Hunger Strike: การอดอาหารประท้วงจากประสบการณ์ในต่างแดน

การอดอาหารเป็นวิธีการแสดงออกอย่างสันติหนึ่งที่ถูกใช้โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านผู้มีอำนาจ ‘ตะวัน-ทานตะวัน’ และ ‘แบม-อรวรรณ’ นักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นนักโทษทางการเมืองรายล่าสุดที่ตัดสินใจใช้วิธีการอดอาหารเพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรมไทย โดยมีมูลเหตุมาจากการที่ศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกัน ‘ใบปอ-ณัฐนิช’ จากกลุ่มทะลุวัง และ ‘เก็ท-โสภณ’ ทำให้ทั่งคู่จึงประกาศขอยกเลิกสัญญาประกันของตนเองพร้อมกับการอดอาหารและน้ำ โดยมีข้อเรียกร้องสามข้อได้แก่ ให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้ยุติการดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชน และให้พรรคการเมืองเสนอนโยบายประกันสิทธิเสรีภาพประชาชน รวมถึงยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116

ดูที่มาของการอดอาหารในการประท้วง และกรณีสำคัญจากทั่วโลก

+++ทำไมต้องอดอาหาร+++

การอดอาหารคือหนึ่งในรูปแบบการประท้วงต่อต้านรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจโดยไม่ใช้ความรุนแรง โดยมุ่งหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เป้าหมายของการอดอาหารอยู่ที่การกระตุ้นมโนสำนึกและความรู้สึกรับผิดชอบของผู้มีอำนาจ เพราะความเป็นความตายของผู้ที่อดอาหารประท้วงจะอยู่ในมือของผู้มีอำนาจว่าจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไร โดยปกติผู้ประท้วงด้วยการอดอาหารจะดื่มน้ำหรือของเหลวอื่นในจำนวนเล็กน้อย แต่จะปฏิเสธการรับประทานอาหารตลอดช่วงที่อดอาหาร หรือในบางกรณีก็จะไม่รับทั้งอาหารและน้ำเลย หากเป็นกรณีที่ผู้อดอาหารอยู่ในความควบคุมของรัฐ พวกเขาอาจใช้วิธีบังคับให้ผู้ประท้วงรับอาหารด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อให้ผู้ประท้วงมีชีวิตอยู่ต่อไป
การอดอาหารเคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองโลก โดยเฉพาะในอินเดีย และในไอร์แลนด์ ประเทศอินเดียเคยสั่งห้ามการอดอาหารประท้วงในปี 2404 แต่ชาวอินเดียก็ยังคงใช้วิธีการดังกล่าวในการแก้ไขข้อพิพาทส่วนบุคคลที่อาจไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง เท่าที่มีการสืบค้นข้อมูล การอดอาหารที่มีเป้าประสงค์เพื่อการต่อสู้ทางการเมืองครั้งแรก น่าจะเกิดขึ้นในปี 2452 มาเรียน วอลเลซ ดันล็อป หญิงชาวอังกฤษอดอาหารเป็นเวลา 91 ชั่วโมงในกรุงลอนดอนเพื่อเรียกร้องให้ทางการปฏิบัติกับเธอในฐานะนักโทษการเมืองแทนที่จะเป็นนักโทษทั่วไป โดยการอดอาหารและการเรียกร้องของเธอถือเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ผู้หญิงชาวอังกฤษมีสิทธิเลือกตั้ง

+++ผลกระทบด้านสุขภาพจากการอดอาหาร+++

บทความ “กายวิภาคของการอดอาหารประท้วง: ทำไมต้องทำและจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายมนุษย์ (Anatomy Of A Hunger Strike: Why Is It Done And What Does It Do To The Human Body?)” ระบุว่า โดยปกติ คนที่มีสุขภาพดีจะสามารถอดอาหารประท้วงได้ประมาณ หกถึงแปดสัปดาห์ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องดื่มสารอาหารที่เป็นของเหลว อย่างไรก็ตามหากบุคคลที่อดอาหารปฏิเสธทั้งการรับประทานอาหารและดื่มน้ำ บุคคลดังกล่าวก็อาจเสียชีวิตได้ภายในหนึ่งสัปดาห์
การอดอาหารของอิรอม ชานู ชามิลา ชาวอินเดียที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 500 สัปดาห์ น่าจะเป็นการอดอาหารที่ยาวนานที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวอิรอมถูกบังคับให้อาหารตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งแพทยสมาคมโลกระบุว่า การบังคับให้อาหารกับผู้ที่ประท้วงด้วยการอดอาหารเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของตัวผู้ประท้วง
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายของผู้อดอาหาร ในช่วงสามวันแรกของการอดอาหารร่างกายจะนำน้ำตาลที่สะสมอยู่ในร่างกายออกมาใช้เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายยังคงทำงานต่อไปได้ เมื่อใช้น้ำตาลที่สะสมไว้จนหมด ร่างกายจะเริ่มนำไขมันที่สะสมไว้มาใช้ หลังจากอดอาหารได้เจ็ดวันร่างกายของผู้ประท้วงจะเริ่มย่อยกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในเพื่อหาแหล่งพลังงานที่จะทำให้ดำรงชีวิตต่อไปได้
หลังจากอดอาหารไปได้ประมาณหนึ่งเดือน ร่างกายของผู้อดอาหารอาจมีความเสียหายบางประการอย่างถาวร ซึ่งอาจรวมถึงสูญเสียการมองเห็นหรืออวัยวะภายในล้มเหลว หากการอดอาหารดำเนินไปถึง 45 วัน อาจมีผลกระทบกับหัวใจและหลอดเลือดของผู้ประท้วงซึ่งเป็นเหตุให้เสียชีวิต
เมื่อการอดอาหารยุติลง ตัวผู้ประท้วงก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการกลับมารับประทานอาหารใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวผู้ประท้วงรับประทานอาหารหรือของเหลวเร็วเกินไป โดยความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการกลับมารับประทานอาหารจะเกิดขึ้นกับผู้ที่อดอาหารตั้งแต่ห้าวันขึ้นไป

+++ผลกระทบต่อร่างกายกับความสำเร็จของข้อเรียกร้อง กรณีศึกษาจากต่างประเทศ+++

คาเดอร์ อัดนาน นักกิจกรรมชาวปาเลสไตน์อดอาหารประท้วงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยเขาอดอาหารเพื่อประท้วงการปฏิบัติของรัฐบาลอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประท้วงต่อการปฏิบัติของรัฐบาลอิสราเอลต่อตัวของเขาเองซึ่งรวมถึงการถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานาน และการเข้าถึงกระบวนการทางคดีที่ไม่มีความยุติธรรม ดาเคอร์ยังกล่าวหาด้วยว่ารัฐบาลอิสราเอลซ้อมทรมานเขา ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลกล่าวหาว่าคาเดอร์สนับสนุนกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงชาวปาเลสไตน์ แต่ก็ไม่เคยนำตัวเขามาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ ในการอดอาหาร คาเดอร์ประทังชีวิตโดยรับประทานอาหารเหลวและวิตามินกับเกลือแร่เพียงเล็กน้อย รัฐบาลอิสราเอลยังบังคับให้อาหารเขาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเสียชีวิต
การอดอาหารของคาเดอร์เกิดขึ้นเป็นระยะสอดคล้องกับช่วงที่เขาถูกคุมขัง โดยครั้งหนึ่งคาเดอร์เคยอดอาหารต่อเนื่องถึง 66 วัน ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักของเขาลดลงไป 30 กิโลกรัม ผมร่วง ระบบหัวใจและหลอดเลือดมีปัญหา การขาดสารอาหารยังทำให้การทำงานของสมองของเขามีปัญหา เช่น ความรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ล่าช้าและการสื่อสารโต้ตอบกับผู้อื่นมีปัญหา การอดอาหารของคาเดอร์ทำให้ประเด็นการปฏิบัติของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ได้รับความสนใจจากนานาชาติ ตัวของคาเดอร์ยังได้รับการยอมรับในฐานะสัญลักษณ์ของการต่อสู้ในหมู่ชาวปาเลสไตน์ด้วย อย่างไรก็ตามการอดอาหารของเขาก็ไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงสภาพการปฏิบัติของตำรวจต่อชาวปาเลสไตน์
ที่ประเทศตุรกี ผู้ต้องขังและประชาชนชาวตุรกีมากกว่า 800 คน ร่วมกันอดอาหารหลายครั้งระหว่างปี 2543 – 2549 เพื่อประท้วงการใช้เรือนจำความมั่นคงสูงพิเศษที่ใช้วิธีการขังเดี่ยวผู้ต้องขังและห้ามผู้ต้องขังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยในการอดอาหารผู้ประท้วงจะรับประทานเฉพาะน้ำและของเหลว
ตลอดระยะเวลาเจ็ดปีของการประท้วง มีผู้ร่วมประท้วงเสียชีวิตจากการอดอาหารโดยตรงอย่างน้อย 48 คน และมีอีกอย่างน้อย 74 คน ที่เสียชีวิตจากสาเหตุที่เชื่อมโยงกับการอดอาหาร ผู้ร่วมอดอาหารคนหนึ่งเคยอดอาหารต่อเนื่องเป็นเวลา 558 วันจนถึงแก่ความตาย ขณะที่ผู้ร่วมอดอาหารบางส่วนก็กลายเป็นผู้พิการหลังการอดอาหาร แม้จะถูกกดดันจากการรณรงค์ของทั้งแอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนลและฮิวแมน ไรท์ วอทช์ แต่รัฐบาลตุรกีปฏิเสธข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงและยืนยันที่จะใช้งานเรือนจำความมั่นคงสูงและยังได้ย้ายนักโทษเข้าไปอยู่หลังก่อสร้างแล้วเสร็จด้วย
ที่รัฐมณีปุระ ประเทศอินเดีย อิรอม ชานู ชามิลา เริ่มอดอาหารในปี 2543 เพื่อตอบโต้ “การสังหารหมู่มัลคอม” ที่ประชาชนสิบคนถูกกองทัพอินเดียสังหาร เป้าหมายของเธอคือการยกเลิกกฎหมายกองทัพ (อำนาจพิเศษ) ปี 2501 ซึ่งให้อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญแก่ทหารอินเดียในการปฏิบัติการใน “พื้นที่เฝ้าระวัง” หลังจากอดอาหารได้หกวัน อิรอมถูกจับในข้อหาพยายามฆ่าตัวตายซึ่งถือเป็นความผิดอาญาในอินเดีย กฎหมายอินเดียให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมตัวเธอไว้ยาวนานที่สุดหนึ่งปี และสามารถบังคับให้อาหารผ่านการใส่ท่อจากจมูกไปสู่กระเพาะได้ เจ้าหน้าที่อินเดียจับอิรอมซ้ำหลายครั้งด้วยข้อหาเดิมหลังจากที่เธอถูกควบคุมตัวครบหนึ่งปีและยังอดอาหารต่อไป
การอดอาหารของเธอยาวนานรวม 500 สัปดาห์ เธอสมัครใจหยุดการอดอาหารของตนเองในปี 2559 และได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเพื่อให้เธอสามารถลงรับสมัครเลือกตั้งในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมาถึงได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ศาลสูงของอินเดียมีคำตัดสินว่าเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายกองทัพ (อำนาจพิเศษ) ปี 2501 ขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ยกเลิกกฎหมายทั้งฉบับ สืบเนื่องจากการอดอาหาร อิรอมได้รับรางวัลความสำเร็จตลอดชีพ 2553 จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย และในปี 2558 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลก็ประกาศว่าอิรอมเป็นนักโทษทางความคิด
เนื่องจากในช่วงที่ถูกบังคับให้อาหารผ่านทางท่อ อิรอมไม่ได้ขัดขืน เธอจึงไม่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาวจากการอดอาหาร
อเล็กเซย์ นาวาลนี เป็นผู้นำฝ่ายค้าน นักกิจกรรมชาวรัสเซีย และเป้าของการลอบสังหารหลายครั้ง เขาถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียจับในข้อหาละเมิดเงื่อนไขทัณฑ์บนจากการไม่ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพราะเขาอยู่ระหว่างการฟักฟื้นในประเทศเยอรมนีหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียพยายามลอบสังหารด้วยอาวุธเคมี
อเล็กเซย์เริ่มอดอาหารเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ไม่อนุญาตให้เขาได้รับการดูแลโดยแพทย์ประจำตัวในระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
หลังจากอดอาหารได้ 20 วัน อเล็กเซย์ถูกย้ายไปโรงพยาบาลของเรือนจำซึ่งเขาถูกบังคับให้อาหารเพื่อไม่ให้เสียชีวิต อเล็กเซย์หยุดการอดอาหารหลังจากผ่านไป 24 วันเพราะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าเขามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูง และรู้สึกว่าข้อเรียกร้องบางส่วนได้รับการตอบรับแล้ว
จากการอดอาหารอเล็กเซย์มีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท มือไม่มีความรู้สึก และน้ำหนักลดไป 12 กิโลกรัม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ภาคประชาสังคมและนักการเมืองรัสเซียบางส่วนต่างออกมาแสดงความสนับสนุนอเล็กเซย์ และประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัสเซีย