ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงถูกฟ้องหมิ่นประมาท

19 เมษายน 2550

จำเลยได้พูดกระจายเสียงด้วยเครื่องขยายเสียง บริเวณหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึง ซึ่งเป็นที่ชุมชน และในวันนั้นได้มีงานปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ เพื่อโฆษณาให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นฟัง ด้วยคำพูดที่ว่า โจทก์ “หลอกลวงชาวบ้าน สร้างภาพให้ชาวบ้านเห็น ปลูกป่าไม่กี่ไร่เพื่อทำลายป่าชุ่มน้ำเป็นพันไร่ โรงงานถลุงเหล็กของโจทก์สร้างมลภาวะให้กับชาวบ้าน ทำให้เกิดฝนกรด ฝุ่นละออง แก๊สพิษรั่ว สารเคมี โลหะหนัก กองขยะพิษสูง 22.5 เมตร ทำให้น้ำฝนดื่มไม่ได้ ทำให้น้ำท่วมบางสะพาน โจทก์รับคนบางสะพานเข้าทำงานก็ไม่ให้เป็นหัวหน้า แล้วหาเรื่องไล่ออก”

ในขณะที่จำเลยพูดมีบุคคลที่รู้เห็นได้ยินได้ฟังหลายร้อยคน และจำเลยยังให้พวกของจำเลยถือป้ายข้อความ “ป่าของพ่อจะเกลี้ยง ถ้าพวกเหี้ยมไม่พอเพียง”  “แก้มลิงถูกเขมือบ นี่หรือบางสะพานของเรา” “ปลูกพันต้นเบื้องหน้า ทำลายพันไร่เบื้องหลัง” ซึ่งจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่า โจทก์บุกรุกป่าสงวน และยังให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ต่างๆในทำนองเดียวกันนี้  รวมทั้งมีการแจกใบปลิวให้กับประชาชนทั่วไป และนำป้ายซึ่งมีข้อความใส่ร้ายโจทก์ขึ้นแขวนในที่ชุมชน

5 พฤศจิกายน 2550

 โจทก์และจำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 โดยมีข้อตกลงกันดังนี้

 1. จำเลยยอมรับผิด และจำเลยยอมขอโทษโจทก์

 2. จำเลยรับว่า จะไม่ดำเนินการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของโจทก์

โจทก์ถอนฟ้อง   

5 มกราคม 2553

ได้มีคำสั่งจากกรมที่ดินให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.๓ก.) ของบริษัทเครือสหวิริยาจำนวน 52 แปลง รวมพื้นที่ 798 ไร่  (ได้ถูกเพิกถอนตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินเลขที่ 14/2553 ถึงที่ 17/2553 และที่ 20/2553 ลงวันที่ 5 มกราคม 2553 จำนวน 5 คำสั่ง) และในปัจจุบันโครงการโรงถลุงเหล็กในเครือสหวิริยายังมิได้ดำเนินการใดๆ เนื่องจาก อีไอเอ (รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้ชำนาญการ

28 กรกฎาคม 2553

ได้มีคำสั่งจากอธิบดีกรมป่าไม้ให้บังคับใช้มาตรา 25 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 โดยให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) เป็นผู้ทำหน้าที่

อนึ่งชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงได้รวมตัวกันเพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กของบริษัทเครือสหวิริยาในพื้นมาเป็นเวลาเกือบ 6 ปี โดยถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เปราะบางที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ในหลายด้าน

16 พฤษภาคม 2555

ที่สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน ชาวบ้านตำบลแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กว่า 200 คน ยื่นหนังสือต่อตัวแทนนายอำเภอบางสะพานโดยปลัดอาวุโสนายถวิล ฉันทาวรานุรักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจบางสะพาน พ.ต.อ.วิติพจน์ พจนาคม และร้อยเวรผู้รับผิดชอบคดีเกี่ยวเนื่องกับการบังคับใช้ ม.25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 พ.ต.ท.ธฤต เรืองเดชา กรณีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองแม่รำพึงของบริษัทในเครือสหวิริยา จำนวน 52 แปลง พื้นที่กว่า 800 ไร่ 

เนื่องจาก กรณีดังกล่าวมีการบังคับใช้ ม.25 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.53 แต่ปัจจุบันคดีความไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งมีความพยายามยัดข้อหา แจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ติดตามตามตรวจสอบการบุกรุกพื่นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองแม่รำพึง และพื้นที่สาธารณะใน อ.บางสะพาน จำนวน 20 กว่าคดี โดยล่าสุดมีการแจ้งความคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเงินเกือบ 900,000 บาท