- ฐานข้อมูลคดี
พริษฐ์: เพนกวิ้นละเมิดอำนาจศาล
ผู้ต้องหา
สถานะคดี
คดีเริ่มในปี
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
คดีนี้พริษฐ์ถูกกล่าวหาว่า การกระทำของพริษฐ์ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในบริเวณศาล ทั้งพริษฐ์ยังไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดศาลอาญา แต่พริษฐ์ได้แถลงขอโทษต่อศาลในระหว่างการไต่สวน ผู้อำนวยการสำนักงานศาลอาญาซึ่งเป็นผู้กล่าวหาจึงไม่ติดใจดำเนินคดีและศาลได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
พริษฐ์ หรือเพนกวิน เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิดแต่ไปใช้ชีวิตวัยเด็กที่จังหวัดลำปาง พริษฐ์เป็นอดีตเลขาธิการของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ซึ่งทำงานรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการศึกษาไทยให้มีความก้าวหน้า ขณะเกิดเหตุคดีนี้พริษฐ์ศึกษาระดับอุดมศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เช่น
ในวันที่ 28 พ.ค.2561 พริษฐ์ไปทำกิจกรรมกินมาม่าซ้อมยากจนที่บริเวณสกายวอล์ก ประท้วงที่ คสช.ยังไม่ยอมประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเจนขณะที่เศรษฐกิจก็ไม่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกลุ่มที่จะจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วย แต่ไม่ได้ร่วมจดจัดตั้งหรือเป็นสมาชิกพรรคเพราะขณะนั้นเขายังอายุไม่ถึงเกณฑ์ตามกฎหมาย ปัจจุบันเป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
พริษฐ์เคยเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มกิจกรรมนักเรียนนักศึกษาหลายองค์กร เช่น สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมรวมทั้งขบวนการเคลื่อนไหวกลุ่มใหญ่อย่างคณะราษฎร 63 และกลุ่มราษฎร
ข้อหา / คำสั่ง
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
พฤติการณ์การจับกุม
ผู้ถูกกล่าวหาเข้ารายงานตัวตามนัดหมายไม่มีการจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
หมายเลขคดีดำ
ศาล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แหล่งอ้างอิง
8 สิงหาคม 2563
มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ศาลอาญา หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัวทนายอานนท์และภาณุพงศ์หรือไมค์ มาถึงศาลอาญาเพื่อขออำนาจศาลฝากขังในคดียุยงปลุกปั่นจากการร่วมชุมนุมกับเยาวชนปลดแอกในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563
มีประชาชนเดินทางตามมาให้กำลังใจทั้งผู้ต้องหาทั้งสองโดยรวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตู 8 ระหว่างนั้นพริษฐ์ และจุฑาทิพย์มาคอยให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าของกระบวนการอย่างใกล้ชิด
พริษฐ์ทำการปราศัยบริเวณหน้าศาลอาญาตอนหนึ่งว่า “เราจะมุ่งมั่นเคลื่อนไหวต่อไปและจะทำอะไรเพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชนอีกหลายอย่าง วันนี้ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะเรายังไม่รู้ว่ากระบวนการทางกฎหมายที่พี่อานนท์และไมค์ต้องต่อสู้จะมีอะไรบ้าง วันนี้ผมและเพื่อนมาให้กำลังใจ ขอเชิญชวนเย็นนี้จะมีการชุมนุมที่สกายวอล์ค ซึ่งได้เคยคุยกับทนายอานนท์และไมค์ว่ายอมโดนจับ ไม่ยอมรับกระบวนการและหากโดนจับต้องสู้ต่อ
ผมโชคดีที่ยังไม่โดน เราก็ต้องสู้ต่อ ตอนนี้ไม่ใช้การสู้เพื่อเซฟใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่การสู้เพื่อเอาพี่อานนท์และพี่ไมค์ออกมา แต่มันคือการสู้เพื่อประชาธิปไตย การสู้เพื่อหลักการสิทธิและเสรีภาพ พี่อานนท์ต้องการให้สู้ต่อไปเราก็จะสู้ต่อไป ไม่ใช่ที่นี่ ที่โรงพัก หรือที่ไหน เราจะไปสู้ที่สกายวอล์ค ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นก่อน ต่อจากบางเขน ห้วยขวาง และศาลอาญารัชดาเช้านี้”
จากนั้นเวลา 10.20 น. พริษฐ์พาผู้มาให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้งสองมายืนออกันที่ริมรั้วหน้าบันไดศาลซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผงเหล็กกั้นไว้ ก่อนสื่อสารให้ทุกคนพยายามฝ่าแนวรั้วของเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในอาคารศาลอาญา โดยเจ้าหน้าที่นำป้ายข้อกำหนดของศาลอาญาเรื่องการประพฤติตัวให้เรียบร้อยในบริเวณศาลมาติดตั้ง หากกระทำการผิดข้อบังคับจะเข้าข่ายความผิดละเมิดอำนาจศาล แต่ประชาชนที่มาให้กำลังใจก็ปฏิบัติตามจน เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากแผงเหล็ก แต่ไม่มีความรุนแรงหรือการทำร้ายร่างกาย และท้ายที่สุดประชาชนกลุ่มดังกล่าวยังคงยืนรออยู่หน้าบันไดศาลอาญา
15 สิงหาคม 2563
มติชนออนไลน์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จับกุมพริษฐ์ตามหมายจับศาลอาญาจากกรณีเป็นแกนนำปราศรัยชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 (การชุมนุมเยาวชนปลดแอก) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ระหว่างที่พริษฐ์อยู่ในกระบวนการไต่สวนคัดค้านคำร้องฝากขัง ของพนักงานสอบสวน ศาลอาญาแจ้งพริษฐ์เพิ่มเติมว่าเขาถูกกล่าวหาในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเพิ่มเติมด้วย โดยผู้อำนวยการศาลอาญาเป็นผู้ร้องให้ตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลกับพริษฐ์จากกรณีชุมนุมในบริเวณศาลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 และนัดหมายไต่สวนละเมิดอำนาจศาลในวันที่ 11 กันยายน 2563 เวลา 09.00 น.
11 กันยายน 2563
เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า ศาลเริ่มกระบวนการไต่สวนละเมิดอำนาจศาลในเวลา 11.00 น. โดยผู้อำนวยการศาลอาญา ผู้กล่าวหา พริษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหา และทนายความของพริษฐ์ หกคนมาศาล
พริษฐ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนเริ่มการไต่สวน ทนายของพริษฐ์แถลงต่อศาลว่า พริษฐ์ยอมรับว่าได้กล่าวถ้อยคำตามข้อกล่าวหาจริง แต่พริษฐ์ไม่ได้มีเจตนาเป็นปฏิปักษ์ต่อศาล
เมื่อศาลตรวจสำนวนแล้วปรากฏว่าพริษฐ์ยังไม่ได้รับแผ่นซีดีบันทึกเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ผู้กล่าวหาจะนำมาสืบ
ขณะที่ทนายของพริษฐ์แถลงต่อศาลด้วยว่า จะขอให้ศาลไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกกล่าวสองปาก คือพริษฐ์และทนายอานนท์เพื่อพิสูจน์ว่าการกระทำของพริษฐ์ไม่ได้เป็นการขัดขวางรบกวนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหายังไม่ได้รับแผ่นวิดีโอบันทึกเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสแก้ข้อกล่าวหาและเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง จึงให้มอบสำเนาแผ่นซีดีบันทึกเหตุการณ์ให้ผู้ถูกกล่าวหา
หากผู้ถูกกล่าวหามีข้อคัดค้านหรือคำชี้แจงให้ยื่นเป็นคำแถลงเข้ามาในนัดหน้า และให้ผู้อำนวยการสำนักงานศาลอาญาตรวจสอบว่าหลังจากวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกับคำกล่าวหาเกิดขึ้นในบริเวณศาลอีกหรือไม่ แล้วรายงานให้ศาลทราบในนัดต่อไป จากนั้นจึงให้เลื่อนการไต่ออกไปเป็นวันที่ 28 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.
หลังออกจากห้องพิจารณาคดี พริษฐ์ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การกระทำของเขาไม่ใช่พฤติการณ์ละเมิดอำนาจศาล และขอให้ศาลใช้ดุลพินิจในการพิจารณากรณีนี้ด้วยความเป็นธรรม โดยจะขอต่อสู้คดีนี้ไปตามข้อเท็จจริง และยืนยันว่าจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน 2563 ต่อไป