- คดีอื่นๆ, ฐานข้อมูลคดี
กสทช. สั่งระงับการออกอากาศทีวีเสื้อแดงชั่วคราว
อัปเดตล่าสุด: 23/04/2561
ผู้ต้องหา
ทีวี 24
สถานะคดี
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
คดีเริ่มในปี
2558
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
กสทช สั่งระงับการออกอากาศของทีวี 24 และ พีซ ทีวี เป็นเวลา 7 วัน เพราะเนื้อหาของรายการที่ออกอากาศในช่องดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกซึ่งขัดต่อประกาศ คสช.
สารบัญ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ทีวี 24 เดิมคือสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม “เอเชียอัพเดต” (Asia Update) ออกอากาศรายการเกี่ยวกับการเมืองโดยมีคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มเป้าหมาย และยังทำหน้าที่ถ่ายทอดสดการชุมนุม รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ของคนเสื้อแดงด้วย
เอเชียอัพเดตถูกห้ามออกอากาศหลังมีการประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 และกลับมาออกอากาศอีกครั้งในวันที่ 4 กันยายน 2557 โดยเปลี่ยนชื่อสถานีเป็น ทีวี 24 และปรับเปลี่ยนผังรายการใหม่
พีซทีวี (Peace TV) เดิมคือสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง “ยูดีดี” (UDD TV) เป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลายคน เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เป็นผู้จัดรายการ
ภายหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกประกาศฉบับที่ 15/2557 เรื่อง การระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ล 15 สถานี ซึ่งรวมถึงสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดีด้วย ต่อมา คสช. มีมติอนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมรวม 12 ช่อง ที่ถูกระงับการเผยแพร่ภาพภายหลังรัฐประหาร ให้เผยแพร่ภาพได้ สถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลยูดีดีก็กลับมาออกอากาศอีกครั้งภายใต้ชื่อ พีซทีวี โดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการเผยแพร่ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2557 โดยมีการปรับเปลี่ยนผังรายการใหม่
ข้อหา / คำสั่ง
พ.ร.บ. กสทช.
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสช.) พิจารณาว่า รายการต่อไปนี้ คือ รายการอเวคเคน (Awakened) ที่ออกอากาศในวันที่ 2, 5 และ 10 มีนาคม 2558 รายการ นิวส์รูม (News Room) ที่ออกอากาศในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ วันที่ 2 และ 10 มีนาคม 2558 และ รายการเดอะ เคลียร์ (The Clear) ที่ออกอากาศในวันที่ 7 มีนาคม 2558 ทางช่อง ทีวี 24
รายการมองไกล (ดำเนินรายการโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์) ที่ออกอากาศในวันที่ 28 ก
พฤติการณ์การจับกุม
ไม่มีข้อมูล
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ไม่มีข้อมูล
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
30 มีนาคม 2558
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติ 4 ต่อ 1 เสียง ให้พักการออกอากาศ ช่อง ทีวี 24 และช่อง พีซ ทีวี เป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่ง เพราะออกอาการรายการที่มีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นการผิดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97 และ 103
ขณะที่ประชาไทรายงานว่า สุภิญญา กลางณรงค์ หนึ่งในกรรมการ กสท. แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ตนเป็นเสียงข้างน้อยที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับการระงับการออกอากาศ เพราะเห็นว่ารายการดังกล่าวของทั้ง 2 ช่อง เป็นการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์การเมือง แม้เลือกข้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นปลุกปั่น นอกจากนี้ การให้พักใช้ใบอนุญาตทั้งสถานี อาจเข้าข่ายลงโทษเกินกว่าเหตุได้ การลงโทษผู้รับใบอนุญาตควรเป็นไปตามลำดับขั้นตอน เช่น เตือน ปรับ พักใช้ เพิกถอน เหมือนกรณีความผิดอื่นๆ ไม่ใช่เป็นการกระทำทางการเมืองแล้วใช้โทษทางลัด
10 เมษายน 2558
เดลินิวส์ รายงานว่า ช่องพีซ ทีวี จะงดออกอากาศตั้งแต่ 0.01 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2558 และจะออกอากาศได้อีกครั้งในวันที่ 17 เมษายน 2558
ก่อนการปิดสถานี มีการถ่ายทอดสดการปิดตัว โดยมี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ธิดา ถาวรเศรษฐ และแกนนำคนสำคัญอื่นๆ ร่วมกันประกาศการปิดทำการตามคำสั่ง กสท. และร้องเพลงประจำสถานีร่วมกัน
สำหรับช่อง ทีวี 24 จะปิดตั้งแต่ 0.01 น. ของวันที่ 11 เมษายน และจะออกอากาศได้อีกครั้งในวันที่ 17 เมษายน เวลา 24.00 น.
ขณะที่ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหาร 4-5 นาย เข้าสังเกตการณ์ พีซทีวี และ ทีวี 24 ที่อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 สถานี โดยไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
18 เมษายน 2558
หลังกลับมาออกอากาศได้ สถานี พีซ ทีวี ออกอากาศรายการมองการไกล ซึ่งเป็นเหตุให้คณะทำงานติดตามสื่อฯ ของ คสช. รายงานไปยัง กสทช. อีกครั้ง
27 เมษายน 2558
ที่ประชุม กสท. พิจารณาเนื้อหารายการมองไกล สถานี พีซ ทีวี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2558 เห็นว่า เนื้อหาที่ออกอากาศในรายการมองไกล มีลักษณะที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุปลุกปั่น ให้เกิดความขัดแย้งและสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการขัดต่อบันทึกข้อตกลงในการออกอากาศระหว่าง กสทช. กับ พีซ ทีวี ทั้งก่อนหน้านี้ได้มีมาตรการตักเตือนเรื่องเนื้อหาของสถานี พีซ ทีวี ไปแล้วสองครั้ง โดยครั้งแรกมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไขที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงการออกอากาศ และครั้งที่สองมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการเป็นเวลา 7 วัน แต่ พีซ ทีวี ยังคงออกอากาศที่มีเนื้อหารายการในลักษณะเช่นเดิมอีก อันเป็นการกระทำความผิดซ้ำ จึงมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง
16 กรกฎาคม 2558
มติชนออนไลน์ รายงานว่า ศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีกสทช.เพิกถอนใบอนุญาตพีซทีวี โดยศาลพิเคราะห์ว่า คำสั่งกสทช. อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่เปิดโอกาสให้ทางสถานีพีซทีวีเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง การเพิกถอนใบอนุญาต ส่งผลกระทบต่อรายได้ ชีวิตพนักงานและวิชาชีพสื่อระหว่างออกอากาศ จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ศาลปกครองสั่งให้กสทช.ทำหนังสือถึงบริษัทวีชายน์ เทเลคอม ผู้ให้เช่าโครงข่ายดาวเทียม ปล่อยสัญญาณออกอากาศ ส่วนทางสถานีต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. กิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ประกาศคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 97 และ 103 รวมถึงบันทึกข้อตกลงที่ทำไว้กับ คสช.อย่างเคร่งครัด
17 กรกฎาคม 2558
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้พีซทีวีกลับมาออกอากาศได้จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในวันนี้กสทช.ได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางไปยังศาลปกครองสูงสุดแล้ว ซึ่งจากนี้ก็จะต้องรอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดต่อไป
18 สิงหาคม 2558
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับเช้า วันที่ 19 สิงหาคม 2558 รายงานว่า สมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการกสทช ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกสทได้ประชุมพิจารณา เนื้อหารายการ "เหลียวหลัง มองไปข้างหน้า เพื่อประชาธิปไตย" ซึ่งออกอากาศในวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 และรายการ "เข้าใจตรงกันนะ" ซึ่งออกอากาศในวันที่ 24 มิถุนายน 2558 และมีมติว่า เนื้อหาของทั้ง 2 รายการ ขัดต่อประกาศคสช. ฉบับที่ 97/2557 103/2557 และแก้ไขประกาศฉบับที่ 97/2557 ซึ่งห้ามออกอากาศรายการที่มีลักษณะยั่วยุปลุกปั่นหรือสร้างความขัดแย้งในสังคม
สมบัติกล่าวว่า เนื่องจากกสทช. ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง ไปที่ศาลปกครองสูงสุด กสทช.จึงไม่อาจใช้คำสั่งทางปกครองระงับการออกอากาศของพีซทีวี หลังจากนี้ กสทช.จะทำหนังสือไปยังศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และขอให้ศาลปกครองยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล