5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่หน้ารัฐสภา ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมและสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทยจัดการชุมนุมเพื่อติดตามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ฉบับกมธ. วิสามัญฯที่แก้ไขแล้วเสร็จและจะเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรวาระที่สอง ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเลื่อนการพิจารณามาแล้วสองครั้งเนื่องจากสส.พรรคร่วมรัฐบาลจำนวนหนึ่งคัดค้านหมวด 5 ว่าด้วยพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ท้ายที่สุดต้องเลื่อนพิจารณาและนำมาแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการฯ
พชร คำชำนาญ หนึ่งในคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ขอคารวะดวงวิญญาณของพี่น้องชนเผ่าที่สูญเสียชีวิตบนเส้นทางการต่อสู้ในการยืนยันตัวตนว่า ในสังคมไทยมีกลุ่มคนที่เรียกว่า ชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองอยู่และยืนยันว่า พวกเราเป็นคนไทย ไม่ใช่คนต่างด้าวไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสักคน ไม่มีอะไรแตกต่างกันสักอย่างในความเป็นคน แต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเรากำลังพบเจอคือความพยายามของสส.พรรคร่วมรัฐบาลที่พยายามผลิตซ้ำๆ ทำให้ทัศนคติของสังคมแบบเดิมที่กดทับพวกเราบอกว่าเราไม่ใช่คนไทย บอกว่า พวกเราเป็นผู้ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เสียงพวกนี้มันดังขึ้นมาในสภาและทำให้สังคมก่นด่าพวกเราอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าพี่น้องบรรพบุรุษบรรพชนของเราจะได้ต่อสู้มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ เสียกันไปแล้วหลายชีวิตแต่วันนี้ ยังคงถูกผลิตซ้ำ พ่นถ้อยคำผรุสวาทพวกนี้ออกมาในสภา
พวกเราในฐานะกรรมาธิการในฝ่ายของภาคประชาชนที่เป็นผู้ริเริ่มเสนอ ในนามตัวแทนพี่น้องพีมูฟ และตัวแทนของพี่น้องสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เราถอยจนไม่มีอะไรจะถอยแล้ว เรายอมถอยให้คำว่าชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของ เรา…แต่วันนี้ สิ่งที่เราถอยไม่ได้คือการที่ไม่ใช่เพียงว่าเราจะไม่มีที่ยืนในสังคมเท่านั้น แต่เราจะไม่มีแม้กระทั่งบ้านที่เป็นบ้านของเราจริงๆ ไม่มีแม้กระทั่งที่ดินทำกินที่มันเป็นของเราจริงๆ เราจะไม่มีที่ดิน เราจะไม่มีที่ยืนจริงๆในเชิงรูปธรรมเลย เราจะไม่มีบ้านที่ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ภายใต้สภาวะที่ว่าพวกมันจะไล่เรายังไงก็ได้พวกมันจะออกกฎหมายกดขี่พวกเรายังไงก็ได้ มันจะอุ้มฆ่าพวกเรายังไงก็ได้เหมือนที่บิลลี่ถูกทำ
วันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชั้นสภาผู้แทนราษฎร พวกเรายืนยันว่า กรรมาธิการในส่วนของภาคประชาชนทุกคนเราจะทำงานอย่างเต็มที่จะนำพาจิตวิญญาณของพี่น้องทุกคนที่อยู่ที่นี่ พี่น้องที่อยู่บ้าน ดวงวิญญาณของพี่น้องชนเผ่าทุกคนที่ต้องสูญเสียจากการต่อสู้ ทุกเลือดเนื้อทุกชีวิตเราจะเอาทุกอย่างเข้าไปต่อสู้ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร จะไปทำให้สส.ทุกคนเห็นว่า อำนาจในการกำหนดประเทศนี้เป็นของพวกเราพี่น้องประชาชน
เล่าฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.พรรคประชาชน หนึ่งในกรรมาธิการระบุว่า บรรยากาศวันนี้เท่าที่เราประเมินในห้องประชุมสภาน่าจะตึงเครียดพอสมควรเพราะว่ามีสส.จำนวนหนึ่งในพรรคฝ่ายรัฐบาลเขาคัดค้านในมาตรา 27 เรื่องการประกาศพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มที่คัดค้านมีอยู่สามกลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งคือกลุ่มที่ถือแนวความคิดแบบกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ที่เขาจะไม่อนุญาตให้ใช้กฎหมายอื่นหรือไม่อนุญาตให้ใครไปอยู่ในเขตป่า โจมตีว่า การประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองให้พวกเราอยู่ มันจะเป็นการทำลายป่า กลุ่มที่สองคือ กลุ่มนายทุนเหมือง เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ออกมาคัดค้านการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองฯ “พอไปสแกนดู ทำไมนายทุนเหมืองถึงคัดค้าน ผมก็ตัวอย่างนะครับ มีอยู่หลายพื้นที่ที่กลุ่มชาติพันธุ์เรานั่งทับเหมือนแร่ที่เขาจองไว้อยู่ อมก๋อย ที่ดอยเต่า ที่ชียงรายอย่างนี้มันเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนนะครับว่าพวกเขากลัวจะสูญเสียผลประโยชน์”
กลุ่มที่สามคือกลุ่มที่ไม่ไว้ใจทั้งชาวบ้านอย่างพวกเรา และไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ของเขาเอง เขากลัวว่า ถ้าประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองฯมันจะเท่ากับเป็นการยกพื้นที่ป่าให้ชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไปตกลงกันแล้วมันจะนำไปสู่การควบคุมไม่ได้ “ซึ่ง เรื่องนี้เรามีคำตอบให้ทั้งหมดแล้วถึงที่สุดมันไม่ใช่เหตุผลที่เป็นหลักการ มันเป็นเรื่องผลประโยชน์กับมันเป็นเรื่องของอคติล้วน ๆ”