ชลธิชา: การชุมนุมเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย

อัปเดตล่าสุด: 01/09/2564

ผู้ต้องหา

ชลธิชา แจ้งเร็ว

สถานะคดี

ชั้นศาลชั้นต้น

คดีเริ่มในปี

ไม่มีข้อมูล

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล
วันที่ 3 สิงหาคม 2563 กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มมอกะเสด นัดรวมตัวจัดกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย’ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแม็คโดนัลด์สาขาราชดำเนิน ในเวลา 18.00 น. 
 
ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เริ่มมีผู้ทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในชุดแม่มดหรือตัวละครต่างๆ ในวรรณกรรม ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตรึงกำลังทั้งบริเวณริมทางเท้าและบริเวณโดยรอบของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
 
ขณะที่เมื่อถึงเวลาเริ่มกิจกรรม ผู้ปราศรัยรายแรกที่แต่งชุดพ่อมดพูดถึงวรรณกรรมเรื่องนี้ โดยเล่าถึงพ่อมดแม่มดวัยหนุ่มสาวที่ต่อสู้กับเครือข่ายจอมมารไม่ให้ครอบงำโลกเวทมนตร์ได้สำเร็จ จากนั้นก็ได้ทิ้งท้ายด้วยการเสกคาถา ‘เอกซ์เปกโต พาโตรนุม’ และขอให้นึกถึงรอยยิ้มของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมชาวไทยที่หายตัวไปในประเทศกัมพูชา และให้ผู้ชุมนุมเปล่งคาถาโดยพร้อมเพรียงกัน
 
จากนั้นก็มีตัวแทนผู้ชุมนุมสลับกันปราศรัย กระทั่งเวลาประมาณ 19.34 น. มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งแต่งกายในชุดพ่อมด พร้อมสวมหน้ากากคล้ายใบหน้าของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินมาจากทางด้านหลังของผู้ชุมนุมจนทุกคนหันไปมองพร้อมกับการถ่ายรูป กระทั่งผู้ชุมนุมรายดังกล่าวเดินมาหน้าเวที พร้อมกับการที่ให้ผู้สวมหน้ากากรายดังกล่าวชู 3 นิ้ว โดยที่พิธีกรบนเวทีสัมภาษณ์บุคคลดังกล่าว แต่บุคคลที่สวมหน้ากากดังกล่าวก็ตอบเพียงว่า “ไม่รู้” เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชุมนุมได้เป็นจำนวนมาก ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเสกคาถาไล่บุคคลดังกล่าว
 
สำหรับไฮไลท์ของการปราศรัยครั้งนี้อยู่ที่การปราศรัยเรื่องบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทนายอานนท์ นำภา 

ในวันเกิดเหตุไม่มีการจับกุมดำเนินคดีบุคคลใด แต่ในภายหลังมีการดำเนินคดีกับอานนท์ นำภา มาดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ต่อมาจึงมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีมารับทราบข้อกล่าวหาโดยผู้ต้องหาคดีนี้ถูกตั้งข้อกล่าวในความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ผู้ต้องหาคดีจึงนี้ถูกดำเนินคดีที่ศาลแขวงดุสิตแยกจากสำนวนคดีของทนายอานนท์ นำภา

 
ผู้ต้องหาทั้งหกถูกตั้งข้อกล่าวหาตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และ ความผิดตามพ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง 
 
ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 หลังจากนั้นอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
 

สารบัญ

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ชลธิชา แจ้งเร็ว เป็นบัณฑิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร ช่วงปี 2558 ชลธิชาชาร่วมทำกิจกรรมกับขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ก่อนที่จะมาทำงานกับกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย

 
สุวรรณา ตาลเหล็ก เป็นนักกิจกรรมกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย สุวรรณาเคยถูกดำเนินในจากการร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จากนั้นเมื่อกลุ่มราษฎรเริ่ีมเคลื่อนไหวในปี 2563 สุวรรณาก็ออกมาทำกิจกรรมและถูกดำเนินคดีอีกจำนวนหนึ่งรวมทั้งคดีนี้
 
ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ เคยทำกิจกรรมในนามกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย ภัสราวลีถูกดำเนินคดีสำคัญได้แก่คดีมาตรา 112 จากการอ่านแถลงการณ์และปราศรัยหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย รวมทั้งคดีมาตรา 112 จากการร่วมปราศรัยที่สี่แยกราชประสงค์ในวันที่ 24 มีนาคม 2564
 
ธัชพงศ์ แกดำ เคยทำกิจกรรมร่วมกับ ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD.) ในปี 2563 ธัชพงศ์เคยร่วมทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มพะยอมเก๋า และเมื่อกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง บางกลอยขึ้นมารณรงค์ที่กรุงเทพ ธัชพงศ์ก็เข้าร่วมเคลื่อนไหววกับภาคีSaveบางกลอย
 
ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ เคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดลและเป็นนักร้อง นักดนตรีวงสามัญชน
 
ณรงค์ ดวงแก้ว เป็นศิลปินแรป

ข้อหา / คำสั่ง

พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

คำฟ้องคดีนี้พอสรุปได้ว่า

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 จําเลยทั้งหกคน ซึ่งเป็นแกนนํากลุ่มเครือข่ายต่างๆ และเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ หรือเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้มีกิจกรรมการรวมกลุ่มชุมนุมสาธารณะ ร่วมกับ อานนท์ นําภา พวกของจําเลย ซึ่งถูกแยกฟ้องเป็นอีกคดีที่ศาลอาญา ร่วมกันจัดกิจกรรม “ชุมนุมเพื่อขับไล่จอมวายร้าย และปกป้องประชาธิปไตย ด้วยการร่วมกัน เสกคาถาผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้อง ประชาธิปไตย และขับไล่อํานาจมืด จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการตั้งเวทีปราศรัยอยู่บริเวณทางเท้าฝั่งหน้าร้านแมคโดนัลด์ รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดําเนินกลาง

 
พวกจำเลยชักชวนให้ประชาชนมาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัย โดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคําสั่งของ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร หัวหน้าสถานีตํารวจนครบาลชนะสงคราม เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไขว่าการจัดการชุมนุมต้องให้ความสะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ ข้อความหรือป้ายต่างๆ ต้องเป็นข้อความที่ไม่หมิ่นประมาท ดูหมิ่นผู้อื่น และต้องไม่ยุยงปลุกระดม ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 
 
จําเลยทั้งหกกันพวก ได้ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีพูดร้องเพลงปราศรัยโจมตีรัฐบาลเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เรียกร้องให้ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
 
พวกของจําเลยยังมีการพูดพาดพิงโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนฟังแล้วเกิดความรู้สึกเกลียดชัง ต่อต้าน ไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ และรัฐบาล ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้าร่วมชุมนุมและรับฟังปราศรัยจํานวนมาก ประมาณ 200-300 คน ยืนกันหนาแน่นแออัด ไม่เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตร ผู้ใช้ทางเท้าได้รับความเดือดร้อน ไม่สะดวกในการสัญจรผ่านตามปกติ 
 
ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมมีลักษณะสนใจฟังและคล้อยตามคําพูดของจําเลยทั้งหกกับพวก มีการร่วมกันปรบมือ ตะโกนโฮ่ร้อง แสดงความพึงพอใจ ผู้ชุมนุมมีการถือป้ายแสดงข้อความต่างๆ ในลักษณะดูหมิ่นรัฐบาล สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ได้รับความเสียหาย ยุยงเสียดสีบุคคล ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ทั้งจําเลยทั้งหกกับพวกไม่จัดให้มีมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่ราชการกําหนด จึงเป็นการชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือเงื่อนไขของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

พฤติการณ์การจับกุม

ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ารายงานตัวตามหมายเรียก ไม่มีการจับกุมตัว 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลแขวงดุสิต

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
29 กรกฎาคม 2563 
 
เฟซบุ๊กเพจมอกะเสดเผยแพร่โปสเตอร์กิจกรรม เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย โดยตอนหนึ่งของข้อความประชาสัมพันธ์ระบุว่า ประเทศไทยถูกครอบงำด้วยอำนาจมืดมาอย่างยาวนานจึงขอเชิญชวนเหล่าพ่อมดแม่มดมารวมพลังกันปกป้องประชาธิปไตยและทวงคืนอำนาจของประชาชน โดยนัดชุมนุมในวันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 18.00 – 19.30 น. 
 

115759235_581288072535904_1229343784538936524_n

3 สิงหาคม 2563 

กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มมอกะเสด ร่วมกันจัดการชุมนุม เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย ที่ถนนราชดำเนินโดยตั้งเวทีบริเวณร้านแม็คโดนัลด์ราชดำเนิน ตรงข้ามอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
 
ไฮไลท์ของการชุมนุมอยู่ที่การปราศรัยของทนายอานนท์ นำภา ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งมิติด้านงบประมาณ พระราชอำนาจ และบทบาททางการเมือง รวมถึงวิจารณ์บทบาทของ คสช. และองคาพยพ ที่มีส่วนทำให้สถานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อยู่เกินขอบเขตการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
 
การชุมนุมจบลงโดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ และไม่มีการจับกุมบุคคลใด
 
1 กันยายน 2563
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งหกคนในคดีนี้เดินทางเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยก่อนเข้ารายงานตัวทั้งหกแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยแต่งกายด้วยชุดจากภาพยนตร์แฮรีพอตเตอร์ และยืนอ่านคำปราศรัยของทนายอานนท์ นำภา ร่วมกัน ก่อนขึ้นไปรายงานตัวและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยทั้งหมดประสงค์ที่จะให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรในภายหลัง 
 
21 กันยายน 2563
 
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์รายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งหกคนในคดีนี้เข้าพบอัยการตามที่พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวฟ้อง โดยอัยการนัดผู้ต้องหาทั้งหกเข้าพบวันที่ 24 กันยายน 2563 เพื่อฟังคำสั่งคดี
 
28 กันยายน 2563 
 
มติชนออนไลน์รายงานว่า อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีจากวันที่ ออกไปเป็นวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 
 
29 กรกฎาคม 2564 
 
สยามรัฐออนไลน์รายงานว่า อัยการแขวงดุสิตมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหกคนต่อศาลแขวงดุสิตแล้ว 
 
เดลินิวส์ออนไลน์รายงานความเคลื่อนไหวหลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในเวลาต่อมาว่า กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยเกี่ยวกับขั้นตอนทางคดีหลังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อศาลแขวงดุสิตว่า ศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งหมดด้วยการสาบานตนโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ จากนั้นศาลกำหนดวันนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.00 น.
 
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

ชัย ราชวัตร: วิจารณ์นายก

ศิริพร: 212เว็บบอร์ด