** ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 กลุ่มญาติฯ (ต่อมาปรับชื่อกลุ่มให้ชัดเจนขึ้นเป็น “กลุ่มญาติผู้เสียหายจากเหตุการณ์ทางการเมือง เมษา – พฤษภา 53”) นำความเห็นที่มีต่อการเขียนกฎหมาย ไปปรับแก้ใหม่แล้ว ติดตามผลการปรับแก้ และอ่านร่างฉบับล่าสุด ที่นี่ **
จากเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2556 ตัวแทนกลุ่มญาติวีรชน เม.ย.-พ.ค. 53 นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด และนายพันศักดิ์ ศรีเทพ ร่วมกันแถลงข่าวการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ประชาชนซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายหลังการยึดอำนาจรัฐโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
ทั้งนี้ แม้ข้อเสนอเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมฯ จะออกมาในหลายรูปแบบผ่านการผลักดันจากทั้งกลุ่มการเมืองและกลุ่มนักวิชาการหลายกลุ่ม แต่ก็ยังไม่มีฉบับใดที่มีเนื้อหาตรงความต้องการกับกลุ่มญาติผู้สูญเสีย เช่น บางฉบับนิรโทษกรรมให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐผู้สั่งการสลายการชุมนุม บางฉบับถูกเบนความสนใจไปที่การนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บางฉบับอ่านแล้วมีความเคลือบแคลงไม่แน่ใจในความหมายฯลฯ
ด้านของตัวแทนกลุ่มญาติ มีความต้องการหลักๆ ที่อยากเห็นกฎหมายนิรโทษกรรม ให้ส่งผลให้
- นิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกอันมีเหตุเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง
- ไม่นิรโทษกรรมให้ทหาร ผู้สั่งการ
- ไม่นิรโทษกรรมให้แก่ผู้มุ่งประทุษร้ายผู้อื่นโดยใช้อาวุธ
นั่นเป็นสาเหตุให้ส่วนหนึ่งของกลุ่มญาติวีรชนเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมขึ้นมาด้วยตัวเอง หลังจากยกร่างขึ้นมารอบแรกแล้ว นอกจากจะนำข้อเสนอนี้เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ยังมีความตั้งใจจะผลักดันร่างกฎหมายผ่านการสนับสนุนลงนามของสมาชิกสภาผู้แทนจำนวนอย่างน้อย 20 คน ให้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาควบคู่ไปกับร่างนิรโทษกรรมฯ ฉบับอื่นๆ
อย่างไรก็ดี หลังตัวแทนกลุ่มญาติวีรชนเผยแพร่เนื้อหาในร่างดังกล่าว ก็เกิดการถกเถียงโต้แย้งอย่างมากว่า ร่างฉบับนี้เขียนไว้ไม่ชัดเจน อาจถูกตีความไปนอกวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และอาจมีผลให้ไม่สามารถนิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากความขัดแย้งทางการเมืองได้
ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ตัวแทนกลุ่มญาติฯ จึงเปิดเวทีเพื่อฟังความเห็นและปรับแก้ไขร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับญาติผู้สูญเสีย เพื่อแก้ไขช่องโหว่ต่างๆ ให้ร่างมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รายละเอียดรายมาตรา มีดังนี้
**หมายเหตุ** iLaw นำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับญาติผู้สูญเสีย มาเผยแพร่รายมาตรา ในลักษณะกระทู้ย่อย และนำความเห็นที่เก็บตกจากการพูดคุยในพื้นที่โซเชียลมีเดีย มาเสริมเป็นความเห็นแนบท้ายในคอมเมนท์
ผู้อ่านสามารถร่วมปรับแก้ผ่านช่องทางการแสดงความเห็นทีละมาตรา ทั้งนี้ สามารถแสดงความเห็นหรือข้อท้วงติง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ภาษากฎหมาย
———————————————————————————————————————-
ร่าง พรบ. นิรโทษกรรมแก่ประชาชน ซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ภายหลังการยึดอำนาจรัฐโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙
หลักการ
ให้มีกฎหมายว่าด้วยนิรโทษกรรมแก่ประชาชนซึ่งได้กระทำความผิดต่อความสงบเรียบร้อยหรือต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ภายหลังการยึดอำนาจรัฐโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙
เหตุผล
โดยที่ได้ปรากฏความขัดแย้งทางการเมืองอันเป็นเหตุให้มีการเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมืองของประชาชนตลอดจนมีการกระทำอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกายภาพหรือการแสดงความคิดเห็นอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายหลังการยึดอำนาจรัฐโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ อันนำไปสู่การกล่าวหาและดำเนินคดีกับประชาชนจำนวนมาก ตลอดจนมีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทรัพย์สินของทางราชการ และเอกชนถูกเผาทำลาย ปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติทั้งทางด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย
ทั้งนี้ เมื่อได้คำนึงว่าบรรดาการกระทำต่างๆ ของประชาชนที่ได้กระทำไปเพื่อแสดงออกซึ่งความคิดทางการเมืองของประชาชน มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความขัดแย้งในทางการเมือง จึงสมควรให้มีการนิรโทษกรรมแก่ประชาชนในกรณีดังกล่าวเพื่อเป็นการให้โอกาสแก่ประชาชนซึ่งเป็นพลเมืองของประเทศและเป็นการรักษาคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยโดยใช้หลักนิติธรรม
อย่างไรก็ตาม ยังมีการกระทำรุนแรงโดยรัฐในการปราบปรามประชาชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งข้าราชการและพลเรือน ทำให้ต้องมีการแยกแยะการกระทำใดๆที่เป็นความผิดร้ายแรงจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต บาดเจ็บ ทุพลภาพ การเผาทำลายทรัพย์สินของเอกชน การกระทำเกินกว่าเหตุของผู้ปฏิบัติการ การออกคำสั่งบังคับบัญชา ฯลฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ออกจากการนิรโทษกรรมนี้ เพื่อให้มีการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม และเพื่อป้องกันไม่ให้การกระทำเหล่านี้เกิดซ้ำขึ้นในภายหลัง
การทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าเพื่อพิสูจน์ทราบความจริง นิรโทษกรรมให้กับบรรดาการกระทำความผิดอันเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง และการลงโทษผู้กระทำความผิดร้ายแรงจนทำให้ผู้อื่นสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการออกคำสั่งยุยง การสั่งการบังคับบัญชาอันนำไปสู่ความรุนแรง สมควรที่จะต้องรับความผิดตามโทษานุโทษ อันจะเป็นรากฐานที่ดีต่อการลดความขัดแย้ง และสร้างความปรองดองของคนในชาติ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้