเพื่อตอบโต้ที่แยกราชประสงค์เคลื่อนตัวไปที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงเย็นของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งวันดังกล่าวขนุนปราศรัยในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์และเป็นเหตุให้เขาถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112

คดีนี้ทำให้ขนุนต้องเข้าเรือนจำครั้งแรกในช่วงนัดฟังคำสั่งฟ้องเดือนพฤษภาคม 2564 โดยไม่คาดคิดมาก่อนและไม่มีครอบครัวอยู่ด้วย

อยู่ห้องเวรชี้ผู้พิพากษาก็บอกว่า ไม่ให้ประกันนะแล้วก็ยิ้มแหยะๆ คือแบบผมก็ ฮะ! แล้วก็ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากผมก็รีบเขียนจดหมายไว้ อย่าเรียกจดหมายเลยคือตอนนั้นแบบมีอะไรเขียนได้เขียนไว้หมดเพราะว่าตอนนั้นตำรวจแบบอยู่ข้างหลังแล้วบอกว่า ไปเข้าห้องนู้นกันนะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยสักอย่างเลยไม่ได้บอกใคร ไม่ได้พูดอะไรกับใคร ผมแค่บอกทุกคนว่าเอ้ยเดี๋ยวก็ได้ออกมาไม่มีอะไรหรอกก็คงประมาณนี้ก็คือมันน่ากลัวการได้เข้าไปไม่มีประสบการณ์หลาย ๆ อย่างคือมันน่ากลัวในช่วงเวลาแรกแต่พอเราเรียนรู้มันคือเราต้องปรับตัวถ้าเรากลัวอยู่อย่างนั้น เราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตไม่ได้ทำอะไรต่อ

คำพิพากษาและการอดอาหาร

25 มีนาคม 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาว่า การปราศรัยของขนุนเป็นการจาบจ้วง หมิ่นเบื้องสูง แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ มิใช่การติชมโดยสุจริต พิพากษา ลงโทษจำคุกสามปี การนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา โดยเขาไม่ได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์นับแต่นั้น ระหว่างการถูกคุมขังทนายความยื่นของประกันตัวขนุนอย่างน้อย 14 ครั้งแต่ศาลยกคำร้องทั้งหมด

21 กุมภาพันธ์ 2568 หลังถูกคุมขังมา 333 วัน ขนุนประกาศอดอาหารโดยมีข้อเรียกร้องคือ สร้างอิสรภาพที่ถาวรแก่ผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองโดยไร้เงื่อนไข และยุติการนำมาตรา 112 มาใช้ในทางการเมือง ระบุว่า จะไม่ทานข้าว ไม่ทานนมและน้ำหวาน แต่ยังดื่มน้ำเปล่าอยู่ ในวันที่หกของการอดอาหาร ขนุนถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แววตาของเขายังดูสดใสแต่มีอาการเหนื่อยเวลาพูด เขาเล่าให้ทนายความฟังว่า “ทั้งพยาบาลและแพทย์ต่างพยายามหว่านล้อมให้เขารับสารอาหารหรือเกลือแร่ มีการเอาของหวานหรือน้ำหวานมาวางให้พร้อมถามว่ากินไหม แต่ขนุนยังคงปฏิเสธ ยืนยันว่าเขาจะอดอาหารต่อไป โดยพูดว่า ไม่เอา ไม่กิน อิสรภาพ พยาบาลพูดเรื่องบุ้งขึ้นมาบ่อยครั้งว่า ไม่อยากให้ขนุนกลายเป็นแบบนั้น การปฏิบัติโดยรวมก็ค่อนข้างระมัดระวังและดูตั้งใจมาก ขนุนคิดว่าแพทย์พยาบาลน่าจะฝังใจกับเรื่องของบุ้งกันอยู่”

วันที่ 1 มีนาคม 2568 ถือเป็นวันที่เก้าของการอดอาหาร ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เล็บของขนุนเริ่มมีสีม่วงคล้ำ ผื่นขึ้นและไม่มีแรง

📍ร่วมรณรงค์

JOIN : ILAW CLUB

ช่องทางการติดตาม

FACEBOOK PAGE

บทความยอดนิยม

วิดีโอแนะนำ

Amnestypeople.com
Join iLaw club
Facebook Fanpage