23 กุมภาพันธ์ 2556
มีรายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ กับพวกรวม 5 คน จำเลยในคดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ร่วมกันอุ้มฆ่านายอัลรู ไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 โดยจำเลยทั้ง 5 คน ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี
คำร้อง มีเนื้อหาสรุปว่า ได้มีการเข้าไปยุ่งเหยิงและข่มขู่พยาน โดยเฉพาะกรณีของ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก ประจักษ์พยานสำคัญในคดี ที่ถูกข่มขู่ และระบุว่า จะทำลายความน่าเชื่อถือของพยาน โดยระหว่างพยานหลบหนี ก็ถูกติดตามจนไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ถึงแม้พยานจะมีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้ง โดย มีการนำหลักฐานทางราชการในการเปลี่ยนชื่อที่อยู่ของพยานมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพื่อข่มขู่คุกคาม ทำให้พยานต้องมาขอรับความคุ้มครองพยานมาตรการพิเศษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองในคดีอาญา กับดีเอสไอ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สถานเอกอัครราชทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย ได้ทำหนังสือมายังรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 ระบุว่ามีความพยายามขัดขวาง แทรกแซง และทำลายกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งได้นำเอกสารสำคัญของทางราชการประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ออกโดยสถานทูต ซึ่งเป็นเรื่องลับและละเอียดอ่อน รวมถึงเอกสารสำคัญของพยาน เช่น หนังสือเดินทาง เอกสารการเปลี่ยนชื่อ ตั๋วเครื่องบิน เลขที่บัญชี รวมทั้งบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาเปิดเผย
22 พฤษภาคม 2556
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตหัวหน้าจเรตำรวจ และทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท ข่าวสด จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) ต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 24 ก.พ.-20 พ.ค.2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ใส่ความโจทก์เกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวโจทก์ในคดีที่โจทก์ตกเป็นจำเลย คดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ต่อมาศาลอาญามีคำสั่ง เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ยกคำร้อง
นอกจากนี้จำเลยยังให้สัมภาษณ์ ทำนองว่า โจทก์กับพวกมีพฤติการณ์ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ประวิงคดี ก่ออันตรายและเหตุร้ายประการอื่น โดยจำเลยที่ 2 และ 3 ได้นำข้อความไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์และหนังสือพิมพ์ มีข้อความว่า “เนื่องจากปรากฏชัดว่าโจทก์ในคดีนี้กระทำการเข้าข่ายยุ่งเหยิงกับพยาน โดยเฉพาะกรณีของ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานสำคัญในคดี จึงเห็นควรยื่นเรื่องให้ศาลอาญาพิจารณาไต่สวน และเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวโจทก์” และวันที่ 25 ก.พ.2556 เว็บไซต์มติชนเผยแพร่ข้อความทำนองว่า “พ.ต.ท.สุวิชชัย พยานโจทก์ได้ร้องขอให้คุ้มครองพยาน เพราะหวั่นกลัวอิทธิพลของโจทก์ และพวก ซึ่งเป็นที่รับรู้ของวงการตำรวจ และวงการการเมืองของบ้านเราว่า โจทก์มีเครือข่ายการสนับสนุนจากนักการเมืองที่มีอิทธิพลหลายคน อันเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน”
ต่อมาวันที่ 26 มี.ค. 2556 นายธาริตให้สัมภาษณ์อีกว่า “ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวของดีเอสไอว่า ภายหลังดีเอสไอยื่นเรื่องถอนประกัน พล.ต.ท.สมคิดแล้ว ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนๆ หลายวงการให้ระวังตัว เนื่องจาก พล.ต.ท.สมคิด เป็นตำรวจระดับสูง มีเครือข่ายทั้งฝ่ายดีและไม่ดี และเป็นครั้งแรกที่ภรรยาและลูกชายเอ่ยปากพูดเรื่องความปลอดภัย” และข้อความอื่น ซึ่งเป็นเท็จ
การกระทำของจำเลยเป็นการนำความเท็จมาใส่ความโจทก์ อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.328 และจำเลยที่ 2 และ 3 ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
เหตุเกิดที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และทุกตำบลทุกเขตในกรุงเทพมหานคร และทั่วราชอาณาจักร จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษตามกฎหมายและขอให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ มีกำหนด 3 วัน
เบื้องต้นศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
9 กันยายน 2556
นัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรก นายธาริตมอบอำนาจให้ตัวแทนมาขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้อง เนื่องจากนายธาริตยังไม่มีทนายความ ศาลเลื่อนนัดออกไปอีกครั้งเป็นวันที่ 4 ธันวาคม 2556