ศาลอาญานัด ภัทรพงศ์ ไต่สวนละเมิดอำนาจศาล โดยการไต่สวนนัดนี้เลื่อนมาจากนัดวันที่ 19 สิงหาคม 2564
สำหรับบรรยากาศที่ศาลในวันนี้มีการตั้งจุดคัดกรองที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาศาลอาญา และที่หน้าห้องพิจารณาคดี 808 ก็จะมีตำรวจศาลมาคอยดูแลความเรียบร้อยครั้งละห้าถึงหกนาย และมีตำรวจศาลหนึ่งถึงสองนายเข้าไปนั่งในห้องพิจารณาคดีด้วย ผู้ถูกกล่าวหาและผู้ที่เข้าห้องพิจารณาคดียังต้องฝากโทรศัพท์ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีด้วย
เมื่อทราบเรื่อง ชวัลนาถจึงประสานกับ สน.พหลโยธิน เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีการตั้งแผงเหล็กกั้นบริเวณมุกบันไดทางขึ้นอาคารศาล ขณะที่ตัวเธอก็ประสานงานและติดตามสถานการณ์ทางโทรศัพท์ก่อนจะเดินทางมาที่ศาลอาญาในช่วงเย็น
ชวัลนาถ เบิกความว่าเธอเดินทางมาถึงศาลในเวลาประมาณ 16.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เหตุการณ์ต่างๆ สงบแล้ว แต่มาทราบเหตุการณ์ในรายละเอียดและดูคลิปวิดีโอเหตุการณ์ในช่วงบ่ายซึ่งมีเหตุการณ์วุ่นวายในภายหลัง
ในส่วนของตัวผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ ตามคลิปวิดีโอจะเห็นว่าระหว่างที่เบนจา ผู้ถูกกล่าวหาในอีกคดีหนึ่ง กำลังโปรยกระดาษบนบันไดศาลจะปรากฏภาพของภัทรพงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้อยู่หลังแนวรั้วที่เจ้าหน้าที่กั้นเป็นพื้นที่ควบคุมด้วย สำหรับพฤติการณ์ของภัทรพงศ์ในวันเกิดเหตุ นอกจากจะเข้ามาหลังแนวรั้วที่เจ้าหน้าที่กั้นเป็นพื้นที่ควบคุมแล้วยังใช้เครื่องขยายเสียงอ่านบทกวีด้วย.
ชวัลนาถ ระบุว่าแม้ในวันเกิดเหตุจะไม่มีบุคคลใดไม่ว่าประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ศาลมาร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุม และไม่มีรายงานว่า คดีที่มีการพักการพิจารณาระหว่างเกิดเหตุ แปดคดีมีการยกเลิกกระบวนพิจารณาเพราะมีการชุมนุมที่หน้าศาลเป็นมูลเหตุหรือไม่
แต่ก็ถือว่าผู้ชุมนุมประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลเพราะมีผู้ชุมนุมราว 200 คนมาออกันที่หน้าทางขึ้นอาคารศาล มีการใช้เครื่องขยายเสียง จึงถือเป็นการรบกวนการทำงานและการใช้พื้นที่ศาลโดยสภาพ จึงทำบันทึกรายงานอธิบดีศาลอาญาและได้รับคำสั่งให้ตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลกับผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รวมถึงภัทรพงศ์ผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้
ชวัลนาถ เบิกความต่อว่า ที่ผ่านมาเคยมีประชาชนที่มาทำกิจกรรมเมื่อมีบุคคลสำคัญมาเข้ากระบวนพิจารณาคดีที่ศาล ซึ่งหากประสานมาศาลจะจัดจุดคัดกรอง และจุดพักคอยให้ และหากในวันดังกล่าวมีการพิจารณาคดีก็จะจัดห้องสำหรับถ่ายทอดการพิจารณาคดีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้ แต่ในวันเกิดเหตุทางผู้ชุมนุมไม่ได้ประสานมาจึงไม่มีการดำเนินการในส่วนนี้
ส่วนกรณีวันเกิดเหตุไม่มีการตั้งจุดคัดกรองนอกอาคารศาลเป็นเพราะก่อนหน้านี้เคยมีประชาชนร้องเรียนมาว่าการตั้งจุดคัดกรองทำให้ไม่ได้รับความสะดวกจึงยกเลิกไป ส่วนเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่เป็นผู้ประกาศนัดชุมนุมตัวเธอไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นแอดมินหรือเป็นผู้ประกาศนัดหมายการชุมนุม
ศาลอาญานัดฟังคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล ภัทรพงศ์กับเพื่อนอีกสองคนมาที่ศาล หนึ่งในนั้นคือณัฐชนน ไพโรจน์ จากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม สำหรับการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลในวันนี้ไม่พบว่ามีการตั้งจุดคัดกรองที่ลานจอดรถศาลเหมือนวันที่มีนัดพิจารณาคดีการเมืองคดีอื่นๆ
ศาลขึ้นบัลลังก์ในเวลา 9.35 น. แต่มาอ่านคำสั่งคดีนี้ในเวลาประมาณ 10.50 น. โดยก่อนหน้านั้นศาลอ่านคำพิพากษาคดีอื่นอีกสามคดีซึ่งแต่ละคดีใช้เวลาอ่านค่อนข้างนานเพราะมีรายละเอียดเยอะ
ศาลมีคำสั่งว่า การชุมนุมของผู้ถูกกล่าวหากับพวกก็มีลักษณะเป็นการใช้เสียงดัง ใช้เครื่องขยายเสียงในบริเวณศาล รวมถึงมีการตะโกนถ้อยคำต่างๆเป็นระยะ ส่งผลให้มีเสียงรบกวนการพิจารณาคดีและสร้างความเดือดร้อนรำคาญและความไม่สะดวกให้กับประชาชนที่มาติดต่อราชการ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นความผิด
ตามพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหายังไม่ถือว่ามีความรุนแรง ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักศึกษายังมีอายุน้อย ควรให้โอกาสในการกลับตัว จึงเห็นควรให้รอการกำหนดโทษไว้สองปีและให้คุมประพฤติผู้ถูกกล่าวหาไว้ตลอดเวลาที่รอการกำหนดโทษ และห้ามผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีกตลอดระยะเวลาที่รอการกำหนดโทษ
หลังฟังคำสั่ง ทนายความของภัทรพงศ์เปิดเผยว่า คำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาลคดีนี้ถือเป็นคำสั่งที่ออกมาเป็นลำดับสุดท้ายในชุดคดีละเมิดอำนาจศาลที่มีมูลเหตุจากการชุมนุมในศาลอาญาเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 โดยคดีนี้ถือว่าศาลใช้ดุลพินิจลงโทษต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้คือรอการกำหนดโทษไว้ก่อน
ทนายของภัทรพงศ์ระบุด้วยว่า สำหรับทนายถือว่าคำสั่งศาลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจแล้ว เพราะเป็นไปได้ยากที่จะคาดหวังให้ศาลยกคำร้องว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่จะต้องหารือกับผู้ถูกกล่าวหาต่อไปว่าจะอุทธรณ์ ฎีกาหรือไม่
ขณะที่ภัทรพงศ์ระบุว่า ก่อนมาฟังคำสั่งศาลเขายังถามตัวเองว่าวันนี้จะได้กลับบ้านหรือต้องไป 'บ้านใหม่' ซึ่งหมายถึงเรือนจำแทน อย่างไรก็ตามเขาก็ยังมองว่าคดีของเขาพฤติการณ์ไม่ได้มีความร้ายแรง น่าจะไม่ถึงขั้นถูกสั่งจำคุก
สำหรับการดำเนินคดีลักษณะนี้ภัทรพงศ์เห็นว่าตัวเขาเองจากนี้คงต้องระมัดระวังหากจะมาเข้าร่วมกิจกรรมที่บริเวณศาล เพราะศาลอธิบายให้เขาฟังเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ศาลสั่งห้ามกระทำการไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอีก ไม่ได้หมายถึงเฉพาะศาลอาญาแต่หมายรวมถึงศาลอื่นๆด้วย
ภัทรพงศ์ระบุด้วยว่าแม้ศาลจะใช้กฎหมายละเมิดอำนาจศาลดำเนินคดีกับคนที่มาร่วมชุมนุมบริเวณศาล แต่เขาก็เชื่อว่าหากมีคนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็อาจจะมีการชุมนุมที่ศาลอีกในอนาคต